ในผลการทำนายแสดงให้เห็นว่า ดาวหมาป่าสวรรค์แห่งแคว้นได้ตกลงมา และจะเกิดสงครามในแคว้นเทียนเชวีย
เปลวไฟแห่งสงครามนั้นจะกลืนกินดินแดนครึ่งหนึ่งของแคว้นเทียนเชวีย
นี่เป็นมหาภัยพิบัติสำหรับแคว้นเทียนเชวีย แต่ก็เป็นโอกาสในการพลิกสถานการณ์ของพวกเขาด้วย
จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็คิดถึงพวกนอกด่าน
ฉับพลันนั้นก็นึกถึงฉินเชียนหลี่ขึ้นมา
ทันใดนั้น นางก็เริ่มกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉินเชียนหลี่หรือไม่
แต่ก่อนหน้านี้ คนของฟู่เฉินหวนที่ส่งไปบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
อีกทั้งลั่วอวิ๋นสี่ก็มิได้ส่งข่าวใด ๆ ให้นางมาเป็นเวลานาน ดังนั้นก็หมายความว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบสุขดี
แต่การทำนายนี้ย่อมมิหลอกลวง!
เช่นนั้นหลังจากรุ่งสาง ลั่วชิงยวนจึงส่งคนไปเชิญจักรพรรดิมา เพื่อถามเกี่ยวกับพวกนอกด่านที่ชายแดน
ฟู่จิ่งหานตอบว่า "ทุกอย่างที่นั่นดูเหมือนจะสงบสุขดี จนถึงตอนนี้ข้ามิได้ยินข่าวร้ายใด ๆ เลย"
ลั่วชิงยวนพยักหน้า "ก่อนหน้านี้พวกนอกด่านหายตัวไปอย่างลึกลับ หม่อมฉันคิดว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของชายแดน"
“หากในอีกมิกี่วันมีหนังสือราชการจากทางนั้นส่งมา ฝ่าบาทจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพคะ”
ฟู่จิ่งหานพยักหน้า “ได้สิ”
“ก่อนหน้านี้ เจ้าบอกว่า เจ้าอยากไปที่พระตำหนักโช่วสี่ แต่ไทเฮาพักฟื้นในพระตำหนักโช่วสี่มาหลายวันแล้ว และมิค่อยได้ออกไปข้างนอกเลย ข้ายังไม่มีโอกาสที่จะพานางออกไป”
"เจ้ารออีกหน่อยแล้วกัน"
ฟู่จิ่งหานก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขามิสามารถแสดงออกชัดเจนเกินไปได้ เขาทำได้เพียงมองหาโอกาสเท่านั้น
ลั่วชิงยวนพยักหน้า
ทำได้เพียงระงับอารมณ์และอดทนรออย่างเงียบ ๆ
ในที่สุด สองวันต่อมา ฟู่จิ่งหลีก็นำข่าวมาแจ้ง
ลั่วชิงยวนถามว่า "ฝ่าบาท สถานการณ์ตอนนี้เป็นเช่นไรบ้างเพคะ?"
ฟู่จิ่งหานนวดขมับของเขาแล้วพูดว่า "ตอนนี้บรรดาขุนนางนำโดยแม่ทัพใหญ่ฉินรู้สึกว่ามิควรประมาทพวกนอกด่าน เนื่องจากข่าวดังกล่าวถูกส่งออกจากชายแดนเพื่อขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก พวกเขาควรส่งกองทหารไปสนับสนุน”
"แต่เจ้าดูนี่สิ"
ฟู่จิ่งหานชี้ไปที่แผนที่ "กองทหารที่อยู่ใกล้ชายแดนที่สุดคือกองทัพอู่จิ้น ซึ่งประจำการอยู่ที่อู่จิ้นก็เป็นสถานที่ป้องกันที่สำคัญมากเช่นกัน"
“มีเพียงกองทัพของอู่จิ้นเท่านั้นที่สามารถสนับสนุนพวกเขาได้ทันเวลา กองทหารรักษาการณ์อื่น ๆ อยู่ห่างกันมากเกินไป อย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือนกว่าจะไปถึง แม่ทัพใหญ่ฉินคิดว่ามิทันการ”
“ขณะอีกฝ่ายที่นำโดยมหาราชาจารย์เหยียน เชื่อว่ากองทัพของอู่จิ้นมิสามารถระดมพลได้ทัน มิเช่นนั้นหากอู่จิ้นถูกยึดไปได้ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ”
“นอกจากนี้พวกเขายังยืนยันว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกนอกด่านมิเคยก่อเรื่อง และฉินเชียนหลี่เพิ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการสร้างแนวป้องกันเมื่อมินานมานี้ ดังนั้นจึงมิน่าจะมีปัญหาใหญ่”
“ดังนั้นพวกเขาจึงคัดค้านการส่งกองทหารจากอู่จิ้นไปสนับสนุน”
ฟู่จิ่งหานถอนหายใจอีกครั้ง "พวกเขาทำให้ข้าปวดหัวจะตายอยู่แล้ว"
“คงจะดีมากหากพี่สามอยู่ที่นี่ด้วย เขาว่าอย่างไรก็จะทำอย่างนั้น เช่นนั้นข้าจะได้มิต้องมาปวดหัวเช่นนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...