ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 561

จ้าวต้าเปียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงขมขื่นใจว่า “ข้าคิดจะเผาสวนเซียงอู๋จริง ๆ! ข้าทำงานอยู่ในสวนเซียงอู๋มาหลายปี ยามที่ข้าเห็นเหล่าคุณชายและคุณหนูผู้มั่งคั่งพวกนั้นต่างพากันมาที่สวนเซียงอู๋ด้วยท่าทีสุขสำราญใจเช่นนั้น ข้าก็รู้สึกขุ่นเคืองใจนัก!”

“ไฉนพวกเราต้องเกิดมายากจนข้นแค้น? ไฉนพวกเราต้องมีชีวิตลำบากลำบนถึงเพียงนี้! หลังจากพวกเราตรากตรำทำงานหนักมาตลอดปี เงินที่พวกเราหามาได้ยังมีมูลค่ามิเท่ากับถ้วยชาสักใบที่บรรดาคุณชายและคุณหนูพวกนั้นใช้เลยกระมัง? เพราะเหตุใดกัน!”

ลั่วชิงยวนหรี่ตาเล็กน้อยแล้วอดมิได้ที่จะเหลือบมองมาที่ลั่วไห่ผิง

ลั่วไห่ผิงจงใจเตือนสติจ้าวต้าเปียว

เขาพยายามที่จะช่วยลั่วเยวี่ยอิงให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหา

หรือว่าเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังด้วย?

เรื่องนี้เตือนให้ลั่วชิงยวนระลึกถึงการเสียชีวิตของท่านมหาราชครู

อย่างไรเสียวันนั้นครั้นเมื่อท่านมหาราชครูพบปะกับลั่วไห่ผิงตามลำพัง ก็คงมีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่ทราบเรื่องที่คุยกัน

ลั่วไห่ผิงแค่นเสียงเย็นชา “แน่นอนว่าย่อมต้องแยกออกเป็นสองคดีอยู่แล้ว!”

“ฝูเสวี่ยเป็นสตรีจากหอนางโลมแท้ ๆ แต่บังอาจวางแผนสังหารหลานสาวของท่านมหาราชครูและบุตรสาวของข้า คงมีผู้ใดอยู่เบื้องหลังเป็นแน่! หากมิลงทัณฑ์แล้วพวกเราจักล่วงรู้ความจริงได้อย่างไรกัน!”

“ใครก็ได้! ไปเอาไม้หนีบขามา!”

ลั่วไห่ผิงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด โดยมิได้หารือกับใต้เท้าเหอสักนิด

ใต้เท้าเหอสีหน้ามิน่ามองยิ่งนัก แต่กลับมิสามารถปฏิเสธได้ ตำแหน่งขุนนางขั้นหนึ่งมีอำนาจล้นพ้น ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่คนผู้นี้เป็นอัครเสนาบดีที่เป็นขุนนางขั้นหนึ่งประจำราชวงศ์ในยามนี้เลย

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว เดิมทีนางตระเตรียมให้ลั่วอวิ๋นสี่เป็นผู้พลิกสถานการณ์ ขอเพียงอีกฝ่ายมา นางมิเพียงแต่จะรอดพ้นข้อกล่าวหาไปได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ลั่วเยวี่ยอิงต้องแบกรับข้อกล่าวหาได้อีกด้วย

ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่าลั่วอวิ๋นสี่จะไม่มา

ไม้หนีบขาถูกลากมาตรงหน้าของนาง จากนั้นลั่วชิงยวนก็ถูกบังคับจับกดลงกับพื้น มือไม้ของนางถูกมัดเอาไว้แล้วสอดไม้หนีบขาเข้าไป ทันทีที่ออกแรงก็ทำให้ความเจ็บปวดรุนแรงจู่โจมใส่นางทันที

ในยามนี้เอง

น้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้น…

“ช้าก่อน!”

บุรุษสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินโบกพัดจีบเข้ามา เป็นฟู่จิ่งหลีนั่นเอง

แต่แล้วฟู่จิ่งหลีก็ล้วงเอาตั๋วแลกเงินปึกหนาออกมาจากแขนเสื้อแล้วขว้างใส่หน้าของหวังเยวี่ยชิง

“นี่เป็นตั๋วแลกเงินที่พบในเรือนของเจ้า บุตรชายของเจ้าบอกว่ามีท่านลุงคนหนึ่งมอบให้เจ้าแล้วสั่งให้เจ้าไปให้การเท็จ เจ้ามีอันใดจะอธิบายหรือไม่?”

หวังเยวี่ยชิงพลันสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นอันมาก “ท่านพบบุตรชายของข้าหรือ? อย่าแตะต้องบุตรชายของข้าเชียวนะ!”

“ข้าบอกแล้วเจ้าค่ะ! มีคนมอบเงินให้ข้าแล้วสั่งให้ข้ามาเป็นพยานและใส่ร้ายฝูเสวี่ย เขามอบเงินให้ข้ามากมายเหลือเกิน ข้าจึงคิดเอาไปไถ่ตัวแล้วหนีไปพร้อมกับบุตรชาย นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ ขะ... ข้าเสียสติจนยอมตกปากรับคำ...”

ในตอนนั้น ลั่วเยวี่ยอิงก็รู้สึกอกสั่นขวัญหาย

ใต้เท้าเหอตกใจมากเสียจนทุบค้อนตะลุมพุก “จ้าวต้าเปียว หวังเยวี่ยชิง พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาโป้ปดเพื่อใส่ร้ายผู้อื่น!”

“จงอธิบายเรื่องทุกอย่างที่พวกเจ้ารู้ รวมทั้งผู้ที่บีบคั้นขู่เข็ญพวกเจ้าด้วย หากพวกเจ้ายอมรับสารภาพ บางทีโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา!”

เมื่อจ้าวต้าเปียวได้ยินเช่นนี้ก็รีบเอ่ยขึ้นมาว่า “ข้าเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเพียงครึ่งซีก แต่หลังมือของเขา...”

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดให้จบคำ จู่ ๆ ก็มีพลังสังหารอันบ้าคลั่งปะทะใส่เขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย