“ว่ากระไรนะ?” สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปฉับพลัน นางพยายามข่มเสียงตะลึงให้ต่ำลง แต่ก็ทำท่านอาฉินในห้องขังตื่นอยู่ดี
เห็นท่านอาฉินพลิกตัว ลั่วชิงยวนจึงรีบจากไปในทันที
นางถามลิ่นฝูเสวี่ยเสียงต่ำ “เจ้าพูดจริงรึ? มิได้มองผิดไปใช่หรือไม่? นั่นไม่ใช่ถุงหอมรึ?”
“ข้าใช้ถุงหอมใส่เงินแล้วมันแปลกอย่างไรกัน? แค่วิธีที่นางโลมมักใช้ เครื่องหอมที่ทุกคนใช้ต่างไม่เหมือนกัน สิ่งนี้มีไว้เพื่อให้อีกฝ่ายจดจำเราได้ดียิ่งขึ้น”
ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนยันกำแพงไว้อย่างอดไม่ได้ คิ้วของนางขมวดแน่น “เช่นนั้นเงินของฉินเฟิง เจ้าเป็นคนให้เขาหรือ? เจ้าช่วยเขาเอาไว้รึ?”
ลิ่นฝูเสวี่ยไตร่ตรอง “ข้าจำได้ราง ๆ ว่าเป็นเช่นนี้ แต่ข้าจำได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะคนที่ข้าเคยช่วยไว้เยอะจะตายชัก”
ลั่วชิงยวนตะลึง “หากเป็นเช่นนี้ อาฉินปลอมอ้างตัวตนของเจ้าหลอกใช้ฉินเฟิงหรือ?”
“เจ้านี่นะ หว่านเสน่ห์ไว้ทั่ว!”
คิดถึงคุณลุงร้านจัดงานศพที่ยังลืมลิ่นฝูเสวี่ยมิได้
ลิ่นฝูเสวี่ยหัวเราะเบาทีหนึ่ง “แสดงให้เห็นได้เพียงเสน่ห์ของข้ามากล้น ชั่วชีวิตนี้ของข้ารักเพียงการร่ายรำ มิสนใจนุรุษใดแม้แต่นิด”
“หากมิใช่เพราะไม่มีที่แสดงความสามารถของข้า ข้าหาได้ยู่ในหอนางโลมนี้ไม่หรอก”
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วถาม “เหตุใดเจ้ามิเข้าวังเล่า?”
“เข้าวังรึ? เข้าวังเป็นได้เพียงนางรำในหอดนตรี องค์จักรพรรดิทรงสนใจ อาจต้องเป็นสนม และร่ายรำให้องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรได้เพียงผู้เดียว”
“หาได้สนุกเท่าร่ายรำให้คนทั้งใต้หล้าดูไม่อย่างไร”
ลั่วชิงยวนคิดตามและพยักหน้า “มีเหตุผล”
“แต่สงสารฉินเฟิงที่ถูกหลอกใช้ บางทีจนถึงตายเขาก็ยังมิรู้ความจริง”
ลิ่นฝูเสวี่ยกลับหัวเราะเบาทีหนึ่ง “เช่นนั้นก็ให้เขารู้ความจริงสิ!”
ลั่วชิงยวนชะงัก “เจ้าอยาก…”
ลิ่นฝูเสวี่ยพูดเสียงต่ำ “ข้าเองก็อยากรู้ สาเหตุการตายของข้าน่ะ”
ลั่วชิงยวนเพิ่งเคยได้ยินน้ำเสียงจริงจังของลิ่นฝูเสวี่ยอย่างหาได้ยาก นางเข้าใจความหมายของลิ่นฝูเสวี่ย จึงหยิบยันต์ใบหนึ่งมาแปะไว้ที่แขน และหลับตา
ลิ่นฝูเสวี่ยจึงสิงร่างนางทันที
ท่านอาฉินที่ได้ยินเสียงสะดุ้งตื่นแต่เช้า บัดนี้นางกำลังเกาะประตูคุกและมองไปทางด้านนอก
สีหน้าของอาฉินซีดขาว ก้าวถอยหลังด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความผวา “เจ้า! เจ้า!”
อาฉินกลัวจนเสียงสั่นคลอน
ลั่วชิงยวนหลุดหัวเราะ “ทำไมรึลี่เซียง เจ้าลืมข้าไปแล้วรึ?”
แต่นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความผวาของอาฉิน กลับเป็นร่างของลิ่นฝูเสวี่ย
“เจ้าเป็นคนหรือผีกัน?” อาฉินจดต้องนางด้วยใบหน้าหวาดกลัว
ลั่วชิงยวนยิ้มตอบ “เจ้าว่าข้าคือคนหรือผีเล่า?”
“หลายปีมานี้ ข้ามิเคยสงสัยเจ้า มิคิดว่าเจ้าเองที่เป็นผู้คร่าชีวิตข้า”
“ข้าเมื่อวัยกำลังหยาดเยิ้ม กลับต้องตายเพราะคนเจ้าเล่ห์อย่างเจ้า แค้นเมื่อหลายสิบปี ในที่สุดจักได้ชำระในวันนี้ ไหนลองว่ามา เจ้าอยากตายด้วยวิธีใดรึ?”
ได้ยินดังนี้ ร่างของอาฉินสั่นคลอนอย่างอดไม่ได้ นางมองลิ่นฝูเสวี่ยอย่างเกร็งกลัว
และคุกเข่าลงพื้นเป็นเสียงดังตุบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...