ในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนจามออกมา
เขาถูจมูก ก่อนจะเห็นซูโหยวกลับมา
“เป็นอย่างไร?”
ซูโหยวพูดด้วยใบหน้าขมขื่น “ท่านอ๋อง ยาที่พระองค์ทรงให้ส่งไปนั้นถูกพระชายาเททิ้งพ่ะย่ะค่ะ”
ทันทีที่เขาได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของฟู่เฉินหวนก็บีบรัดก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที
“ท่านอ๋อง?” ซูโหยวตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นท่านอ๋องดูกังวลเพียงนี้
“ไม่มีอะไร เจ้าออกไปเถอะ”
ซูโหยวออกจากห้องตำรา
ฟู่เฉินหวนรู้สึกหนักใจ เขาต้องเร่งความคืบหน้าและต้องรีบเอาของสิ่งนั้นมาให้ได้
เขายังมาที่ประตูห้องของลั่วเยวี่ยอิงด้วยการก้าวเท้าหนัก ๆ การเสแสร้งตบตาเคยเป็นงานง่าย ๆ สำหรับเขา แต่ตอนนี้ ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงได้กลับกลายเป็นเรื่องยากไปเสียได้
มันยากจนเขาต้องเตะถ่วงเวลาออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
จนถึงตอนนี้เขายังมิได้รับสิ่งของกลับมา
หลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ เขาก็เคาะประตูและเข้าไปในห้องของลั่วเยวี่ยอิง
……
ลั่วชิงยวนมาที่เรือนทักษิณาอย่างเงียบ ๆ โดยสวมชุดดำ
คนในห้องดูคล้ายจะหลับสนิท ปราศจากการเคลื่อนไหว
เมื่อลั่วชิงยวนเข้าไปในลาน นางหยิบธูปออกมาจุด รอจนกระทั่งควันธูปลอยเข้าไปในห้อง
นางรออย่างอดทนเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่อยู่ข้างในหลับสนิทแล้วจึงค่อย ๆ มาที่ข้างประตู
นางเปิดประตูเข้าไปดูก่อนจะพบว่าคนบนเตียงกำลังหลับอยู่จริง ๆ
นางผลักประตูให้เปิดแล้วก้าวเข้าไปในห้อง
เมื่อมองดูห้องของหมอกู้ ทุกอย่างก็เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อน และการจัดวางของต่าง ๆ ก็ยังเหมือนเดิม
ลั่วชิงยวนมิอยากจะเชื่อเลยว่าหมอกู้จะกลับมาจากความตายได้จริง ๆ
นางมาที่ข้างเตียงและมองดูผ้าที่พันรอบคอของหมอกู้ ก่อนจะค่อย ๆ ปลดมันออก
นางต้องดูว่านี่คือหมอกู้ที่นางฆ่าด้วยมือของนางเองหรือไม่!
แต่เขากลับมาจากความตายได้อย่างไร?
นางพานพบหมอกู้หลายครั้ง และไม่มีกลิ่นอายแปลกประหลาดบนร่างกายของเขาจริง ๆ อีกทั้งเข็มทิศก็ไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด
ลั่วชิงยวนมิเข้าใจ
นางกลับไปด้วยใจที่หนักอึ้ง แต่เมื่อเดินผ่านลานหน้าเรือนของลั่วเยวี่ยอิง จึงเห็นว่าดึกดื่นเช่นนี้ แต่ไฟยังคงสว่างอยู่
คงมีบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงเข้าไปดู
เป็นผลให้ได้ยินเสียงของฟู่เฉินหวนจากด้านนอก
“ข้าแค่ใช้นางเป็นเบี้ย เหตุใดจ้าต้องอิจฉานางด้วย” เสียงของฟู่เฉินหวนอ่อนโยนมาก
เสียงที่มีเสน่ห์ของลั่วเยวี่ยอิงเอ่ยตอบ “ช่วงนี้ท่านอ๋องเย็นชาต่อหม่อมฉันถึงเพียงนั้น หม่อมฉันก็คิดว่าพระองค์ลืมหม่อมฉันจนสิ้นเสียแล้ว"
“ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของหม่อมฉัน ที่มิอาจช่วยเหลือท่านได้” ลั่วเยวี่ยอิงพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิตัวเอง
ฟู่เฉินหวนปลอบใจนาง “เจ้ามิจำเป็นต้องเก่งกาจอะไร แค่นี้ก็ดีแล้ว ทุกอย่างล้วนอยู่ในการควบคุมของข้า”
“ลั่วชิงยวนยังมีประโยชน์แก่ข้าอยู่บ้าง เจ้าพยายามอย่าได้ไปขัดแย้งกับนาง มิเช่นนั้นข้าจะเดือดร้อน”
ลั่วเยวี่ยอิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “เพคะ เยวี่ยอิงรู้ เยวี่ยอิงจะเชื่อฟังท่านอ๋องทุกอย่าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...