ฟู่เฉินหวนหันไปมองนาง
เมื่อมองดูสายตาของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนาวสั่นในใจ
“นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชา
หัวใจของฟู่เฉินหวนสับสน แต่มิกล้าแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย น้ำเสียงของเขาสงบและเย็นชา ปราศจากความอบอุ่นโดยสิ้นเชิง
สายตาของเขาก็เย็นชาเช่นกัน
“อย่างไรก็ไม่มีอะไร เจ้าไปพักสักสองวันก็มิเป็นอะไรหรอก”
ดวงตาของลั่วชิงยวนแดงก่ำทันที “มิเป็นอะไรหรือ?”
นางหัวเราะกับตัวเอง “ก็ดี ถ้ามิเป็นอะไร”
จากนั้นดวงตาของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ในเมื่อท่านอ๋องทรงคิดว่ามันมิเป็นไรจริง ๆ เช่นนั้นก็มิเป็นไร”
“หม่อมฉันจะไป”
ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา องค์ชายหล่างมู่ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก “เยี่ยมมาก! ขอขอบคุณท่านอ๋องที่ยอมเสียสละ!”
คำพูดเหล่านี้เปลี่ยนการแสดงออกของฟู่เฉินหวนทันที
ฟู่จิ่งหลีกังวล และรีบพูดว่า “นี่ นี่ นี่ นี่มิเรียกว่าการเสียสละ พระชายาเพียงไปฝึกทักษะดนตรี นางยังคงเป็นพระชายาอ๋องอยู่!"
องค์ชายหล่างมู่ยิ้มอย่างเชื่องช้า “ใช่ ใช่ ใช่ ข้าพูดผิดไปเอง”
จากนั้นองค์ชายหล่างมู่ก็กลับไปนั่งลงที่เดิม
ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ มีการร้องเพลง ร่ายรำในวังหลวงเพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดิ เหล่าขุนนางทุกคนก็ยกจอกอวยพร
ทว่าในใจของลั่วชิงยวนยากจะสงบลงได้
ได้ยินคนข้าง ๆ กระซิบกระซาบ
“ดูลั่วเยวี่ยอิงสิ นางมีเรื่องฉาวกับคุณชายเหยียน ท่านอ๋องกลับมิรังเกียจเลยแม้แต่น้อย แถมยังทนเสียงวิจารณ์เพื่อรับนางเป็นชายารองอีก”
“แล้วดูลั่วชิงยวน พระชายาที่ถูกต้องตามกฎหมาย กลับมิได้รับความสนใจจากท่านอ๋องจนส่งนางไปให้องค์ชายหล่างมู่ง่าย ๆ”
“มิเข้าใจจริง ๆ ลั่วชิงยวนผู้นี้ด้อยกว่าลั่วเยวี่ยอิงตรงที่ใด?”
“ใครจะรู้ บางทีอาจเป็นเพราะลั่วเยวี่ยอิงเป็นรักแท้ของท่านอ๋องกระมัง”
“น่าสงสารลั่วชิงยวน ลงแรงไปตั้งมากมาย สุดท้ายต้องลงเอย…”
ขณะที่พูดอย่างนั้น เขาก็ถอนหายใจอย่างเสียใจ
ทุกคำพูดเหมือนมีดแทงทะลุหัวใจลั่วชิงยวน
ขณะที่เขาเดินออกจากท้องพระโรง องค์ชายหล่างมู่ก็มาหาลั่วชิงยวน
“พระชายา ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ไฉนมิตามข้าออกจากวังเสียเดี๋ยวนี้เลยเล่า? ข้ารอมิไหวที่จะสนทนากับพระชายาแล้ว”
เสียงขององค์ชายหล่างมู่ดังขึ้น ทุกคนที่ผ่านไปมามองมาที่เขา ทำให้รู้สึกอับอาย
ฟู่เฉินหวนหยุดเดิน
“ได้ ไปกันเถอะ”
เมื่อลั่วชิงยวนหันกลับมา นางก็มองไปที่ฟู่เฉินหวน ดวงตาของนางเย็นชาและเด็ดเดี่ยว
สายตานั้นเหมือนมีดแทงเข้ากลางใจฟู่เฉินหวน
ความรู้สึกเจ็บปวดใจแทบสลาย ทำให้รู้สึกทรมานยิ่ง
ฟู่เฉินหวนเดินจากไป และลั่วเยวี่ยอิงก็จับแขนของเขาไว้อย่างเสน่หา
ลั่วเยวี่ยอิงมิคาดคิดว่า วันนี้ท่านอ๋องจะฟังตนมากถึงเพียงนี้ แม้ว่าคนรอบข้างจะพูดถึงตนในทางมิดี แต่นางก็พอใจกับการที่ท่านอ๋องสนับสนุนตน
หลังจากวันนี้ ลั่วชิงยวนอย่าหวังจะมาแข่งกับนางอีก!
ในตำหนักอ๋องมีพระชายาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือลั่วเยวี่ยอิง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...