ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 507

“วันนี้ข้าเห็นแม่นางฝูเสวี่ยร่ายรำ ตัวข้าก็ตกหลุมรักเจ้าอย่างหัวปักหัวปำ”

“ข้าเคยยินว่าองค์ชายเจ็ดได้มอบเครื่องประดับทองคำหนึ่งหมื่นชิ้นแก่เจ้า ข้าสงสัยว่าข้าจักสามารถชนะใจเจ้าได้หรือไม่? หากข้ามอบทองคำหนึ่งพันตำลึงให้?”

ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “แน่นอน”

“ทองคำเพียงหนึ่งพันตำลึง คุณชาย ท่านต้องการอะไรจากข้างั้นหรือ?”

ปลากินเหยื่อแล้ว

ฝูจ้าวไม่รีบเผยจุดประสงค์ของตัวเอง เขารู้ว่าเมื่อต้องรับมือกับสตรีที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้ เขามิอาจใจร้อนได้ เขาต้องลงมืออย่างค่อยเป็นค่อยไป

“ข้าขอเชิญแม่นางมาร่ายรำที่จวนของข้าได้หรือไหม?”

ลั่วชิงยวนผงะไปชั่วครู่

เมื่อเขาสังเกตเห็นว่านางตกใจ ฝูจ้าวก็รีบยิ้มออกมาและพูดว่า "หรือบางทีเจ้าอาจร่ายรำให้ข้าดูที่นี่เพียงผู้เดียวเป็นเวลาสิบวันเล่า?”

ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ตกลง”

ฝูจ้าวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และอดมิได้ที่จะเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยว่า "เจ้าชอบเงินทองหรือไม่?”

“ในใต้หล้านี้มีผู้ใดบ้างมิชอบเงินทอง แม้แต่ฝูเสวี่ยก็ด้วยเช่นกัน เช่นนั้นแล้วข้าทำให้คุณชายผิดหวังหรือไม่เจ้าคะ?”

เมื่อฝูจ้าวได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มและพูดว่า “ไม่! ข้าเองก็ชอบมัน!”

“ใต้หล้าก็เป็นเช่นนี้ ข้าชอบความตรงไปตรงมาของแม่นางฝูเสวี่ย”

ฝูจ้าวหรี่ตาลง เขายกฝ่ามือขึ้น และอดมิได้ที่จะสัมผัสแก้มของนาง

ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะทันได้โต้ตอบ ประตูก็ถูกเปิดออกเสียงดังลั่น

เจตนาสังหารอันรุนแรงก็ก่อตัวขึ้น

ฝูจ้าวมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว “แม่นางฝูเสวี่ย ระวัง!”

ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นและผลักลั่วชิงยวนออกไปด้วยฝ่ามือของตัวเอง และเอนตัวไปข้างหลัง หลีกเลี่ยงเจตนาสังหารอันรุนแรงได้อย่างหวุดหวิด

กริชเล่มหนึ่งพุ่งเข้าหากำแพงอย่างแรง

ฝูจ้าวชำเลืองมองด้วยสายตาเย็นชา “ผู้ใดกัน! กล้ามาก่อเรื่องที่นี่!”

ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมอง จึงได้เห็นฟู่เฉินหวนและฟู่จิ่งหลีเดินเข้ามา

“อ้อ อ๋องผู้สำเร็จราชการกับองค์ชายเจ็ดนี้เอง” หลังจากเห็นผู้มาใหม่ชัดเจนแล้ว ฝูจ้าวก็แสดงรอยยิ้มใจดีอีกครั้ง

ฟู่เฉินหวน ค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าและนั่งลง เขามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่เฉียบคม

ฟู่จิ่งหลีก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “แม่นางฝูเสวี่ย ก่อนหน้านี้เจ้าสัญญาไว้แล้วว่าเจ้าจะร่ายรำให้ข้าดูเพียงผู้เดียว”

ในไม่ช้าก็มีการจัดเตรียมการร้องเพลงและการร่ายรำอื่น ๆ

ลั่วชิงยวนมิได้มาปรากฏตัวอีก ฟู่เฉินหวนนั่งอยู่สักพักแล้วจึงลุกขึ้นและจากไป

ทันทีที่ลั่วชิงยวนนั่งลงในห้องของตน ประตูห้องก็ถูกเปิดออกทันที

นางได้เห็นฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา

ลั่วชิงยวนหวีผมอย่างใจเย็น “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการทรงคิดกระทำอันใดกันแน่?”

ฟู่เฉินหวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ามิได้รับอนุญาตให้เสวนากับฝูจ้าว”

ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เพราะเหตุใดหรือเพคะ?”

“หม่อมฉันอยากคุยกัยผู้ใดก็คุยได้ เหตุใดท่านอ๋องจึงต้องบังคับกันเช่นนี้?”

ท่าทีไม่แยแสของนางทำให้ฟู่เฉินหวนโกรธ เขาขู่ว่า “ข้าจักมิพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง!”

ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาที่เฉียบคม “ท่านอ๋องลืมสิ่งที่ท่านสัญญาไว้ก่อนหน้านี้แล้วหรือเพคะ? ท่านสัญญาว่าจักมิยุ่งเกี่ยวกับหม่อมฉันอีก อ๋องผู้สำเร็จราชการเช่นท่าน จักแกล้งทำราวกับมิเคยลั่นวาจาใดออกมาเช่นนั้นหรือ?”

ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นทันที

คิ้วของเขาขมวดมุ่นจ้องมองนางอย่างขุ่นเคือง และพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เพื่อเงินแล้ว เจ้าล่อลวงบุรุษเช่นนี้ก็ได้รึ? เจ้าตบแต่งกับข้าเพื่อเงินตั้งแต่แรกเลยงั้นรึ?!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย