“ข่าวลือมิอาจเทียบได้กับชีวิตของเจ้า”
“ในเมื่อพี่ใหญ่ปกป้องเจ้ามิได้ ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”
......
ลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนกลับถึงเมืองซีหยางในช่วงเย็น
ทั้งสองตั้งใจจะกลับโรงเตี๊ยมทันที แต่มิคาดคิดระหว่างทางที่ผ่านสมาคมการค้าเฟิงตู จะได้เห็นสมาคมการค้าเฟิงตูกำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
ลั่วชิงยวนลงจากหลังม้า วิ่งเข้าไปในสมาคมทันที นางเห็นควันหนาทึบปกคลุมสมาคม ทุกคนต่างเก็บข้าวของและวิ่งออกมาจากสมาคม
ในตอนที่ฟู่เฉินหวนกำลังจะเข้าไปในสมาคม เขาเห็นเงาของคนในชุดดำแยกตัวจากฝูงชนอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
คิ้วของฟู่เฉินหวนเลิกขึ้น รีบเข้าไปในสมาคมทันที
“ชิงยวน! ชิงยวน!” ฟู่เฉินหวนมาช้าเกินไป จึงมิพบลั่วชิงยวนแล้ว
ลั่วชิงยวนรีบเข้าไปในห้องลับนั้น ซึ่งไฟเริ่มลามไปถึง อย่างไรก็ตาม ยังมิเห็นเปลวไฟ มีเพียงควันหนาทึบลอยอยู่ในอากาศ
เหตุใดห้องลับจึงถูกไฟไหม้ได้ ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว หรือจะเป็นลั่วฉิงที่ทำลายห้องลับ?
มิได้ ในนั้นยังมีหลักฐานและบัญชีอีกมาก และมีของของลั่วหลางหลางและเฉินซวนอี๋อยู่ในห้องลับชั้นในสุดอีก หากสิ่งเหล่านั้นถูกเผา ชีวิตของลั่วหลางหลางจะตกอยู่ในอันตราย!
นางฉีกผ้าออก ชุบด้วยน้ำชา คลุมหน้าไว้ แล้วรีบเข้าไปในห้องลับนั้นทันที
จนกระทั่งนางได้เห็นร่างของเสวี่ยชวนเฟิงในห้องลับนั้น ลั่วชิงยวนจึงตระหนักได้ว่าเขาสัมผัสกลไกโดยมิได้ตั้งใจและถูกกับดักเล่นงานจนเสียชีวิต
ลั่วฉิงรู้ว่ามีคนบุกเข้ามาในกลไกแล้ว จึงจุดไฟเผาห้องลับทันที
ไฟกำลังกลืนกินสมุดบัญชีบนชั้นหนังสือ ลั่วชิงยวนมิสนใจ และเปิดใช้กลไกกลอนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ทันที และเข้าไปในห้องลับด้านในไป
สถานที่แห่งนี้มิได้ถูกไฟเผา แต่กลับมีควันหนาทึบปกคลุมจนแทบมองมิเห็นอะไรเลย
ตะเกียงทั้งสองดวงยังคงถูกจุดอยู่ หลังจากที่ลั่วชิงยวนเป่าจนดับ นางก็หยิบกองข้าวของแล้ววิ่งกลับออกไปอย่างเร่งรีบ
ทว่าห้องลับตรงกลางถูกไฟเผาผลาญ ชั้นหนังสือที่ลุกไหม้พังทลายลง ขวางทางของลั่วชิงยวนเอาไว้
อากาศร้อนแผดเอาจนทำให้แสบร้อนที่ผิว
ขณะที่ลั่วชิงยวนกำลังคิดหาวิธีแก้ไข จู่ ๆ ก็มีเงาหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างคลุมเครือในสายตาของนาง
ในสถานที่อันตรายเช่นนี้ คนอื่นคงจะหนีไปนานแล้ว แต่ฟู่เฉินหวนกลับรีบเข้าไปช่วยนาง
หลายคนรวมตัวกันอยู่นอกสมาคมการค้าเฟิงตู คิดหาทางดับไฟ ลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวน เดินออกไปทางประตูด้านข้าง โดยไม่มีใครเห็น
หลังออกจากสมาคมการค้าเฟิงตูแล้ว ฟู่เฉินหวนก็โยนผ้าห่มทิ้งไป ขมวดคิ้วมองนาง “ที่นั่นอันตรายขนาดนั้น เจ้ามิกลัวตายหรือ?”
ใบหน้าทั้งคู่เปรอะเปื้อน นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วชิงยวนเห็นฟู่เฉินหวนในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ อาภรณ์ของเขาถูกเผาจนขาดวิ่น
“หม่อมฉันเข้าไปเพื่อสิ่งนี้ สิ่งนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของลั่วหลางหลาง!"
“ว่ากระไรนะ? ให้ข้าดูหน่อย?” ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาข้างหน้า
ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย นางหันหลังวิ่งหนีไป “กลับไปดูที่โรงเตี๊ยมแล้วกัน!”
ทั้งสองรีบกลับไปที่โรงเตี๊ยมทันที
แต่กลับได้เห็นจือเฉายืนอยู่หน้าประตูโรงเตี๊ยมในสภาพร้อนใจ
“ท่านอ๋อง พระชายา ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว! มีบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณหนูหลางหลางเพคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...