ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 552

ยังมีพยานอีกคนกระนั้นหรือ?

วันนี้พยานทุกคนในเรื่องนี้จะตบเท้ามาเยือนถึงประตูเลยหรือไม่?

จากนั้นก็มีสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามาในโถงพิจารณาคดีพลางคุกเข่าลง “ใต้เท้า ข้าน้อยหวังเยว่ชิงจากหอฝูเสวี่ยเจ้าค่ะ”

“เจ้าจะให้การเช่นใดหรือ?” ใต้เท้าเหอถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หวังเยว่ชิงตอบว่า “ใต้เท้า ข้าเคยเห็นคนตายทั้งสองคนนั้นเจ้าค่ะ! ข้าเคยเห็นพวกเขาอยู่กับฝูเสวี่ยตรงประตูหลังของหอฝูเสวี่ย แต่ข้าน้อยมิได้ยินว่าพวกเขากล่าวอันใดกันเจ้าค่ะ”

เมื่อใต้เท้าเหอกับลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ต่างก็รู้สึกตกตะลึง

“เจ้าจดจำใบหน้าสองคนนั้นที่ถูกเผาจนดำเป็นถ่านได้ด้วยหรือ? เจ้าถึงกับปั้นเรื่องโกหกตาใสขึ้นมาหลอกลวงทุกคนราวกับเป็นเด็กสามขวบเชียวหรือ?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฉายแววเยียบเย็น

หวังเยว่ชิงผู้นี้มาจากหอฝูเสวี่ยจริง ๆ แต่ลั่วชิงยวนเคยพบหน้าอีกฝ่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และไม่คุ้นเคยกับอีกฝ่ายสักเท่าไหร่นัก เพิ่งจะได้รู้ชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายก็วันนี้เอง

ทว่าหวังเยว่ชิงกลับยืนกรานว่า “ข้างนอกมีป้ายประกาศระบุตัวตนของศพติดอยู่ ข้ามองดูก็จำได้แล้ว! พวกเขาคือทั้งสองคนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงประตูหลังของหอฝูเสวี่ย!”

ในยามนี้เอง ลั่วอวิ๋นสี่ก็แค่นเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “บัดนี้ความจริงก็เปิดเผยออกมาแล้วมิใช่หรือ? หลักฐานตั้งมากมายถึงเพียงนั้นต่างพิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นฝูเสวี่ยที่คิดจะสังหารลั่วเยวี่ยอิงจนนำไปสู่เหตุเพลิงไหม้ในวันนี้!”

“สองคนนั้นตายไปแล้ว ฝูเสวี่ยก็สมควรชดใช้ด้วยชีวิตของตนเองกระมัง?”

ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาคมกริบ “ในเมื่อไร้ซึ่งหลักฐาน ลำพังคำพูดเพียงมิกี่คำของเจ้าก็เปิดเผยความจริงได้แล้วหรือ? แค่พยานที่ตามหลังกันมาติด ๆ พวกนี้ก็ผิดปกตินัก!”

“ข้ามิตายในสวนเซียงอู๋ก็ทำเอาพวกเจ้าหวาดกลัวเสียจนอดรนทนมิไหวหมายตัดสินโทษข้าให้ถึงตายแล้วหรือ?”

ใต้เท้าเหอขมวดคิ้ว พยานที่ตบเท้ากันมาเยือนถึงประตูทีละคน ๆ ช่างมีพิรุธจริง ๆ

“สิ่งที่เจ้าว่ามาจำเป็นต้องตรวจสอบไปทีละอย่าง! มีเพียงการพิสูจน์ว่าสิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง พวกเราจึงจะสามารถตัดสินโทษได้!”

“ฝูเสวี่ยกับจ้าวต้าเปียวจะถูกควบคุมตัวอยู่ในคุกเป็นการชั่วคราว เพื่อรอการตัดสินต่อไป”

เป็นผลทำให้ลั่วชิงยวนกับจ้าวต้าเปียวต้องถูกจำคุก

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ลั่วชิงยวนมาที่นี่

การถูกควบคุมตัวในห้องขังเดียวกับเมื่อก่อนหน้านี้ ช่วงให้ความรู้สึกอันแสนคุ้นเคยนัก

ฟู่จิ่งหลีที่เฝ้าชมเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ข้างนอกเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทีไม่พอใจขึ้นมาว่า “เสด็จพี่สาม ท่านมัวแต่ยืนงงอันใดอยู่เล่า? ไปสั่งให้ปล่อยตัวนางออกมาสิ”

ทว่าแววตาของฟู่เฉินหวนกลับเคร่งเครียดแล้วหันหลังหมายที่จะจากไป “มิต้องกังวลเรื่องนี้หรอก”

……

ลั่วชิงยวนนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องขัง เมื่อตกกลางคืน ผู้คุมที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็ออกไปแล้วใต้เท้าเหอก็เข้ามา

ประตูห้องขังเปิดออก

ใต้เท้าเหอค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมา “เจ้าอยากให้ข้าบอกเรื่องนี้กับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือไม่?”

“มิต้องหรอกเจ้าค่ะ” ลั่วชิงยวนทราบดีว่าฟู่เฉินหวนรู้เรื่องนี้แล้ว แต่เขาก็คงจะไม่ช่วยเหลือนางอยู่ดี

เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลั่วเยวี่ยอิง

“ข้าอยากออกไปข้างนอกสักพัก” ลั่วชิงยวนลุกขึ้น

ใต้เท้าเหอรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง “เจ้าจักไปที่ใดแล้วจะกลับมาเมื่อใดกัน?”

“ก่อนฟ้าสางเจ้าค่ะ” ลั่วชิงยวนคิดจะคลี่คลายความสับสนใจของตน

“สืบเรื่องของจ้าวต้าเปียวกับหวังเยว่ชิงได้ความเยี่ยงไรบ้างเจ้าคะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย