นางปรุงยามาทา บรรเทาอาการคันไปได้เล็กน้อย
จู่ ๆ ได้ยินเสียงเคาะประตูจากนอกเรือน ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย นางรีบใส่เสื้อให้เรียบร้อย
เมื่อจือเฉาไปเปิดประตูเรือนนางเอ่ยขึ้นอย่างตะลึง “ท่านอ๋อง!”
ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงนี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
นางนั่งหันหลังให้ทางประตู ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นนั้นส่งมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าเจือจาง
“บาดแผลของเจ้าหายดีหรือยัง?” เบื้องหลังมีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น
ลั่วชิงยวนรู้สึกถึงความห่วงใยจากในน้ำเสียงของเขา
“ขอบคุณท่านที่ยังอุตส่าห์จดจำบาดแผลหม่อมฉัน หากท่านอ๋องมิหาเรื่อง บาดแผลของหม่อมฉันย่อมฟื้นฟู” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนมิพอใจ
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว
รู้ทั้งรู้ว่านางมักพูดจาเหน็บแนม แต่เขาเองก็มิรู้ว่าเหตุไฉนต้องมาหานาง!
คิดถึงครั้งนี้ที่เขาเป็นฝ่ายเข้าใจนางผิดจริง ๆ หนำซ้ำยังข่มขู่ให้นางรักษาลั่วไห่ผิงอีก ในใจนางย่อมรู้กริ้วโกรธเป็นธรรมดา จึงมิได้ถือสากับนาง
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ “วันพรุ่งข้าให้หมอกู้มาจับชีพจรให้เจ้า”
ทันทีที่สิ้นเสียง ลั่วชิงยวนหันไปพูดกับเขาด้วยคำพูดคมคาย “ท่านอ๋องเห็นว่าหม่อมฉันตายช้าไปงั้นหรือ?”
ประโยคนี้ทำฟู่เฉินหวนเกิดโทสะขึ้นในใจ สีหน้าของเขามืดครึ้มลงในทันที
“ลั่วชิงยวน ต้องทำถึงขั้นนี้จริงเชียวรึ?”
เขาคิดว่าตนมิเคยก้มหัวต่อเรื่องเช่นนี้มาก่อน หากเป็นเมื่อก่อน เข้าใจผิดก็เข้าใจผิดเถิด ลั่วไห่ผิงที่เป็นอัครมหาเสนาบดี ยังตายมิได้
เขาต้องการอิทธิพลของอัครมหาเสนาบดี ต่อให้ข่มขู่หลอกใช้ให้ลั่วชิงยวนช่วยลั่วไห่ผิง ก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว
เขามิเคยคิดว่าตนเป็นคนดี และมิจำเป็นต้องอธิบายการกระทำของตนให้ผู้ใดฟัง
แต่บัดนี้ในใจของเขากลับอึดอัดเป็นที่สุด เขาแค่อยากแสดงความรู้สึกผิด นางฟังมิออกจริงหรือ?
ลั่วชิงยวนเผยยิ้มเย็น “หรือที่หม่อมฉันพูดนั้นมิถูกต้องหรือเพคะ?”
พูดจบ ฟู่เฉินหวนจึงหันร่างจากไป
เมื่อฟู่เฉินหวนจากไป จือเฉาจึงเข้ามา นางถอนหายใจ “พระชายา เหตุใดทุกครั้งที่ท่านอ๋องมาหา ท่านจึงต้องทะเลาะกับท่านอ๋องตลอดเลยเจ้าคะ”
“เป็นเช่นนี้ต่อไป เมื่อใดพวกท่านจักได้คืนดีกัน?”
อย่างไรตอนนี้นางก็ยังเป็นพระชายาที่มิได้หย่าร้าง ต้องพึ่งพาท่านอ๋องในการใช้ชีวิต ทะเลาะกันเช่นนี้ต่อไป เมื่อใดจะจบกัน
“คืนดีรึ?” ลั่วชิวยวนหัวเราะเย็น
“ชะตาของข้าและเขาชงกัน จึงได้ทรมานซึ่งกันและกันเช่นนี้
จือเฉาชะงัก และเอ่ยพูดกัน “แต่บ่าวกลับคิดว่า ชะตาของพระชายาและท่านอ๋องเป็นพรหมลิขิต มิว่าท่านไปที่ใดก็แยกจากกันมิได้”
“พรหมลิขิตนี่ผู้ใดอยากได้ก็เอาไปเถอะ” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนมิพอใจ
วันต่อมา ซ่งเชียนฉู่มาหานางจริง ๆ
แต่แล้วลั่วชิงยวนกลับต้องตะลึงเมื่อเห็นของเบื้องหลังซ่งเชียนฉู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...