ตอนที่ 188 ที่รักคุณนี่อ่อนไหวจริงๆ
นัชชาแทบไม่รู้สักนิดเลยว่าแค่ข้าวหนึ่งมื้อที่ต้องกินข้าวกับเตชิตที่โรงอาหาร ถึงกับต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงขนาดนี้ แม้แต่เธอก็ยังปฎิเสธอีกด้วย
“ถ้าคุณไปกับฉัน คนอื่นก็ต้องเห็นกันหมดนะสิ คุณจะให้ฉันกินต่อไปได้ยังไง!” คนอื่นจะได้รีบแอบหลบ
เขาเกลียดที่จะทำให้เธอถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นต่อหน้าสาธารณชน
ถ้าที่อื่นปกติแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่ตอนนี้มันคือบริษัท ถ้ายังดื้อดึงแบบนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่
เตชิตคิดแล้วคิดอีกว่าคงไม่เหมาะเท่าที่ควร แต่ที่บอกว่าไม่เหมาะสมไม่ใช่ว่ากลัวคนอื่นรู้ แต่ไม่อยากให้สายตาของพวกเขาเป็นก้างขวางคอ
หลังจากที่คิดได้ เขาหยิบโทรศัพท์ต่อสายตรงไปยังโรงอาหารของบริษัท “ส่งอาหารหลายอย่างมาห้องทำงานประธานบริษัท”
เขาพูดประโยคเดียวก็วางสาย คนรับผิดชอบที่โรงอาหารถึงกับงงอยู่ดีๆก็ถูกวางสาย หันไปมองที่เครื่องโทรศัพท์มองเบอร์ที่ปรากฎอยู่ ที่แท้ก็ห้องทำงานของท่านประธานจริงๆ...!
เป็นครั้งแรกเลยที่ท่านประธานเป็นคนโทรมาหาเขาเอง ไม่ต้องถามเลยว่าตื่นเต้นขนาดไหน รีบให้พ่อครัวทำกับข้าวที่เหมาะกับสภาพอากาศของวันนี้ทำกับข้าวเสริมเพื่อเสริ์ฟขึ้นไปให้ท่านประธาน
แค่พวกเขาสองคนกินข้าวมีอาหารหกอย่าง น้ำแกงหนึ่งถ้วย โจ๊กอีกหนึ่งชาม กลิ่นอาหารหอมฟุ้งควันร้อนๆโชย ถึงแม้ว่าอาหารของห้องครัวเตนัทลอว์เฟิร์มถือว่าไม่เลว แต่นัชชาเห็นกับสิ่งที่อยุ่ข้างหน้าถึงกับนึกว่าอย่างกับอยู่ในห้องครัวขนาดย่อมๆกันเลยทีเดียว
ปกติเธอกินก็ไม่เห็นมีความละเอียดละอ่อนขนาดนี้ กุ้งแก้วผัดผักข้างจานยังจะมีใบไม้สีเขียวประดับตกแต่ง.....
เตชิตหยิบอุปกรณ์ในการทานอาหารให้กับเธอ “กินข้าวเถอะ”
นัชชาหยิบมาแล้วยังจะตั้งใจล้อเขาอีก “ที่แท้ที่บอกว่ากินข้าวเที่ยงด้วยกันก็แค่เลี้ยงข้าวเที่ยวของโรงอาหารเนี่ยนะ?”
เตชิตขมวดคิ้ว “ถ้าเธอไม่ชอบ คราวหน้าผมให้ตรัณไปจอง”
“ล้อเล่นค่ะ” นัชชาแอบอมยิ้ม เธอไม่ได้มีตรงไหนที่ไม่ชอบ อาหารพวกนี้เป็นอาหารที่ต้องสั่งให้โรงอาหารของบริษัททำขึ้นมาพิเศษ อร่อยไม่แพ้ข้างนอกเลยแหละ
เตชิตวางตะเกียบที่อยู่ในมือวางบนชามือ เสียง ‘กริ๊ง’ดังกังวานออกมา “เดี๋ยวนี้ใช้ได้นะเราอ่ะชอบหยอกผมเห็นเป็นเรื่องสนุกไปแล้วนะ”
นัชชาเม้มปากซ่อนรอยยิ้มทำหน้าทำตาอย่างจริงจังพร้อมทั้งส่ายหัว “ฉันไม่ได้หยอกนะคะ”
ผู้ชายที่มือกอดกันอยู่ที่หน้าอกเอาแต่มองผู้หญิงข้างๆกำลังกินเอาๆ ถึงกับใจอ่อนลง “ถ้าเธออยากหยอกก็ไม่เป็นไร ก็แค่อย่าอึดอัดคนเดียวหรือแอบไปร้องไห้ขี้มูกโป่งก็พอ”
ถ้าแกล้งหยอกเธอสักสักประโยคแลวทำให้สภาพจิตใจเธอดีขึ้นก็คือว่าใช้ได้
เสียงเคี้ยวข้าวที่ปากของนัชชาหยุดลงและก้กลืนเข้าคออย่างเร็ว กลัวว่าตัวเองจะพูดไม่ทัน “จริงหรอคะ?”
“อืม”
“ฉันมีเรื่องที่จะตกลงกับคุณ” เธอวางช้อนในมือลง จัดท่านั่งให้ตัวเองซึ่งดูแล้วไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่
เตชิตไม่เคยเห็นเธอจริงจังแบบนี้เขาพยักหน้า “พูดมา”
“ยังมีอีกหนึ่งเดือนไม่ใช่หรอกว่าที่จะถึงปีใหม่ คุณก็เห็นนี่หน่า ช่วงนี้ฉันดูแลคุณแล้วก็ยังต้องดูแลทีนาร์ด้วย คุณควรจะมีคำชมใช่ไหม?” เธอพูดไปมองสายตาของเตชิตไปแสดงออกอย่างชัดเจน ขาดก็แค่พูดตรงออกมา
เตชิตฟังแล้วก็รู้ความหมาย แต่ก็ยังแอบทำเหมือนไม่รู้ความหมาย “เธอพูดถึงเรื่องอะไร?”
นัชชาได้แต่ตั้งตามองเขาเมื่อฟังเขาถามกลับประโยคนี้ถึงกับเบื่อคนที่ทำไม่รู้เนื้อรู้ตัวถึงกับแลบลิ้นใส่ “คุณรู้แต่อย่ามาทำเหมือนไม่รู้นะ ที่ฉันพูดเนี่ยคุณยังไม่รู้อีกหรอ?”
“รู้สิ” เตชิตถึงกับยิ้ม มองเธอด้วยสายตาเชื้อเชิญ “ต้องดูว่าเป็นเรื่องบริษัทหรือว่าเรื่องส่วนตัว”
“เรื่องบริษัทสิ” นัชชาอ้อมค้อมจนเหนื่อย เขาก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่นั่นแหละ ที่เรื่องยากๆนี่รู้ดีจริงๆ “โบนัสออกเร็วไม่ใช่หรอ ได้ยินเพื่อนร่วมงานบอกว่ามีประกาศออกแล้ว?”
เตชิตตาถึงกับยิ้ม ที่แท้พูดอ้อมไปอ้อมมาก็แค่เรื่องโบนัสกลางปี
“นั่นมันไม่เหมือนกัน” นัชชาทำหน้าเศร้า “เงินที่ได้มานั่นก็ไม่ใช่ฉันต้องการใช้สักหน่อย ให้พ่อกับแม่ไปตั้งนานแล้ว”
ตอนนี้พูดถีงเรื่องหย่าดูเหมือนมันผ่านมานานแล้ว นึกถึงดวิษแล้วหัวใจของเธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรอีกเลย
เตเชิตถึงกับทนไม่ได่ที่เธอเอาแต่ทำตัวแย่แบบนี้ ได้แต่ปลอบเธอด้วยเสียงอ่อนโยนข้างหู “วางใจได้เลยนะ โบนัสปลายปีให้เยอะไม่ได้แต่ผมให้อั่งเปาคุณนะ”
อยู่ในบริษัทเขาเป็นเจ้านายไม่สามารถเข้าข้างคนสนิทได้ หากแต่ว่าอยู่บ้านเขาเป็นคนของเธอ จะอยากอ้อนยังไงก็อ้อนไปได้เลย
ก็แค่โบนัสปลายปี เดี๋ยวให้สองเท่าเลยก็ได้
นัชชายังไม่หายหยุดเสียใจ “คุณไม่เข้าใจหรอก โบนัสปลายปีของพนักงานเล็กๆอ่ะมันหมายถึงการยอมรับในตัวของพนักงาน ทุกคนก็หวังว่าจะได้เยอะๆนอกจากได้เยอะแล้ว ยังเหมือนได้รับความสำเร็จอีกด้วย”
“ยังไงนะ เป็นผู้หญิงของผมนี่ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกหรอหือ?” เขาอ้าปากงับติ่งหูเธอทันที แต่ไม่ได้ใช้แรงอะไร พร้อมทั้งใช้ฟันงับเบาๆ “ผมอ่ะเอาชนะยากกว่างานอีกเยอะ”
หูของนัชชาค่อนข้างอ่อนไหวง่าย เธอถึงกับตัวเกร็งขึ้นมาทันทีเหมือนกับไฟที่กำลังแล่นผ่านไปทั่วตัว ขนลุกไปทั่ว เธอรีบหัวหัวหลบอย่างไว คำพูดที่เขาเมื่อกี้นี้ถึงกับทำให้เธอหัวใจเต้นแรง หน้าแดง “คุณอย่ามามั่ว เดี่ยวจะต้องเข้างานแล้วนะ!”
“คุณวางใจได้เลย ตอนเที่ยงเวลาพักน้อยมาก เวลาไม่พอสำหรับผมหรอก” เตชิตก็พูดไปแต่ไม่ปล่อยหูของเธอเลย พลางอ้าปากดูดแล้วดูดอีก เธอที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาถึงกับตัวสั่นเทา
เขายิ้ม มีเสียงกระเส่าปนออกมา “ที่รัก คุณอ่อนไหวจริงๆ”
“…..” นัชชาผลักเขาออกหน้าเธอแดงแจ๋ “คุณอย่าพูดนะ!”
“ทำไมอายง่ายขนาดนี้เนี่ย ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่พูดสองประโยคเองนะ?” เขาตั้งใจแกล้งเธอ ขนาดลมหายใจของเขาทั้งหมดยังเป่าลงที่ซอกคอขาวๆของเธอ
นัชชาเป็นคนหัวโบราณได้ยินกับสิ่งที่เขาพูดถึงกับอดไม่ได้ “ก็คุณชอบแกล้งยั่วไม่ใช่หรอ!”
“ผู้หญิงของผมทำไมผมจะยั่วไม่ได้?” เตชิตเอาแต่มองที่หูของเธอแดงขึ้นอย่างชัดเจน เขากัดหูของเธอ เหมือนกับเป็นการจ่ายค่าปรับ “ปากว่าตาขยิบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...