ลั่วชิงยวนตัวแข็ง เหลือบมองดอกหอมหมื่นลี้อันหอมหวานในถ้วยชา จากนั้นจึงมองไปที่ฟู่เฉินหวน ซึ่งขณะนี้ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
“ดื่มสิ”
“รสหวานแปลกใหม่มากมิใช่หรือ?”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของฟู่เฉินหวนยิ้มเยือกเย็น ทำให้คนที่เห็นหนาวสั่นไปถึงกระดูก
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “นี่ท่านสะกดรอยตามหม่อมฉันหรือ?”
ฟู่เฉินหวนพูดอย่างมั่นใจ “เจ้าอยู่กับเสวี่ยชวนเฟิงที่โรงน้ำชากันอย่างเปิดเผยเช่นนั้น ต้องให้ข้าสะกดรอยตามด้วยรึ?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนก็วางถ้วยชาลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ จนน้ำชากระเด็นออกมา
“ท่านคิดว่าหม่อมฉันเต็มใจหรือ? เสวี่ยชวนเฟิงผู้นั้นน่ารังเกียจปานใด หากมิใช่เพราะท่าน หม่อมฉันจะทักทายเขาด้วยรอยยิ้มเช่นนั้นหรือ? หม่อมฉันยิ้มจนปากจะค้างอยู่แล้ว!”
“หม่อมฉันทุ่มเทถึงเพียงนั้น ท่านยังทำเป็นประชดประชันใส่! หาไม่ท่านไปจัดการเสวี่ยชวนเฟิงเองสิ ไฉนหม่อมฉันต้องทำสิ่งที่ท่านมิเห็นค่าเช่นนี้ด้วย!”
น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฟังดูมิพอใจ
แต่หลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว แต่ในที่สุดก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น
ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง
เขาคิดว่าลั่วชิงยวนชอบคนที่มีหน้าตาเหมือนเสวี่ยชวนเฟิงไปแล้วจริง ๆ
แค่คิดถึงฉากที่ได้เห็นกับตาตัวเองวันนี้ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกหึงหวงอย่างมากในใจ
เมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนก็รินชาให้นางอีกถ้วยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ข้าก็คิดว่าชาดอกหมื่นลี้นี้รสชาติดี แต่นี่มิใช่ฤดูของดอกหมื่นลี้ ดังนั้นควรใช้ดอกหมื่นลี้สดจะได้กลิ่นหอมที่แรงกว่า”
“รอจนกว่าดอกหมื่นลี้จะออกดอก ข้าจะเก็บมาชงชาให้เจ้า”
ลั่วชิงยวนมองไปที่ฟู่เฉินหวนด้วยความสับสน การเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเขาทำให้นางประหลาดใจ
นางหยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วจิบ นางอดมิได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
“แค่ชาถ้วยเดียวหรือ?” ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว
ฟู่เฉินหวนพูดช้า ๆ “สมาคมการค้าเฟิงตูนั้นใหญ่โตกว่าที่เจ้าคิด ซีหยางเป็นเพียงสถานที่ที่พวกเขาสร้างเนื้อสร้างตัว สมาคมการค้าเฟิงตูในลี่หยางและฉางสุ่ยมีสถานะสูงมาก”
“นอกจากนี้ ยังมีหน่วยคุ้มกันทั้งเล็กและใหญ่กระจายอยู่ทั่วแคว้นเทียนเชวีย”
ลั่วชิงยวนวางแขนบนโต๊ะและขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น นางจ้องมองไปยังฟู่เฉินหวน เลิกคิ้วแล้วถามว่า “แล้วอย่างไร? ทั้งหมดนี้จะเป็นของหม่อมฉันหรือ?”
ฟ่านซานเหอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า “พระชายา”
“ข้ามาที่นี่เพื่อพาหลางหลางกลับคฤหาสน์”
“คืนนั้นข้าดื่มมากเกินไป ข้ามิรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป แต่นั่นมิใช่ความตั้งใจของข้าแน่นอน!”
“นั่นคือเหตุผลที่ข้ามาที่นี่เพื่อขอโทษหลางหลาง ข้าหวังว่านางจะยกโทษให้ หากเป็นไปได้ ขอให้กลับบ้านกับข้าด้วยเถิด”
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แม้ว่านางจะรู้ว่าฟ่านซานเหอถูกใครบางคนวางพิษ แต่นางก็รู้สึกว่านั่นมิใช่เหตุผลทั้งหมด
บางสิ่งคนก็ลงมือทำเอง พิษกู่มิอาจควบคุมจิตใจของฟ่านซานเหอได้อย่างสมบูรณ์ และฟ่านซานเหอก็มิได้กลายเป็นหุ่นเชิดด้วย
แน่นอนว่านางมิต้องการให้ลั่วหลางหลางกลับไปตระกูลฟ่านและเผชิญหน้ากับบุคคลอันตรายเช่นนี้อีก
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลางหลางร่างกายอ่อนแอ ข้าอยากจะดูแลให้นางกลับมาแข็งแรง ให้นางอยู่ในโรงเตี๊ยมนี้สะดวกกว่าแล้ว” ลั่วชิงยวนปฏิเสธ
ทันใดนั้น ลั่วหลางหลางลงมาจากชั้นบน
ฟ่านซานเหอรีบก้าวไปข้างหน้า “หลางหลาง ข้าขอโทษ กลับบ้านกับข้าเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...