ตอนที่ 220 ใครจะเข้าใจความยากลำบากของเขา
เมื่อสักครู่เขาพูดโดยไม่ทันได้คิด ตอนนี้ปวีณรู้ตัวแล้วว่าเขาเรียกออกไปอย่างไม่สมควร เขาต้องการปกปิดต่อไป แต่ว่ามันก็สายเกินไปแล้ว
ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงเข้ม ไม่รู้ว่าเพราะร้อนใจหรือว่าโมโห หรือเป็นเพราะความลับเล็กๆที่ไม่สามารถบอกใครได้ “คุณเตชิต ผม ผม….ผมขอโทษครับ!”
คำพูดทั้งหมดมีเพียงสามคำนี้ เขาไม่รู้่ว่าจะพูดอะไรอีก เขาคิดถึงอาการของทีนาร์ตอนนี้ ทำให้รู้สึกยิ่งทุกข์ใจ
ทุกอย่างเป็นเพราะเขา ถ้าหากเขาไม่ปล่อยให้เธอไปวันนั้น ตอนนี้เธอคงไม่เป็นเช่นนี้
“อาการของคุณทีนาร์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ เพราะผมเธอเลยเป็นเช่นนี้ ผมมีส่วนรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ กรุณาบอกผมด้วยเถอะครับ…”
เตชิตมองดูชายที่อยู่ตรงหน้าเขา ปวีณอยู่ข้างกายเขามาเป็นเวลานาน ไม่เคยเห็นเขาแสดงอาการเช่นนี้ เขาคือคนที่หนักแน่นกว่าแผ่นหิน แต่ในเวลานี้ตาเขาทั้งคู่กลับกลายเป็นสีแดง
เตชิตแตะมือที่อยู่ข้างกายเขาและถามว่า “คิดกับเธอเป็นอย่างอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ปวีณรู้ว่าเขาสามารถเดาได้ เขาจึงไม่ต้องการทำให้เรื่องราวให้ซับซ้อนอีกต่อไป “ตั้งแต่ที่คุณทีนาร์กลับประเทศมา ตั้งแต่เห็น เธอที่สนามบินครั้งแรก ผมก็เริ่มรู้สึกสนใจเธอ ภายหลังคุณยอมให้ผมอยู่ที่นี่ คุณทีนาร์คอยดูแลเอาใจใส่ผม เธอร่างกาย อ่อนแอและผมก็อยากดูแลเธอ สุดท้ายแล้วผมก็ไม่สามารถควบคุมหัวใจของตัวเองได้”
พูดถึงตรงนี้ ปวีณระลึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุข พอพูดจบเขาก็รีบพูดต่อ “อย่าได้ตำหนิคุณทีนาร์เลยนะครับ ผมผิดเองคนเดียว ผมเอง… ผมเองที่คิดไปไกล”
คำพูดของเขาทำให้คิ้วของเตชิตยิ่งจมลึกขึ้น หากว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ปิดกั้นปวีณมากเกินไป ปวีณก็อาจจะไม่ได้หยุดรั้งตัวเองเอาไว้ และมันจะช่วยให้เขาได้ไล่ตามความสุขของเขา แต่เรื่องราวกลับดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยนในวันนี้ การปกปิดเจตนาของเขา ทำให้เกิดเรื่องขึ้น เรื่องที่เตชิตไม่รู้ว่าทีนาร์จะมาถึงก่อน ซึ่งมันทำให้เขาหมดความเชื่อมันในตัวปวีณ
ไม่ว่าจะชื่นชมเขาแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถให้เขาอยู่รับใช้อีกต่อไป สิ่งที่สำคัญสำหรับหัวหน้าและผู้ใต้บังคับบัญชา หนึ่งคือความจริงใจ อีกหนึ่งคือความไว้ใจ ปวีณทำให้เขาผิดหวัง
เตชิตก้าวมาถึงวันนี้ เป็นบุคคลสาธารณะเมื่อฟังถึงตอนนี้ก็ไม่คิดอยากฟังอีกต่อไป เขามีแต่ความผิดหวังในสายตา “ปวีณคุณอยู่กับผมมานานหลายปี ไม่ต้องทำงานหนักและไม่ต้องลำบากอะไร เรื่องนี้คุณทำไม่ถูกต้อง ผมจำเป็นต้องให้บทลงโทษ ผมจะให้เงินคุณก้อนหนึ่ง ผมจะให้ทนายจัดการส่งให้กับคุณ”
ปวีณตัวแข็งทื่อ ไม่ใช่เพราะเพิ่งจะสูญเสียงานไป ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่มันเป็นความลังเลและความตกใจจากก้นบึ้งของหัวใจ
เตชิตช่วยเขาจากความเดือดร้อน เขาตั้งใจอุทิศทั้งชีวิตทำงานให้กับเขา ไม่คาดคิดว่าชะตาของเขาในทางเดินนี้ช่างสั้นนัก ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
แม้ว่าไม่คิดอยากยอมแพ้ แต่เขาก็ไม่มีหน้าจะสู้อีกต่อไป เป็นเขาที่ละเลยหน้าที่ เขาไม่มีอะไรจะโต้แย้ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกน้องที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี เตชิตก็รู้สึกใจอ่อน ไม่ต้องการเห็นเขาต้องตกระกำลำบาก เขาหันหลังกลับไปมองและตะโกนบอกกับปวีณให้หยุดก่อน ขณะที่เขาหันหลังกลับก็เกิดเสียง “ตึก ตึก” ชายสูงเจ็ดฟุตหล่นลงไปกองที่พื้น!
ในวิลล่ามีคนเพียงแค่สองคน ในห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่นั้นเงียบสนิท ได้ยินคำพูดของปวีณ คำพูดนี้ พอพูดจบ เตชิตกลับไม่ได้เปิดปากกลับจ้องมองไปที่เขาเป็นเวลานาน
ครู่ใหญ่ เขาก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ แต่ว่าการหัวเราะครั้งนี้กลับไม่มีความอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว “คุณคิดว่าผมให้ความหวังเธออย่างนั้นรึ คุณกล้าดียังไงมาด่วนสรุปกันเช่นนั้น”
คำพูดของเขากัดหนักมาก กลับกลายเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง ดูไม่ยากว่าคำพูดของปวีณทำให้เตชิตรู้สึกโกรธขึ้นมา
เตชิตเดินมาที่หน้าเขา ย่อตัวลงและมองดู รังสีแห่งความโกรธทำให้ปวีณรู้สึกยากที่จ้องมองกลับไปที่เขา “คุณคิดว่าผมไม่รู้ หรอ คิดว่าผมไม่ปฏิเสธหรอ ตอนนี้สุขภาพร่างกายเธอไม่ดี ถ้ามีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น คุณรับประกันได้รึเปล่า ปวีณ คุณอยู่กับ ผมมาหลายปีแล้ว ผมคิดว่าคุณเข้าใจผม ไม่คิดว่าคุณจะคิดกับผมอย่างนี้”
ในคำสบถนี้ ไม่ใช่เขาไม่ผิดหวัง
ปวีณหยุดชะงัก ลืมปฏิกิริยาทั้งหมด
“ผมมีคนรักของตัวเอง ที่ต้องไปจับมือดูแล คุณคิดว่าผมสบายใจกับเรื่องนี้นักหรอ ผู้ชายที่ไหนต้องการให้คนรักของตัวเอง ต้องทนกับข้อบกพร่องของเขา ทุกวันนี้ผมก็ทำตัวลำบาก ทั้งหมดนี้ก็เพราะคำว่าต้องรับผิดชอบ คุณเข้าใจรึยัง!” เตชิตพูดไปก็ไม่สามารถระงับอารมณ์ของเขาได้
บางทีเขาเองก็ใกล้จะหมดความอดทน อดทนที่จะออมชอมต่อไปไม่ไหว นัชชาไม่เข้าใจ ปรัณก็ทำให้เขาลังเลในบางครั้งบาง คราว ตอนนี้ปวีณก็ยังตัดสินเขาเช่นนี้อีก ในโลกนี้หากจะทำเรื่องดีงามให้สำเร็จ ที่จริงเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่แม้แต่ เรื่องธรรมดาก็ยังไม่สามารถทำได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...