โลหิตสด ๆ อาบย้อมหน้าอกและอาภรณ์ของลั่วหรง ร่างกายของนางชุ่มโชกไปด้วยโลหิตและลมหายใจหลุดลอย
ลั่วอวิ๋นสี่ทรุดตัวร้องไห้กระทั่งเสียงแหบแห้งจนเปล่งเสียงไม่ออก
นางรู้สึกสำนึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง เป็นนางที่ทำร้ายมารดาตนเอง!
ดวงตาอันแดงก่ำของนางกลับเต็มไปด้วยน้ำตาและความชิงชัง จากนั้นนางก็พุ่งเข้าใส่สวีซงหย่วนหมายจะสังหารเขา!
สวีซงหย่วนสายตาเย็นชาแล้วกำดาบในมือเอาไว้แน่น
“เห็นแก่ที่ระยะนี้เจ้าดูแลข้าดีมิน้อย ข้าจักมิสังหารเจ้าก็ได้ ทว่าก็มิอาจเก็บมือไม้ของเจ้าเอาไว้ได้”
สวีซงหย่วนเอ่ยน้ำเสียงเย็นชาพลางตวัดดาบ
ลั่วชิงยวนที่รีบรุดมาเห็นภาพนี้เข้าพอดี
ลั่วชิงยวนชักมีดสั้นออกมาขว้างใส่อย่างสุดแรงเกิด
เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาสังหาร สวีซงหย่วนก็ยกดาบขึ้นต้านทานพลังจู่โจมเพื่อสกัดขัดขวางมีดสั้นเอาไว้
ชั่วครู่ต่อมา ลั่วชิงยวนกระโดดเตะสวีซงหย่วนอย่างรุนแรง
จากนั้นก็ฉุดลั่วอวิ๋นสี่ออกห่าง
ลั่วอวิ๋นสี่คุกเข่าลงกับพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง จากนั้นก็ร้องไห้อยู่เงียบ ๆ ต่อหน้าลั่วหรง
เมื่อเห็นร่างอาบโลหิตของท่านอาลั่วหรง ลั่วชิงยวนก็ให้รู้สึกปวดใจและบังเกิดโทสะ
นางกำหมัดแน่น สายตาคมกริบเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหารแล้วนางก็มุ่งเป้ามาที่สวีซงหย่วนทันที
“เจ้าออกมาได้แล้วจริง ๆ!” สวีซงหย่วนรู้สึกตกตะลึง
นางถูกตัดสินให้พ้นโทษแล้วหรือ? หรือว่าแหกคุกออกมากันแน่?!
ลั่วชิงยวนโกรธจัดแล้วเปิดฉากโจมตีใส่สวีซงหย่วนอย่างดุเดือด
ทีแรกสวีซงหย่วนมิเห็นฝูเสวี่ยอยู่ในสายตา นางเป็นแค่นางรำจากหอนางโลมนางหนึ่ง วรยุทธก็คงมิได้เก่งกาจอันใดนักหรอก
ทว่าหลังจากต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามมาหลายรอบ สวีซงหย่วนพบว่าเขามิได้เปรียบเลยสักนิด แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามกดดันหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อย ๆ ยากที่จะต่อต้านได้
วรยุทธของฝูเสวี่ยช่างไร้แบบแผนนัก!
“ฝูเสวี่ย เรื่องของตระกูลลั่วหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเจ้าไม่ ฉะนั้นจงอย่าได้สอดมือเข้ามายุ่ง”
“รีบไสหัวออกไปเสียเดี๋ยวนี้แล้วข้าจักไว้ชีวิตเจ้า!”
สวีซงหย่วนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ดวงตาของลั่วชิงยวนฉายแววเยียบเย็นอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหาร “ก็ยังไม่แน่หรอกว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายละเว้นผู้ใด!”
พลังโจมตีของลั่วชิงยวนยิ่งมาก็ยิ่งดุดันขึ้นเรื่อย ๆ จนสวีซงหย่วนค่อย ๆ ต้านรับไม่ไหว
ในยามนี้เอง ลั่วอวิ๋นสี่ก็ถือดาบวิ่งออกมาจากห้อง พลางกัดฟันแทงดาบใส่สวีซงหย่วนด้วยท่าทีโกรธแค้น
สวีซงหย่วนเป็นตัวละครสำคัญและน่าจะล่วงรู้เรื่องราวมากมาย เขายังตายมิได้จนกว่าเขาจะเผยเงื่อนงำสำคัญออกมา!
นั่นออกจะเป็นการดูถูกเขาเกินไป!
เมื่อลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินวาจาของนาง อีกฝ่ายก็รู้สึกตกตะลึง ไฉนฝูเสวี่ยจึงล่วงรู้มากถึงเพียงนั้น?
นางรู้ว่าสวีซงหย่วนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลอยู่แล้วใช่หรือไม่?
เมื่อลั่วชิงยวนเห็นว่าลั่วอวิ๋นสี่มิได้หุนหันพลันแล่นอีกต่อไปแล้ว นางก็เหยียบสวีซงหย่วนลงกับพื้นแล้วหยิบดาบเล่มยาวขึ้นมา จากนั้นดาบคมกริบก็ปักอยู่ระหว่างนิ้วมือของเขา
“ผู้ใดสั่งเจ้ามา?”
สวีซงหย่วนกัดฟันแน่น มิยอมเอ่ยวาจา
“ไม่บอกรึ?” แววตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาพลางพลิกดาบที่อยู่ในมือ
ดาบคมกริบเล่มยาวพลันสะบั้นนิ้วมือเล็ก ๆ ของสวีซงหย่วนทันที
“อ๊าก!” ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้สวีซงหย่วนแผดเสียงร้องออกมา
“เจ้ายังมิบอกข้าอีกรึ?” นางถือดาบเล่มยาวแล้วขยับลงบนนิ้วที่สองของอีกฝ่าย
“ไม่ต้องรีบร้อน ข้ามีเวลาอีกมากทีเดียว ถ้าเจ้าไม่บอกข้าอีกล่ะก็ ข้าจะเริ่มจากข้อนิ้ว เช่นนี้ข้าคงตัดได้หลายสิบชิ้นเลยเชียวล่ะ”
ดาบคมกริบค่อย ๆ ขยับมาที่ปลายนิ้วตรงข้อนิ้วข้อบนสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...