ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 813

ในอีกสองวันต่อมา ฟู่เฉินหวนก็จัดการงานราชการอยู่ในตำหนัก มิได้ออกไปข้างนอก

แต่มันทำให้ลั่วชิงยวนมีโอกาส

นางสืบทราบมาแล้วว่าอีกเจ็ดวันในวังจะมีงานชมบุปผา

ดังนั้นนางจึงต้องรีบทำให้ฟู่เฉินหวนตอบตกลง

ดังนั้นนางจึงนำอาหารมาให้ฟู่เฉินหวนอย่างขยันขันแข็ง วันหนึ่งไปห้องตำราของเขาสามหรือสี่ครั้ง เพราะต้องการเข้าร่วมในงานชมบุปผาเป็นอย่างมาก

แต่นางมิเข้าใจว่า เหตุใดฟู่เฉินหวนถึงสนใจอาหารและชาที่นางส่งไปนัก เขากินจนเกลี้ยงทุกครั้งไป

แต่งานชมบุปผาเขากลับยังมิตอบตกลง

ยิ่งลั่วชิงยวนคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งแปลกใจ เมื่อเข้าวันที่สามจึงมิส่งอาหารไปอีก

มิคิดว่าฝูเฉินหวนจะเป็นฝ่ายมาหานางเอง

บอกว่ามาลองชิมอาหารในเรือนของนาง

คนครัวก็คนเดียวกัน จะต่างกันตรงไหน?

ลั่วชิงยวนคิดไปว่าฟู่เฉินหวนคงเสียสติกะทันหันหรือไม่ก็คงป่วยหรืออย่างไร?

หลังจากมากินอาหารที่นี่หนึ่งวัน

ในวันรุ่งขึ้นฟู่เฉินหวนก็กลับมาอีก ลั่วชิงยวนขอให้จือเฉาเก็บอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดออกไป

ฟู่เฉินหวนนั่งอยู่ที่ลานเรือน ชาสักถ้วยก็มิได้ดื่ม

ฟู่เฉินหวนเริ่มหมดความอดทน เขาให้โอกาสกับลั่วชิงยวนตั้งมากมาย เหตุใดนางถึงยังมิวางยาเขาอีกเล่า?

“ไหนชาเล่า?” ฟู่เฉินหวนถามจือเฉาอย่างมิพอใจ

จือเฉามิรู้จะตอบอย่างไร

ลั่วชิงยวนพูดอย่างเย็นชา “วันนี้หม่อมฉันมิได้ชงชาเพคะ”

“มิได้ชงชารึ? ข้าอยู่ที่นี่ ชาสักถ้วยไม่มีเลยรึ?” ฟู่เฉินหวนมิอยากเชื่อ จะมิหาทางวางยาเขาเลยหรือ?

ลั่วชิงยวนก็หมดความอดทน พลันลุกขึ้นตบโต๊ะ

“ฟู่เฉินหวน ท่านพอได้แล้ว ท่านมาขอกินขอดื่มทุกวัน ท่านรู้หรือไม่ว่า กินของคนอื่นปากจะอ่อน เอาของคนอื่นมือจะสั้น หม่อมฉันประจบประแจงท่านทุกวัน ท่านยังดูเพลิดเพลินมากทีเดียว!”

“เหตุใดท่านถึงหน้าหนาเพียงนี้!”

เพื่อให้ได้ไปงานเลี้ยงชมดอกไม้นี้ นางรบเร้าฟู่เฉินหวนเป็นเวลาหลายวันแล้วเขาก็ยังมิยอมรับปาก

ตอนนี้ยังมีแก่ใจมาขอชาดื่มอีกหรือ?

“นี่เขายังมีหน้ามาโกรธอีกรึ?”

จือเฉาพูดด้วยความเขินอาย “พระชายา ท่านอ๋องมานั่งเล่น แล้วยังมิรินชาให้ มิดีเลยจริง ๆ หนาเจ้าคะ”

“หากท่านอ๋องกริ้วแล้วมิมาอีกเล่าเจ้าคะ?”

ดีขนาดไหนแล้ว ท่านอ๋องกับพระชายากว่าจะคืนดีกันได้ ช่วงนี้อยู่ด้วยกันก็มีความสุขดี ทุกอย่างในตำหนักก็สงบสุข

“มิมาก็มิมา เขามิมาข้าก็สบายใจ” ลั่วชิงยวนนั่งบนเก้าอี้แล้วนอนต่อไปอย่างสบาย ๆ

“นำชา ของว่าง เอาออกมา”

……

เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องกลับมาที่ห้องตำราด้วยความโกรธ ซูโหยวก็อดมิได้ที่จะเข้าไปถาม “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฟู่เฉินหวนดูไม่มีความสุข “เจ้าได้ยินชัดเจนหรือไม่? นางทำยาที่ทำให้คนหยุดมิได้จริง ๆ รึ?”

ซูโหยวชูสามนิ้วทันที “กระหม่อมสาบานต่อสวรรค์ กระหม่อมได้ยินอย่างชัดเจนพ่ะย่ะค่ะ!"

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางคิดอย่างลึกซึ้งแล้วพูดว่า “ไปบอกนางว่า ข้าจะไปงานชมบุปผา”

เขาจะได้ดูว่า ยานั้นของลั่วชิงยวนมีไว้เพื่อใคร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย