ซูโหยวรีบเข้ามาช่วยฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง เป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ?”
ฟู่เฉินหวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในทรวงร้อนรุ่มดั่งไฟสุม หัวก็ปวดแทบระเบิด ความเจ็บปวดนั้นมันมากเกินทนไหว เหมือนว่าหัวจะแตกออกเป็นเสี่ยง
“รีบไปตามท่านหมอกู้มาเร็ว”
เซียวชูรีบไปตามท่านหมอกู้มา ท่านหมอกู้ตรวจชีพจรดูลิ้นและดาของฟู่เฉินหวน เขาลอบตกใจ ปกติแล้วสุขภาพของฟู่เฉินหวนนั้นแข็งแรงมาโดยตลอด แต่เหตุใดถึงมีคนฉวยโอกาสจากเขาได้ง่ายนัก?
“ท่านหมอกู้ ท่านอ๋องเป็นอะไรหรือขอรับ?” ซูโหยวถาม
“ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก เพียงท่านอ๋องฉุนเฉียวมากไป และอ่อนล้าจากหลายเรื่อง น่าจะต้องกินยาสักเดือนก็จะฟื้นกำลังมาได้แล้ว” หมอกู้ตอบ
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับท่านหมอกู้เพื่อรับยามา” ซูโหยวเดินไปส่งท่านหมอกู้
เมื่อเขาหันหลังไป ก็มีรอยยิ้มแฝงนัยปรากฏบนริมฝีปากของหมอกู้
ครึ่งชั่วยามต่อมาซูโหยวก็กลับมาพร้อมยา หลังจากที่ฟู่เฉินหวนกินยาเข้าไป อาการปวดหัวของเขาก็ทุเลาลงอย่างมาก
“ท่านอ๋อง ช่วงนี้ท่านอ๋องอย่าเพิ่งกังวลกับเรื่องในตำหนักอ๋องดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ แม่บ้านเติ้งนั้นรับผิดชอบเรื่องของเรือนชั้นใน กระหม่อมจะดูแลเรื่องอื่น ๆ เอง สุขภาพของท่านอ๋องสำคัญที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
ซูโหยวคิดว่า นี่ต้องเป็นเพราะว่าช่วงนี้มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นและท่านอ๋องก็กริ้วบ่อยเกินไป จนทำลายสุขภาพของตน
ฟู่เฉินหวนยกมือถูหน้าผากและนิ่วหน้า “ข้าไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป แต่ข้าทนเห็นลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ไม่ได้”
ซูโหยวตะลึงไป “นี่ท่านอ๋องทรงรักนางจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ข้าคิดว่าไม่ใข่ แต่… ข้าก็บอกไม่ได้ว่ารู้สึกเช่นไร”
ฟู่เฉินหวนเองก็อดกังวลไม่ได้
เขานั้นเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยให้ตนมีความรู้สึกใด เพราะยามใดที่มีความรู้สึก ยามนั้นเขาก็จะอ่อนแอ เขาไม่อาจปล่อยให้ตนอ่อนแอได้
ซูโหยวเสริมว่า “กระหม่อมเลยรู้สึกว่า คุณหนูรองผู้นี้ไม่น่าจะใช่คนดี หากว่าท่านอ๋องมิได้ทรงจริงจังกับนางก็คงไม่เป็นไร แต่หากว่าท่านมีใจให้นางจริง ๆ กระหม่อมก็คิดว่าควรจะต้องกราบทูํลพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เฉินหวนตกตะลึงมาก เขานึกถึงความวุ่นวายของงานฉลองในวังวันนั้นที่นางใส่อาภรณ์สีทองลายเมฆซึ่งฟู่อวิ๋นโจวมอบให้
เขาถึงขั้นสั่งให้จับนางไปขังคุกไว้
กลายเป็นว่า เขาเองที่เป็นคนมอบของปลอมให้นางใส่เช่นนั้นหรือ?
หากว่าวันนั้นนางใส่อาภรณ์เพลิงไสวที่เขามอบให้นางไปจริง ๆ ตอนนี้นางก็อาจจะยังติดคุกอยู่
ตอนนี้เขาสับสบไปชั่วขณะ เมื่อคิดถึงเรื่องที่ตนเข้าใจลั่วชิงยวนผิด ภาพของลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ก็โผล่เข้ามาในหัวโดยไม่รู้ตัวซึ่งทำให้เขารู้สึกใจสลาย
พลังชี่และเลือดลมของเขาก็พลุ่งพล่าน ในปากมีรสคาวปร่าพลุ่งขึ้นมา
เขากระอักเลือดออกมาบนโต๊ะ และซูโหยวก็ร้องว่า “ท่านอ๋อง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...