ตอนที่306 นัชให้ผม
ร่างของนัชชาสั่นอยู่ตลอดเวลา เธอหมดท่าและตะขิดตะขวงใจ พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง เธอรู้ว่าถ้าแข็งใส่ผู้ชายคนนี้ ตัวเองก็จะได้รับผลที่ออกมาไม่ดี
ทั้งสองมองหน้ากัน ไม่ได้พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง สิ่งที่อยู่ในบรรยากาศตอนนั้นก็คือความเร่งรีบที่จะไปให้ถึงปลายทาง
นัชชาหายใจเข้าลึกๆ เมื่อปากพูดอีกครั้ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ้อนวอน “ปล่อยฉันไปเถอะนะ”
“ให้เธอไป แล้วหลังจากนี้ล่ะ” เขายืนขึ้นและเข้าใกล้เธอ จนกระทั่งขาที่มั่นคงหยุดอยู่ที่เท้าของเธอ “ให้โอกาสคุณหนีผมไปอีกครั้งหนึ่งรึ”
“ฉันหนีไม่พ้นหรอก” นัชชาพูดอย่างขมขื่น และมองด้วยน้ำตาคลอ “คุณมีความสามารถที่ทำให้ฉันหนียังไงก็หนีไม่พ้นไม่ใช่หรอ”
“ถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องพยายามดิ้นรนอีกเข้าใจไหม” เขาไม่ต้องการที่จะทำร้ายเธอ ไม่แม้สักนิด แต่ปฏิกิริยาของเธอกลับทำเหมือนกับว่าได้ลืมนึกถึงข้อนี้ เขารู้สึกสับสน
“เตชิต ฉันไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับคุณยังไง ฉันต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองสักพัก….”
“ทำไมคุณถึงไม่รู้ล่ะ” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นเชยคางสีขาวของเธอ “เพราะแฟนของคุณหรือว่าเพราะหลังจากผ่านไปห้าปีคุณก็ลืมผมแล้ว”
จะลืมได้อย่างไร
นัชชาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเอง เธอกระพริบตาสองครั้งแต่ยังคงปากแข็ง “ห้าปี เป็นเวลาที่นานมากนะ”
เตชิตสับสนกับสิ่งที่เธอพูด เขามองเธอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เธอกลับมองไปที่เงาหลังของเขา
“คุณไม่ได้รักผมแล้วใช่มั๊ย” เขาตะคอก “นัชชา มองผมสิ”
นัชชาถูกบังคับให้หลังชนฝา เธอคิดว่าตราบใดที่เธอคิดว่าเธอยืนหยัดผู้ชายคนนี้จะก้าวถอยหลัง ดังนั้นเธอได้แต่ยืดคอตรงกำมือทั้งสองแน่นและบอกเขาไป “ใช่ ฉันไม่ได้รักคุณแล้ว ฉันรักคนอื่นแล้ว”
ประโยคนี้ประสบความสำเร็จในการทำให้สายใยสุดท้ายของเตชิตได้ถึงคราวปราชัย เขาจ้องมองเธออย่างเยือกเย็น มันเป็นความหนาวเหน็บที่ออกมาจากขั้วกระดูก “ผมรอคุณมาห้าปี ไม่ได้รอให้คุณไปรักคนอื่น”
เมื่อพูดจบก็ไม่รอท่า มือทั้งสองที่เต็มไปด้วยความโกรธ “แควก” ฉีกชุดบนร่างกายของเธอ ผ้าที่เย็บมือย่างปราณีตถูกฉีกขาดในทันที เหลือแค่เพียงสร้อยไข่มุกที่อยู่ใต้คางของเธอมองเห็นเป็นรอยแดง
ชายผู้นั้นแข็งแรง ผู้หญิงจะต่อสู้ได้อย่างไร นัชชาไม่ทันได้ตอบโต้มือและไหล่ของเธอก็ถูกบิด มืออันใหญ่โตจับเธอเพื่อล็อคไว้ข้างหลัง ในเวลานี้คนหันหน้าเข้าหากำแพง มองไม่เห็นใบหน้าของชายที่อยู่ด้านหลัง ยิ่งทำให้รู้สึกกลัว “เตชิตคุณจะทำอะไร คุณตั้งสติหน่อย!”
ผู้ชายคนนั้นกัดฟันของเขา “ผมรอคุณมาห้าปี หวังมาห้าปี คุณกลับบอกผมว่ารักคนอื่นแล้ว นี่มันอึดอัดและทรมานยิ่งกว่าอยู่ในนรก ในเมื่อคุณไม่สนใจผม ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นจะต้องทนอีกต่อไป!”
ชุดลื่นไหลลงมาถึงเอว ร่างกายส่วนบนมีเพียงบราที่แนบอยู่กับร่างกาย เธอเกือบเปลือยไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต้นปาล์มโค้งเว้าไปตามผิวหนังทางด้านหลัง เอวของเธอบอบบาง ไม่มีส่วนเกิน ผิวสีขาวขลับตัดกับสีมือสีขาวสาลีของเขา ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกร้อนผ่าว ตาลุกเป็นไฟ
เขากัดคอและหูส่วนล่างของเธอจากทางด้านหลัง ร่างกายที่งดออกเสียงมาห้าปีแสดงความหิวโหยต่อเธอ
“ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยตัวคุณเองด้วย เรากลับไปไม่ได้แล้ว” เธอไม่สามารถประโยคที่สมบูรณ์ได้เมื่อเธอสะอื้น
เตชิตจูบร่างกายเธออย่างเกรี้ยวกราด “ปล่อยคุณ ผมก็มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้”
เขาเอาร่างของเธอครึ่งอยู่ในอ้อมแขน บรรยากาศในห้องร้อนระอุ ลุกเป็นเปลวไฟ นิ้วของเขาที่เรียวเหมือนไม้ไผ่ไต่ไปตามขอบชุดของเธอ เขาพยายามดึงสิ่งที่ทำให้ไม่สะดวกออกไป
เพื่อให้เข้ากับชุดเดรสนัชชาสวมใส่แค่เพียงจีสตริงเท่านั้น เธอตระหนักถึงความพยายามของเขา พยายามดิ้นรน “ไม่ อย่าทำให้ฉันเกลียดคุณ!”
เตชิตชะงักเพราะคำว่า “เกลียด” แต่ร่างกายยังคงเรียกร้อง แต่ใจกลับไม่สามารถขยับเคลื่อนไหว เสียงที่คมชัดทะลุสีสันของความต้องการทางเพศ เธอกลัวจริงๆ ไม่อยากใกล้ชิดกับเขาจริงๆ
เธอแทบจะร้องไห้และแทบจะหยุดหายใจ แต่ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวมากไป ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเธอเหมือนสิงโตที่กำลังโกรธ มีความเป็นไปได้ว่าจะทำอะไรบ้าๆอยู่เสมอ
น้ำตาหยดสู่อ้อมแขนของเขา ทีละหยดทีละหยด บีบรัดหัวใจผู้ชายคนหนึ่ง
เขาจ้องที่ไหล่อันสั่นเทา ในเวลานี้เขาลอยเคว้งและทำอะไรไม่ถูก
ความอดทนและความรักกลับคืนมา ครั้งแรกที่เจอกันเขาก็รังแกเธอเช่นนี้
“อย่าร้อง นัช อย่าร้อง…” เขาสะกดความรู้สึกทางรางกายของเขาเอาไว้ และพูดอย่างอ่อนโยน “ผมไม่ดีเอง คุณอย่าร้องนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...