ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 494

ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจแล้วถามว่า “เขาตายได้อย่างไรกัน?”

“เขาถูกน้ำตาเทียนลวกทั้งเป็นน่ะสิ!” ซ่งเชียนฉู่โน้มตัวมากระซิบข้างหู

เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ตกตะลึง

“ว่ากระไรนะ?”

ซ่งเชียนฉู่กล่าวว่า “ข้ามิเอาเรื่องเช่นนี้มาโกหกท่านหรอก ท่านคงได้ยินเรื่องนั้นตามท้องถนนได้มิยากเลย เรื่องมันยาวทีเดียว”

“คนแซ่สวี่เองก็ตายเหมือนกัน มิหนำซ้ำมือทั้งสองข้างก็โดนตัด ช่างน่าสยดสยองยิ่งนัก!”

ลั่วชิงยวนตกตะลึงขึ้นมาทันที

แซ่สวี่หรือ? หรือว่าจะเป็นนายกองสวี่?

“ประเด็นสำคัญก็คือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการบอกต่อหน้าคนแซ่สวี่ว่า กล้าแตะต้องสตรีของข้า นี่ก็คือผลที่ตามมา ต่างหากเล่า”

“ยามนี้ข่าวแพร่สะพัดไปเกือบทั้งเมืองหลวงแล้วว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการหลงรักนางรำแห่งหอนางโลมนางหนึ่ง!”

“ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ”

ซ่งเชียนฉู่ทอดถอนใจกับตนเอง

จิตใจของลั่วชิงยวนบังเกิดความปั่นป่วน ทว่าก็คงอยู่เพียงชั่วขณะก่อนที่นางจะสงบนิ่งอีกครั้ง

สิ่งสุดท้ายที่นางควรจะเชื่อให้น้อยที่สุดก็คือ วาจาของฟู่เฉินหวน

บางทีอาจเป็นเพราะหน้าฉากที่เขาแสดงต่อหน้าผู้อื่น หรืออาจจะมีเหตุผลหรือแรงจูงใจอื่นใด

เขาเป็นผู้ที่มิเคยกระทำสิ่งใดที่ไม่ก่อประโยชน์กับตนเอง

หลังจากเปลี่ยนยาเสร็จก็เย็นย่ำแล้ว หลังจากทานอาหารมื้อเย็น นางก็ไปที่หอฝูเสวี่ยอีกครั้ง

เมื่อแม่เล้าเฉินเห็นนางมาถึง อีกฝ่ายก็รู้สึกเป็นห่วงยิ่งนัก “แม่นางสุขภาพเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ? วันนี้ท่านมิได้รับบาดเจ็บในหอเจาเซียงใช่หรือไม่?”

ลั่วชิงยวนยิ้มพลางเดินเข้าไปข้างใน “ข่าวแพร่สะพัดเร็วยิ่งนัก เจ้าเองก็รู้แล้ว”

“วันนี้เกิดความวุ่นวายในหอเจาเซียงใหญ่โตถึงเพียงนั้น ข้าจักมิทราบได้อย่างไรกัน? แม่นางเจ้าคะ ท่านช่างน่าทึ่งจริง ๆ ยามนี้ชื่อเสียงเรียงนามขอแม่นางฝูเสวี่ยต่างเป็นที่รู้จักของทุกคนในหอนางโลมแห่งเมืองหลวงแล้ว”

ขณะที่ลั่วชิงยวนเดินขึ้นชั้นบน แม่เล้าเฉินก็รั้งนางเอาไว้พลางกล่าวว่า “องค์ชายเจ็ดเสด็จมาและอยากจะพบท่าน แม่นางเจ้าคะ ท่านอยากจะพบเขาหรือไม่?”

“พาข้าไปทีเถิด”

แม่เล้าเฉินพานางไปยังห้องส่วนตัวที่ซ่อนอยู่บนชั้นสอง ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นสุราคละคลุ้ง แม่นางทั้งหลายกำลังบรรเลงฉินและร่ายรำ ส่วนฟู่จิ่งหลีกำลังนั่งสบายอยู่บนเก้าอี้

ฟู่จิ่งหลีกล่าวพลางดื่มสุราลงไปจอกหนึ่ง

หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดนางก็เข้าใจถึงเจตนาที่ฟู่เฉินหวนพยายามเข้าหาฝูเสวี่ย

นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นฝูเสวี่ย เขาก็วางแผนเอาไว้แล้วก่อนที่จะช่วยพานางขึ้นรถม้า

นี่มันชะตาอันใดกัน? ก็เพียงแค่กับดักที่บังเอิญทำให้เขาจับตัวนางได้เสียทุกครั้งไป

ถึงแม้นางจะรู้ว่าเขากำลังตามสืบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้ก็ทำให้นางมิอาจปล่อยผ่านได้

องค์ชายเจ็ดกรุยทางให้เขา ทว่าอีกฝ่ายก็ยังเลือกที่จะข่มขู่และหลอกใช้นาง

หากเป็นฝูเสวี่ย เขาอาจจะใช้เครื่องประดับทองคำนับหมื่นชิ้นเพื่อเอาชนะใจและขอให้นางช่วยเหลือได้

แต่เมื่อเป็นลั่วชิงยวน สมควรที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยคำข่มขู่กระนั้นหรือ?

“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการมีวิธีการของตนเอง แต่หม่อมฉันก็มีศักดิ์ศรีของตนเองเช่นกัน หากองค์ชายเจ็ดต้องการเครื่องประดับทองคำพวกนั้นคืน หม่อมฉันพร้อมให้คนส่งกลับคืนไปให้ที่ตำหนักของท่านได้ทุกเมื่อ”

“แต่หากวันข้างหน้าท่านอยากให้หม่อมฉันไปเป็นแขกของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการล่ะก็ เรื่องนั้นย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แน่เพคะ”

เมื่อฟู่จิ่งหลีได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “แม่นางฝูเสวี่ยกล่าวหนักเกินไปแล้ว ข้าก็แค่บอกเล่าความจริงของเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง เพราะเกรงว่าเจ้ามิรู้เรื่องรู้ราวอันใดก็เท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย