ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 571

ฟ่านซานเหอตะลึงงันไปชั่วขณะ จากนั้นก็หันหลังเดินตามฟู่เฉินหวนไป

เดิมทีลั่วชิงยวนรู้สึกหวาดระแวง แต่เมื่อนางเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็ค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก

พวกเขาต่างก้าวเดินเข้ามาในจวนมหาราชครู

ทันทีที่นางเดินเข้ามาในจวนมหาราชครู นางก็ได้ยินลั่วเยวี่ยอิงเอ่ยกับลั่วหลางหลางว่า “ข้าเองก็รู้สึกเสียใจเรื่องการตายของอวิ๋นสี่ยิ่งนัก ถึงแม้ว่ายามนี้จะจับตัวมือสังหารได้แล้วก็ตามที แต่ข้ารู้สึกว่าเรื่องราวหาได้ง่ายดายเช่นนั้นไม่”

“อวิ๋นสี่อาจล่วงเกินผู้ใดสักคนเข้าก็ได้”

เมื่อลั่วหลางหลางได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอันมาก “ผู้ใดหรือ?”

น้ำเสียงของลั่วเยวี่ยอิงฟังดูหนักหน่วง “ฝูเสวี่ยจากหอฝูเสวี่ยน่ะสิ อวิ๋นสี่บังเอิญเห็นนางคิดสังหารข้า ต่อมานางให้การเป็นพยานแทนข้าในศาลาว่าการ ข้าคิดว่านี่เป็นวิธีสังหารคนของนาง”

“ครั้งที่สองพอนางถูกขอร้องเพื่อมาให้การเป็นพยานแทนข้าที่ศาลาว่าการ ก็เกิดเรื่องขึ้นในจวนมหาราชครู”

ลั่วเยวี่ยอิงเริ่มร้องไห้ “ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้าเอง หากข้ามิได้ขอร้องให้นางให้การเป็นพยานแทนข้า นางก็คงมิต้องตาย”

สีหน้าเศร้าโศกช่างแลดูสมจริงนัก

ลั่วหลางหลางรู้สึกสับสน “ฝูเสวี่ย?”

นางมิเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย

ลั่วชิงยวนกำลังจะเดินเข้าไปหา เพราะเกรงว่าลั่วเยวี่ยอิงจะทำให้ลั่วหลางหลางเข้าใจผิดเอาได้

แต่ลั่วหลางหลางกลับเช็ดน้ำตาพลางกล่าวว่า “ข้าเชื่อในหลักฐานที่ศาลาว่าการพบเจอ ต่อให้อวิ๋นสี่มีเรื่องขัดแย้งกับฝูเสวี่ย แต่โศกนาฏกรรมที่ทำลายล้างจวนมหาราชครูก็อาจมิใช่ฝีมือของฝูเสวี่ยก็ได้”

“ข้าเชื่อว่าศาลาว่าการจะมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแก่พวกเรา และจะไม่ปล่อยผู้ที่ทำร้ายตระกูลของข้าให้ลอยนวลไปได้แน่!”

ยามนี้ลั่วหลางหลางกลับมีสายตาเฉียบคม

ชวนให้ลั่วอวิ๋นสี่ใจเต้นระรัว

ลั่วชิงยวนหัวเราะแล้วค่อย ๆ เดินเข้ามาหา “คุณหนูรองลั่วช่างมีฝีมือในการชิงใส่ความผู้อื่นก่อนจริง ๆ”

สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิง พลันเปลี่ยนเป็นมิน่ามอง “เจ้าหมายความเยี่ยงไร?”

“ตัวเจ้ารู้ดีแก่ใจว่าข้าหมายถึงสิ่งใด คำพูดบางคำออกจะไม่รื่นหู แต่หากเจ้าอยากได้ยิน ข้าก็มิรังเกียจที่จะเล่าให้เจ้าฟังต่อหน้าลั่วหลางหลาง”

วาจาข่มขู่เหล่านี้ทำให้ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย

นางกัดฟันพูดออกไปว่า “ข้ามิทราบว่าเจ้าหมายถึงอันใดกัน ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการ เอาไว้พบกันใหม่คราวหน้านะเจ้าคะพี่หลางหลาง”

ลั่วหลางหลางน้ำตานองหน้า นางกอดลั่วอวิ๋นสี่อยู่นานและไม่กล้าที่จะปล่อยมือไป “ดียิ่งนัก เจ้ายังมีชีวิตอยู่”

“ท่านพี่ สงบใจลงก่อนเถิด ข้ามีเรื่องจะบอกท่านเจ้าค่ะ” ลั่วอวิ๋นสี่ผละออกจากลั่วหลางหลางแล้วเช็ดน้ำตาออกไปจากใบหน้า

เมื่อเห็นว่าพวกนางทั้งสองคนน่าจะมีเรื่องต้องพูดคุยกันอีกมาก ลั่วชิงยวนจึงกล่าวว่า “ข้าจะไปหาฟ่านซานเหอ อย่าให้เขารู้ว่าลั่วอวิ๋นสี่ยังมีชีวิตอยู่เป็นดีที่สุด”

นางไม่แน่ใจว่าฟู่เฉินหวนจะเอ่ยสิ่งใดกับฟ่านซานเหอบ้าง

หลังเดินออกจากท้ายเรือน นางก็บังเอิญพบฟ่านซานเหอที่กำลังตามหาลั่วหลางหลางไปทั่วทุกหนแห่ง

“แม่นาง เจ้าเห็นภรรยาของข้าบ้างหรือไม่? เผลอเพียงครู่เดียว นางไปอยู่ที่ไหนแล้วนะ?” ฟ่านซานเหอเอ่ยถามด้วยท่าทีร้อนใจ

“นางกำลังมองดูข้าวของที่มารดาและน้องสาวของนางหลงเหลือเอาไว้ อย่าเพิ่งไปรบกวนนางเลยเจ้าค่ะ” ลั่วชิงยวนอธิบายให้ฟัง

เมื่อฟ่านซานเหอได้ยินเช่นนี้ก็ผงกศีรษะแล้วถามว่า “แม่นาง เจ้าคือ...”

“ข้ามาจากตำหนักอ๋องเจ้าค่ะ” ลั่วชิงยวนตอบอย่างมิใคร่ใส่ใจนัก จากนั้นก็อดมิได้ที่จะถามว่า “เมื่อสักครู่นี้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการตรัสว่าอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”

เมื่อฟ่านซานเหอได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักหน่วงขึ้นมาว่า “พระองค์พูดจาแปลกประหลาดนัก”

“พระองค์ตรัสว่า…"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย