บทที่ 6 มาดูแมวที่ห้องเราไหม
ถัดจากวันนั้นเมื่อ ฝน รุ่นน้องของเธอที่ขับรถมอเตอร์ไซด์ชนแมวพอเริ่มมีสติก็รีบติดต่อมาหารันทันที เจ้าตัวขออาสาจ่ายค่าผ่าตัด ค่ารักษาทั้งหมด ระยะเวลาที่เจ้าแมวผ่าตัดเป็นช่วงที่รันวุ่นวายกับโปรเจกต์จบพอดีเลยทำให้ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเจ้าเหมียวน้อย ทว่าสิ่งเดียวที่เกินคาดคิดคือตลอดเวลาที่แมวน้อยต้องผ่าตัดและพักฟื้น นอกจากฝนที่เข้าไปคอยเช็กอาการ ก็มีคีร์ที่คอยดูแลเจ้าเหมียวไม่ห่าง
การที่คีร์อาสาเข้าไปดูแลแมวทุกวันเลยเปิดโอกาสให้เขาหาเรื่องติดต่อเธอ แม้ว่าเธอจะบล็อกโซเชียลมีเดียเขาทุกช่องทางแต่ในวันนั้นหลังจากที่เขากลับมาส่งเธอที่หน้าหอพัก เขาก็ขอให้เธอปลดบล็อกเบอร์เขาก่อน เผื่อเขามีเรื่องแมวน้อยคืบหน้าจะได้รีบโทรแจ้ง รันให้เขารับปากว่านอกจากเรื่องแมวแล้วจะไม่คุยกันเรื่องอื่นซึ่งเจ้าตัวก็ตกปากรับคำเป็นมั่นเหมาะ ที่ไหนได้เธอดูเบาเขาเกินไป อย่างเช่นตอนนี้ที่เสียงปลายสายโทรศัพท์ยังคงพูดจ้อไม่หยุด
“เธอรู้ไหม วันนี้เจ้าเหมียวเริ่มกินอาหารเยอะขึ้นแล้วน้า น้าพงษ์บอกว่าไม่เกินอาทิตย์นี้ถ้าเจ้าเหมียวอาการเริ่มทรงตัวขึ้นก็คงพากลับบ้านได้แล้ว” เขาร่ายยาวถึงพฤติกรรมแมวเหมียว ไม่ว่าเจ้าแมวจะลืมตา กะพริบตา ร้องโวยวาย หรือ เดิน ทุก ๆ อากัปกิริยาเขาล้วนรายงานเธอวินาทีต่อวินาที ราวกับกำลังถ่ายทอดสดสถานการณ์ข่าวอย่างไรอย่างนั้น
“ถ้ามันดีขึ้น ก็โอเคแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดน้องฝนจ่ายแล้วใช่ไหม” รันถามเขา ค่าใช้จ่ายรอบนี้เหมือนจะไม่ใช่น้อย ๆ เธอรู้ดีว่าฐานะทางบ้านน้องฝนไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เจ้าตัวก็ยังยืนกรานจะจ่ายค่ารักษานี้ให้ได้เพื่อชดเชยความผิด
“อ้อ น้องฝนเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี่เอง เหมือนจะจ่ายเงินส่วนค่ารักษาครบแล้วนะ เหลือเพียงค่าพักค้างคืนเพื่อรักษาตัวของเจ้าแมวนี่แหละที่ยังไม่จ่าย ฉันเห็นว่ามันราคาไม่กี่พันเลยอาสาจ่ายส่วนนี้เองเพราะอย่างน้อยก็ถือเป็นโชคชะตาที่ฉันได้เจอกับเจ้านี่” ปลายสายตอบกลับมาหาเธอ รันไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เขายื่นมือเข้าช่วยเหลือ อย่างที่บอกเบื้องลึกจิตใจคีร์ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
“ฉันวางก่อนนะ” เธอรู้ดีว่าถ้าถือสายนานกว่านี้ฝั่งนั้นคงได้หาเรื่องชวนเธอคุยยาวแน่ ๆ เดี๋ยวลากเข้าเรื่องแมว เดี๋ยวทำทีขอปรึกษาเรื่องอาการ เธอจึงต้องรีบวางสายก่อน หลังจากพูดจบเธอก็ตัดสายทันที
คืนวันนั้นหลังจากที่เธอร้องไห้ในอ้อมแขนของเขา รู้สึกตัวอีกทีรันก็รีบผละออกจากอ้อมกอด เธอรู้สึกผิดนิด ๆ ที่โยงเรื่องชาติก่อนหน้ามาพาลลงใส่ชายหนุ่ม แม้ว่าเขาจะเป็นคนเดียวกันแต่จิตสำนึกเธอก็พอแยกได้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น เธอเลือกที่จะเลี่ยงอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุที่ร้องไห้ ก่อนจะนั่งเงียบตลอดทางกลับบ้าน
รันถอนหายใจกับตัวเองอีกครั้ง ว่ากันตามตรงแม้เธอจะรู้สึกสบายใจกับอีกฝ่ายขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่มากถึงขั้นวางเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นแล้วเปิดใจยอมรับเขาได้ เธอตระหนักรู้นิสัยของเขาดีเขาอาจเปลี่ยนแปลงตัวเองเพียงชั่วคราวเพราะอย่างนั้นจะเอาพฤติกรรมตอนนี้มาด่วนสรุปไม่ได้
ถัดจากวันนั้นอีกสองวันระหว่างที่เธอกำลังจะกลับหอพัก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อเห็นเบอร์ของปลายสายเธอก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เป็นคีร์เจ้าเก่าเจ้าประจำ วันนี้เขาโทรมาไวกว่าทุกทีปกติจะโทรศัพท์มาหาเธอช่วงเย็น ๆ แต่นี่เพิ่งบ่ายกว่า ๆ เอง เธอลังเลใจเล็กน้อยก่อนจะใช้นิ้วสไลด์หน้าจอรับสาย
“มีอะไร” น้ำเสียงนิ่งเรียบกรอกลงไปบนสาย
“รัน ฉันตัดสินใจได้แล้วว่าฉันจะรับเลี้ยงเจ้าเหมียวเอง วันนี้ฉันเลยให้น้าพงษ์โทรไปยกเลิกเพื่อนของน้าที่ตกลงจะรับเลี้ยงแมวตอนแรกและก็ไปรับมันมา ตอนนี้เจ้าเหมียวอยู่ที่ห้องฉันเรียบร้อย” เขาพูดจ้อตามเคย หญิงสาวประหลาดใจที่ชายหนุ่มตัดสินใจเลี้ยงแมวไว้เอง ในชาติก่อนหน้าเขาค่อนข้างกังวลกับการเลี้ยงสัตว์อะไรบางอย่างด้วยข้อจำกัดด้านเวลา อย่างพลูโตตอนนั้นก็เป็นเพราะรันรับปากเขาว่าจะดูแลเป็นอย่างดีสุดท้ายเขาจึงใจอ่อน
“อ้อ งั้นก็ดูแลมันดีดีนะ” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าเขาสามารถใส่ใจเจ้าแมวได้เขาอาจจะใส่ใจให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากขึ้น ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเหมือนก่อนหน้านั้น
“แต่ฉันมีเรื่องอยากปรึกษาเธอนิดหน่อย อันที่จริงฉันไม่แน่ใจว่าของที่ต้องใช้ดูแลเจ้าเหมียวซื้อมาครบหรือยังเธอสนใจมา..” ยังไม่ทันที่จะพูดจบหญิงสาวก็ตอบกลับทันที
“นายลองเข้าไปเช็กในกูเกิลสิ ฉันจำได้ว่ามีเว็บไซต์ช่วยคนเลี้ยงแมวมือใหม่อยู่” รันตัดความหวังเขาอย่างไร้เยื่อใย แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมแพ้
“อ้อแต่ฉันจะเช็คเองได้ไหมนะ อีกอย่างเจ้าเหมียวนี่ดูน่าสงสารมากเลยนะมันดูอยากเจอเธอมากกกกก” เขาจงใจลากเสียงคำว่ามาก เพื่ออ้อนให้หญิงสาวใจอ่อน ว่ากันตามจริงเธอก็อยากเจอเจ้าแมวอยู่เหมือนกันแต่ด้วยเงื่อนไขที่ต้องไปหาเขาถึงคอนโดทำให้เธอตัดความอยากเจอทิ้งไปอย่างง่ายดาย
“คงไม่ดีกว่า” รันตอบกลับ เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา
“เอางี้ฉันสัญญา ถ้าเธอมาหามันฉันขอเวลาเธอครึ่งชั่วโมงก็ได้แล้วเดี๋ยวฉันไปส่ง ฉันอยากให้เธอเจอมันจริง ๆ นะ” เขาพยายามเกลี้ยกล่อมเธอสุดฤทธิ์ น้ำเสียงรอบนี้ไม่มีความอ้อนเหมือนประโยคก่อนหน้า ท่าทีของเขาเหมือนต้องการให้เธอ ไปเจอเจ้าแมวจริง ๆ เธอลังเลเล็กน้อยทว่าเมื่อมองไปเห็นคนที่กำลังเดินมาทางนี้ เธอจึงตอบรับเขาไปอย่างไว
“เอาสิ ได้ อีก 15 นาทีเจอกัน” เมื่อหญิงสาววางสายลง ทางฝั่งคีร์ก็คล้ายคนที่ตกอยู่ในห้วงความฝัน รันตกลงมาห้องเขาแล้ว เขาเหลือบมองเจ้าแมวที่ดมฟุดฟิด สำรวจห้องเขาไปมาก่อนจะยิ้มไปอุ้มมันมาลูบหัว เคราะห์ดีที่ขาหลังของมันยังพอผ่าตัดรักษาได้แม้จะเดินกะเผลกไปบ้างแต่ก็ยังไม่เสียขาไปถาวร เขาอุ้มมันขึ้นมาจ้องหน้าก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ต่อไปนี้ห้องนี้ก็คือบ้านของหนูนะ” เจ้าแมวมองหน้าเขาก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาเลียแก้มชายหนุ่ม คีร์หัวเราะเล็กน้อยกับเจ้าก้อนขนตัวนี้ เขาตั้งใจซื้อปลอกคอแบบเป็นผ้าเย็บสีน้ำเงินให้ไม่ใช่แบบเป็นสายยาง เมื่ออยู่กับแมวน้อยนี่แล้วจึงเหมือนกับเด็กน้อยเวลาผูกผ้ากันเปื้อน
เขาเกาคางให้มันเล่นไปสักพักก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น ชายหนุ่มรีบวางแมวลงแล้วถลาไปเปิดประตูทันที ทว่าทันทีที่เปิดประตู กลับพบรันและชายหนุ่มอีกหนึ่งยืนอยู่หน้าห้องเขา
“ไง พอดีรันชวนฉันมาด้วยอะ เห็นว่านายเอาแมวมาเลี้ยงใหม่ ฉันเลยอยากมาดูด้วยอีกคน” เสียงของต้นสนพูดขึ้นอย่างราบเรียบ เขาแอบหัวเราะในใจเล็ก ๆ ที่เห็นเพื่อนเขาทำสีหน้าสุดเซ็งบอกบุญไม่รับใส่ ทำไงได้เจ้านี่ดันแผนสูงเอาแมวมาล่อสาวให้มาหา เขาเลยอาสามาเป็นกอขอคอให้
รันตั้งตัวไม่ทันที่ต้นสนกลับก่อนเพราะตอนนี้ในห้องเหลือเพียงเธอกับเขาและแมวอีกหนึ่งตัว ชายหนุ่มเดินมานั่งใกล้ ๆ รันแต่เว้นระยะห่างไว้ประมาณหนึ่งฝ่ามือ
“นี่ ตรงนั้นคือกระบะทรายแมวรุ่นใหม่ที่ฉันลองซื้อมา เห็นว่าทรายแมวรุ่นนี้ช่วยระงับกลิ่นได้ดีด้วยนะ” เขาชี้ของที่ซื้อมาในห้องพลางอธิบาย ชั่วจังหวะนั้นโจที่เริ่มเมื่อยเลยเดินมานั่งแหมะตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งคู่ เจ้าแมวเอาหัวซุกไปทางขาของรันก่อนจะยื่นเท้าทั้งสี่ข้างไปทางคีร์
“แหมไอนี่ นอนหนุนตักแม่เขาสบายใจเลยนะ” ทันทีที่เสียงคีร์พูดจบ รันก็หันขวับมองเขา ก็ไม่นับว่าแปลกอะไรถ้าเธอสองคนคบกันพอมีสัตว์เลี้ยงจะเรียกแทนตัวเองว่าพ่อกับแม่ แต่ในสถานการณ์นี้มันแอบแปลก ๆ พิกล
