ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 484

ลั่วชิงยวนตัวแข็งทื่อ

วาจาต่ำช้าน่ารังเกียจเหล่านั้นทำให้นางรู้สึกโมโหเสียจนมิอาจสะกดกลั้นอีกต่อไปแล้ว

ฟู่เฉินหวนเองก็พลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “ใต้เท้าหลิว”

ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าไม่พอใจ เมื่อใต้เท้าหลิวสังเกตเห็นเข้าก็รีบลุกขึ้นตะโกนว่า “นี่ วันนี้แม่นางฝูเสวี่ยมาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของพวกเรา นับเป็นเรื่องหาได้ยากยิ่งที่จะเชิญนางมาร่ายรำให้พวกท่านได้ชมดู อย่าได้ล้อเล่นจนสร้างความอับอายให้แก่แม่นางฝูเสวี่ยอีกเลย!”

จากนั้นเสียงดนตรีก็บรรเลงต่อไป

ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่นแล้วมองฟู่เฉินหวนจากระยะไกล สายตาทิ่มแทงของนางทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกอึดอัดจนต้องยกจอกสุราขึ้นดื่มอึกหนึ่ง

นางสามารถร่ายรำในหอนางโลมได้ แต่ไฉนจึงร่ายรำที่นี่มิได้?

ฟู่เฉินหวนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันและแววตากลับเย็นชา

ในที่สุดลั่วชิงยวนก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ร่างกายของนางจดจำทุกท่วงทำนองและการเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ ต่อให้ลิ่นฝูเสวี่ยมิได้อยู่ด้วยนางก็สามารถร่ายรำได้สมบูรณ์แบบ

ทว่าเรื่องนี้ก็ทำให้นางเข้าใจว่าตนมิใช่ลิ่นฝูเสวี่ย ย่อมมิอาจเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวนใจดังเช่นอีกฝ่าย

ก่อนที่เสียงดนตรีจะจบสิ้นลง ก็มีคนตะโกนขึ้นมา “ยังไม่ดีพอ เจ้าต้องบิดสะโพกใหมาก จึงจะดูเย้ายวนมากขึ้น”

ผู้ที่กล่าววาจาคือบุรุษที่เพิ่งจะสั่งให้นางเปลื้องอาภรณ์นั่นเอง

ผู้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จึงเอ่ยเตือนว่า “แม่ทัพสวี่ อย่าส่งเสียงรบกวนสิ ชมแสดงไปเถิด”

“แม่นางฝูเสวี่ยมิได้มาร่ายรำให้เจ้าดูเพียงผู้เดียวสักหน่อย”

แม่ทัพสวี่เอ่ยด้วยความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาว่า “พี่ใหญ่หลิวเชิญพวกเรามาที่นี่เพื่อให้แม่นางฝูเสวี่ยสร้างความบันเทิง ข้าก็แค่อยากดูคนเขาออกท่าทาง ในเมื่อแม่นางฝูเสวี่ยทำการค้าด้านนี้ นางก็ควรจะทำให้ลูกค้าอย่างพวกเราพึงพอใจถูกหรือไม่?”

หลังจากเขากล่าวจบก็ขยิบตาให้ลั่วชิงยวนพลางกล่าวว่า “นี่ แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าหว่านเสน่ห์อีกสักหน่อยสิ”

เขาเอ่ยพลางสาธิตให้ดูด้วยตนเอง

วาจาและการกระทำเหล่านั้นทั้งหยาบโลนและน่าสะอิดสะเอียน

จิตใจของลั่วชิงยวนเปี่ยมไปด้วยโทสะ นางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาและจดจำใบหน้านี้เอาไว้แล้ว

มันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนักหรอก!

นางมิได้นำพาแล้วร่ายรำต่อไป

หลังจากร่ายรำจบไปสามเพลง แม่ทัพสวี่ก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งว่า “แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าคงจะร่ายรำจนเหนื่อยแล้วกระมัง? ไฉนเจ้าไม่มาดื่มกับพวกเราเสียเล่า?”

เมื่อเขากล่าวจบก็เดินถือจอกสุรามายื่นให้ลั่วชิงยวน

ฟู่เฉินหวน เจ้ายังเป็นคนยู่หรือไม่?

ถึงแม้ว่านางจะร่ายรำในหอนางโลม แต่นางก็เพียงแค่ร่ายรำเท่านั้น มิต้องมาเอาอกเอาใจบุรุษ หรือดื่มเป็นเพื่อนพวกเขา ฟู่เฉินหวนบ้าไปแล้วใช่หรือไม่? เขาคิดจะทำให้นางต้องอัปยศอดสูเช่นนี้ให้ได้จริง ๆ หรือ?!

ทว่าสีหน้าเย็นชาของฟู่เฉินหวนก็รังแต่จะทำให้นางรู้สึกเหน็บหนาวถึงกระดูก

เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าลมวสันต์พัดระเรื่อยพร้อมแสงแดดที่พอจะอบอุ่นอยู่บ้าง แต่แสงแดดอบอุ่นที่สาดส่องลงมากลับทำให้นางรู้สึกราวกับร่วงหล่นลงไปในโพรงน้ำแข็ง

ความเหน็บหนาวแล่นไปทั่วทั้งตัว ตั้งแต่ร่างกายจนถึงจิตใจ

"มา รีบมาดื่มเร็วเข้าสิ!" เมื่อได้ยินท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการเอ่ยปากเช่นนั้นแล้ว แม่ทัพสวี่ก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

คนอื่น ๆ ต่างก็ร้องตะโกนตาม ๆ กัน "เช่นนั้นก็เริ่มจากข้าก่อน ทีละคนก็แล้วกัน!"

นางรับใช้ยกกาสุรากับจอกสุรามายื่นส่งให้ลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนกำหมัดจนข้อนิ้วซีดขาว นางสะกดกลั้นโทสะพลางปล่อยวางแล้วยกจอกสุราขึ้น

นางแสร้งดื่มให้ผู้อื่นคนแล้วคนเล่า

แต่นางมิได้ดื่มจริง ๆ เพียงแค่ทำทีราวกับว่ากำลังดื่มอยู่ ทว่านางมิได้แตะต้องสุราในจอกแม้แต่หยดเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย