ไฉนลั่วไห่ผิงจึงไม่เข้ามาน่ะหรือ? ก็เพราะเขาถูกขวางเอาไว้นอกประตูจวนมหาราชครูและมิได้รับอนุญาตให้เข้ามา
ดังนั้นลั่วเยวี่ยอิงจึงต้องเข้ามาจุดธูปแสดงความเคารพ
ลั่วชิงยวนหยิบธูปขึ้นมาเตรียมจุดไฟ ทันใดนั้นก็มีมือยื่นออกมาแย่งธูปไปจากมือของนาง
เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็เห็นลั่วอวิ๋นสี่ที่ดวงตาบวมแดงจากการร้องไห้ กำลังจ้องมองนางด้วยความโกรธจัด
“เจ้าฆ่าท่านตาของข้า ยังกล้ามาอีกรึ?! ข้ามิยอมให้เจ้าจุดธูปแสดงความเคารพท่านตาของข้าหรอก! ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”
ลั่วอวิ๋นสี่โกรธจัด
ลั่วเยวี่ยอิงที่อยู่อีกทางหนึ่งจุดธูปในเตาแล้วเหลือบมองทางหางตา จากนั้นก็ค่อย ๆ ยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ลั่วชิงยวนมองมาที่นางก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เกรงว่าลั่วเยวี่ยอิงคงจะพูดเรื่องเหลวไหลกับลั่วอวิ๋นสี่อีกแล้ว ทว่าลั่วอวิ๋นสี่ก็โง่งมมากพอที่จะหลงเชื่อถ้อยคำของลั่วเยวี่ยอิง
"ลั่วอวิ๋นสี่ เจ้าคิดว่าการที่เจ้าก่อเรื่องขึ้นในวันนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วรึ?" ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาคมกริบ
ลั่วอวิ๋นสี่จ้องนางตาเขม็ง “แล้วเจ้าที่เอาแต่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงเล่า ทำเรื่องเหมาะสมแล้วกระนั้นรึ? ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”
ในยามนี้เอง ลั่วหรงก็เข้ามากระชากตัวลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้ข้างหลังแล้วตำหนิด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เจ้าก่อเรื่องอันใดอีกเล่า!”
ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกไม่เป็นธรรมจนน้ำตาคลอเบ้า
“ข้าก่อเรื่องที่ไหนกันเจ้าคะ? ท่านแม่! ยามนี้แล้วท่านยังปกป้องนางอีกหรือ? นางเป็นบุตรในอุทรของท่านหรืออย่างไรกัน?”
“นางฆ่าท่านตานะเจ้าคะ!”
เสียงนี้ดังชัดเจนไปทั่วทั้งโถงเคารพศพ
ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างได้ยินกันหมด
ลั่วหรงหน้าตาเหยเกและโมโหจัดแล้ว “เจ้ามันเสียสติไปแล้ว! ไสหัวไปจากที่นี่ซะ!”
“ใครก็ได้พาคุณหนูรองไปพักผ่อนที!”
ทันใดนั้นก็มีคนรับใช้เข้ามาบังคับจับตัวลั่วอวิ๋นสี่ไป
ทว่ากลับไม่อาจอุดปากของลั่วอวิ๋นสี่ได้ นางร้องไห้พลางร้องตะโกนว่า “ท่านแม่ ล้วนเป็นเพราะลั่วชิงยวนที่ทำให้ท่านตาต้องตาย! ลั่วชิงยวนฆ่าท่านตา! ท่านอย่าให้นางหลอกได้อีกนะเจ้าคะ!”
ในที่สุดนางพร้อมกับลั่วหรงก็กลับมาที่จวนมหาราชครู แน่นอนว่าลั่วอวิ๋นสี่ย่อมไม่อยากพบนางจึงเริ่มร้องไห้และก่อเรื่อง แต่นางกลับทำอะไรมิได้นอกเสียจากกลับไปขังตัวอยู่ในห้องด้วยความเดือดดาล
ลั่วหรงจับมือของลั่วชิงยวนแล้วเดินเข้ามาในห้อง ทันทีที่นางเข้ามาในห้อง แข้งขาของนางอ่อนแรงจนเกือบจะล้มลง
“ท่านอาเจ้าคะ!” ลั่วชิงยวนรู้สึกตกใจแล้วรีบเข้าไปช่วยประคองลั่วหรงให้นั่งลงบนเตียง
ลั่วหรงนวดขมับพลางถอนหายใจแรง ๆ เห็นได้ชัดว่านางสิ้นไร้เรี่ยวแรงเสียแล้ว
ลั่วชิงยวนเอื้อมมือออกมาจับชีพจรให้อีกฝ่าย “ท่านอาเจ้าคะ หลายวันมานี้ท่านคงอ่อนเพลียมากทีเดียว คราวหน้าท่านต้องพักผ่อนให้ดี ๆ นะเจ้าคะ ความอ่อนล้าทั้งกายใจเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุดแล้ว”
“เรื่องบางอย่างก็อย่าได้เป็นกังวล พยายามผ่อนคลายตนเองสักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ”
ลั่วชิงยวนเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของลั่วหรงจริง ๆ
แต่ลั่วหรงกลับกุมมือของนางแล้วยิ้มด้วยสีหน้าซีดเผือด “ข้ารู้ตัวเองดี”
“หลังจากบิดาของข้าจากไปแล้ว ข้าก็ยิ่งรู้สึกเกินจะทนรับไหว”
“บางทีข้าอาจจะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วก็เป็นได้ ชิงยวน ข้ามีเรื่องต้องบอกเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...