“เอาน่า อย่าคิดมาก เป็นแม่ให้มันหน่อย” เขาพูดก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวมันจังหวะเดียวกับที่รันกำลังจะลูบหัวโจเช่นกัน มือของทั้งสองคนจึงบังเอิญแตะโดนกัน .. ราวกับถูกไฟช็อตรันเลยรีบดึงมือกลับทว่าจังหวะนั้นคีร์ก็คว้ามือของรันมาจับไว้ หญิงสาวถลึงตาให้เขาปล่อยมือ ทว่าชายหนุ่มกับใช้มืออีกข้างทำสัญญาณให้หญิงสาวเงียบชี้ไปที่โจที่กำลังนอนหลับสบายใจเฉิบ
คีร์จับมือรันวางไว้ที่พื้นเขาจับมือเธอแน่น ก่อนจะใช้มืออีกข้างสไลด์เล่นมือถือไปพลาง รันอยากจะด่าคนตรงหน้าแต่ลึก ๆ ในใจเธอก็อยากให้เขาจับมือเธอไว้ ความรู้สึกสองขั้วตีกันในใจ ท้ายที่สุดเธอก็ปล่อยให้ชายหนุ่มจับมือเธอไว้เงียบ ๆ เวลาผ่านไปหลายนาที ด้วยอากาศที่เย็นสบายในห้องแอร์ รวมถึงความอบอุ่นจากมือที่จับ ทำให้รันเคลิ้มง่วงไปไม่ต่างกับโจ หัวของหญิงสาวเอนไปอีกฝั่ง โชคดีที่คีร์หันมาเห็นจึงรีบใช้มือรองหัวหญิงสาวได้ทัน เขาค่อย ๆ เอนหัวของเธอให้มาซบไหล่ แต่เมื่อคิดถึงท่านอนของเธอที่อาจไม่สบายตัว เขาจึงตัดสินใจช้อนตัวหญิงสาวขึ้น ก่อนจะอุ้มพาเธอไปไว้ในห้องนอน วางเธอไว้บนเตียงตั้งใจว่าเลย 6 โมงเย็นค่อยเข้าไปปลุกเธอ
เขาลูบผมที่ปรกหน้าเธอออก ถอดถุงเท้าให้เธอก่อนจะห่มผ้าให้เรียบร้อย เขารู้ว่าปกติเธอชอบนอนกอดหมอนข้างชายหนุ่มเลยหยิบหมอนข้างเขาจัดท่าให้เธอนอนกอด ปิดม่านไม่ให้แสงส่องเข้ามาก่อนจะปิดประตูเบา ๆ
ชายหนุ่มที่เริ่มรู้สึกง่วงเหมือนกันจึงตัดสินใจเดินไปนอนบนโซฟา จังหวะนั้นเจ้าโจก็ตื่นขึ้นพอดีมันเห็นชายหนุ่มนอนบนนั้นเลยกระโดดขึ้นไปนั่งบนหน้าอกก่อนจะค่อย ๆ จัดท่านอนซุกตัวเข้ากับใต้คางของเขา คีร์หัวเราะเล็กน้อยให้กับความอ้อนตรงหน้า จับเจ้าโจที่ขดตัวอยู่มาจ้องหน้า สีหน้ามันงัวเงียแต่ก็ยังยื่นหน้ามาถูไถคางเขา
“พ่อไม่รู้ว่าหนูคือพลูโตหรือเปล่า” เขามองหน้าเจ้าแมวพลางพูดขึ้น โจมองหน้าเขากลับก่อนจะร้องเหมียวออกมา ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะในความแสนรู้
“แต่ครั้งนี้พ่อจะดูแลทั้งหนูกับแม่ของหนูให้ดีพ่อสัญญา” เขาเชื่อว่านี่คือโชคชะตาที่ทำให้เขาได้เจอแมวตัวนี้ แววตาของมันคล้ายกับพลูโตไม่ผิดเพี้ยน แต่เขาก็ไม่ปักใจเชื่ออะไร เพียงแต่ยิ่งดูแลมันทุกวันก็ยิ่งผูกพันจนตัดสินใจรับมาเลี้ยงเอง
“โจไม่ต้องดูแลพ่อก็ได้ แต่อย่างน้อยต้องดูแลแม่เขาด้วยนะ” เจ้าเหมียวร้องตอบกลับเขาราวกับให้คำมั่นสัญญา ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนจะจับมันนอนบนโซฟาด้วยกัน
ท่ามกลางความเงียบภายในห้อง เจ้าแมวน้อยซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดชายหนุ่มราวกับทดแทนความรู้สึกของชาติที่แล้วที่เขาไม่ค่อยได้อยู่กับมัน ก่อนจะผล็อยหลับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก