ลั่วชิงยวนตกตะลึงทันทีที่นางได้ยินคำถามนี้
นางตั้งใจเข้าไปสืบสวนเซี่ยหว่านโดยเฉพาะ เพียงเพราะอยากรู้ว่าแม่ของลั่วเยวี่ยอิงเสียชีวิตเช่นไร
“นางถูกลั่วไห่ผิงสังหาร”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว ความสงสัยปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนชัดในดวงตาของเขา
ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา “หม่อมฉันสามารถบอกข่าวทั้งหมดที่หม่อมฉันรู้จากเซี่ยหว่านให้ท่านฟังได้ แต่ไม่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเองเพคะ”
เช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงบอกฟู่เฉินหวนถึงเนื้อความทั้งหมดในจดหมาย รวมทั้งเหตุผลที่นางไปสืบสวนเซี่ยหว่าน
แน่นอนว่านางมิได้พูดถึงลิ่นฝูเสวี่ย
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วตลอดเวลาที่ฟัง
หลังจากเล่าทุกอย่างจบแล้ว ฟู่เฉินหวนยังคงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ลั่วชิงยวนจึงลุกขึ้นยืน “หม่อมฉันบอกท่านทุกอย่างที่หม่อมฉันรู้หมดแล้ว เช่นนั้นหม่อมฉันขอรับของเหล่านี้ไป”
หลังจากพูดจบนางก็จากไปพร้อมกับกล่องไม้ในมือ
หลังจากลั่วชิงยวนจากไป ซูโหยวจึงเข้ามาในห้องตำราด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พระชายาไม่เคยเอ่ยถึงพระชายาหลีเลยตลอดการเล่า คุ้มค่าจริงหรือที่ท่านอ๋องแลกเปลี่ยนร้านค้าและเงินมากมายกับข่าวเช่นนั้น?”
ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “สิ่งเหล่านั้นเดิมทีก็มีไว้เพื่อนาง”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูโหยวจึงผงะเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสับสน
ท่านอ๋องทำสิ่งใดให้พระชายาขุ่นเคืองอีก เขาจึงต้องชดเชยนางด้วยหลายสิ่งหลายอย่างถึงเพียงนี้?
“ทว่าข้อมูลที่นางให้ก็มิได้ไร้ประโยชน์เสียทีเดียวแต่อย่างใด”
“บุตรีคนโตและหยวนซื่อเป็นพี่น้องกันจริง ๆ พวกนางมิได้ทะเลาะกันรุนแรงอย่างที่เล่าลือ และทั้งคู่ก็เสียชีวิตไปแล้ว”
“หากนี่เป็นจริง สิ่งที่ลั่วไห่ผิงบอกข้าก็อาจไม่จริงทั้งหมด”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูโหยวก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เขาคิดตามแล้วเอ่ยถามขึ้นว่า "ท่านอ๋องทรงคิดว่าพระชายาหลีอาจมิได้มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหยวนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
“กระหม่อมเกรงว่า ยามนี้มีเพียงลั่วไห่ผิงเท่านั้นที่รู้ความจริง อาจเป็นเรื่องยากสำหรับท่านอ๋องหากจะสืบสวนว่าในอดีตเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับพระชายาหลี”
ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “แม้จะยากก็ต้องตรวจสอบต่อไป”
เขาค่อย ๆ ก้าวมาถึงตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสอบสวนกลียุคในวังปีนั้นและการตายของมารดา
“ข้าเดาว่าคงเป็นเพราะเจ้าปฏิเสธเขา เช่นนั้นเขาจึงดื่มสุราเพียงลำพัง”
“เจ้ามีความสามารถในการบงการหัวใจบุรุษถึงเพียงนี้ ไยเจ้ามิลองใช้กับท่านอ๋องดูเล่า? หากท่านอ๋องโปรดปรานเจ้าแต่เพียงผู้เดียว เช่นนั้นเจ้าจะถูกลั่วเยวี่ยอิงรังแกได้เช่นไร?”
ขณะที่ลั่วอวิ๋นสี่พูด นางก็เบี่ยงประเด็นต่างไปจากเดิม เมื่อนางพูดถึงลั่วเยวี่ยอิง นางก็กัดฟันแน่นอย่างเกลียดชัง
ลั่วชิงยวนกระสับกระส่ายเล็กน้อย นางนึกทบทวนอย่างรอบคอบแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ข้ามิใช่ผู้ที่ทำให้เขาเมา"
เป็นลิ่นฝูเสวี่ยต่างหาก
ฝูจ้าวถูกดึงดูดด้วยการร่ายรำของนาง แต่ทุกครั้งที่นางร่ายรำ แท้จริงแล้วคือลิ่นฝูเสวี่ยต่างหาก
พวกเขาเพิ่งรู้จักกันได้มินาน หากฝูจ้าวหลงใหลนางด้วยเหตุผลนี้ อาจเป็นเพราะลิ่นฝูเสวี่ยเพียงเท่านั้น
นี่คือสตรีที่ทำให้บุรุษหลงใหลอย่างมิอาจต้านทานได้
“อย่างไรก็ตาม ในเมื่อยามนี้เขาสนใจแล้ว พวกเราก็เริ่มลงมือเถอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ลั่วอวิ๋นสี่ก็ถามอย่างเป็นกังวล “เจ้าต้องการความช่วยเหลือจากท่านอ๋องหรือไม่? ข้ากลัวว่าบางทีเราทั้งสองอาจไม่มีทางได้หวนกลับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...