ตอนที่451 อาการป่วยที่แท้จริง
หลังจากที่ปริณตรวจอาการเสร็จ พอกลับถึงบ้านเตชิตก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องอาการป่วย นัชชากลัวเขาจะฝังใจ เช้าวันต่อมาก็เลยเรียกให้เขาไปส่งธีมนต์ที่โรงเรียนด้วยกัน
ธีมนต์ดีขึ้นมามาก ได้เข้ารับการปรึกษาทางจิตหลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้น น้อยมากที่ทั้งพ่อและแม่จะมาส่งเขาไปโรงเรียนด้วยกัน เด็กน้อยดีใจมาก ตื่นเต้นดีใจตั้งแต่ตอนกินข้าวเช้าแล้ว
เตชิตมองดูหน้าตามีความสุขของลูก เขารู้สึกผิด มือใหญ่ยื่นไปลูบหัวของเด็กน้อย คิดในใจถ้าเขาสบายดีแล้วจะไปรับไปส่งลูกบ่อยๆ
“ตอนอยู่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง” เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม
ธีมนต์หันหน้ามาตอบเขา “ก็ดีครับ ทุกๆคนชอบเล่นกับผม”
“แล้วมีเพื่อนบ้างมั้ย”
“มีครับ” พูดถึงเพื่อน ตาเขาเป็นประกาย หันมาตอบเตชิตด้วยความดีใจและน้ำเสียงอ่อนหวาน ทำให้คนฟังใจละลาย
อารมณ์ไม่ดีของเตชิตก็ค่อยๆหายไปกับการดีใจตื่นเต้นของลูก “เชื่อฟังคุณครูนะครับ มีปัญหาอะไรบอกพ่อกับแม่ได้ตลอด”
“พ่อครับ ผมขอพาเพื่อนๆมาเล่นที่บ้านได้มั้ยครับ” ตอนอยู่ที่อังกฤษ โรงเรียนชอบมีกิจกรรมพบปะกันบ่อยๆ เกือบทุกอาทิตย์จะต้องมีกิจกรรมครอบครัว
การเรียนการสอนในประเทศและต่างประเทศต่างกัน ต่างประเทศจะค่อนข้างจะเน้นไปทางเดี่ยว โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนแพงๆ ผู้ปกครองแต่ละคนจะมีฐานะหน้าที่การงานดี ไม่มีเวลาว่างพอที่จะเข้าร่วมกิจกรรม
แต่ธีมนต์ชอบการคบหากับผู้คน ตอนนี้มีเพื่อนแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาอยากพาเพื่อนมาเล่นที่บ้าน
เพียงแต่...........
นัชชาที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ ได้ยินดังนี้ เธอก็พูดแทรกขึ้น “ถ้าหลังจากนี้ รอให้ลูกสนิทกับเพื่อนมากกว่านี้ค่อยชวนมาก็ได้ครับ”
ธีมนต์เป็นเด็กเชื่อฟัง เขาพยักหน้ารับ “ครับ”
เตชิตเหล่มองหน้าเธอ ที่เขาพูดแบบนี้เพราะเพื่อความสบายใจของเขา เพราไม่รู้ว่าอาการของเขาจะกำเริ่มขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ได้
ขับมาส่งลูกถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย เขาลงรถไปพูดคุยกับครู ครูรับปากทันทีเพราะการที่เขามาถึงโรงเรียนไม่ใช่เรื่องที่บ่อยหนัก
มองดูธีมนต์เดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมครู เขารู้สึกหวิวๆ นัชชาชินแล้วกับภาพตรงหน้า เธอเอื้อมมือไปดึงแขนเขา “เรากลับกันเถอะ”
“อืม” ปากเขาตอบ แต่ก็ยังยืนมองจนครูพาเขาเข้าไปในห้องเรียนถึงจะยอมกลับ
ทั้งสองขึ้นมาบนรถ นัชชาบอกคนรถ “กลับไปที่วิลล่า”
ผ่านช่วงเช้ามาแล้ว รถไม่ค่อยเยอะเหมือนตอนมา เมื่อถึงหน้าวิลล่า คนรถลงมาเปิดประตูให้ ก่อนลงจากรถ เตชิตเอ่ยปากบอก “เธอกลับไปก่อน ฉันจะไปหาธนัท มีเรื่องนิดหน่อย”
ธนัทหรอ
นัชชาอึ้ง “เรื่องงานหรอ”
เธอจำได้ว่าเขายกบริษัทให้ธนัทดูแลตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วแล้ว น้อยมากที่เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว
“ใช่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ถือหุ้น” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ยากที่จะไม่เชื่อ
นัชชากำประตูแน่น เธอไม่อยากให้เขาไป “ไม่ไม่ได้หรอ”
ทางเดินทั้งสองข้าง ทุกส่วนของพื้นที่ถูกใช้อย่างเป็นประโยชน์ ทุกห้องมีชื่อจีนและอังกฤษและจีนแสดงอยู่ ห้องทดลอง ห้องแช่แข็ง ห้องกายวิภาคศาสตร์ ห้องปฏิบัติการเคมี.......... ถึงพื้นที่จะแคบแต่มีครบครัน เป็นศูนย์วิจัยที่สมบรูณ์
แม้จะมีเพียงสามชั้น แต่มีลิฟท์ในอาคาร เตชิตขึ้นลิฟท์มากับพนักงานถึงชั้นสาม เดินมาถึงห้องที่อยู่สุดทางเดิน นั่นก็คือห้องทำงานของLee
“Lee คุณเตชินาแล้วครับ”
“เข้ามา”
ประตูดันเปิดเข้าไป ภายในห้องสว่างสวย ผู้ชายสวมแว่นใส่เสื้อกาวน์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พอเห็นเตชิตเข้ามาเขายืนขึ้นทักทาย “ไม่ได้เจอกันนานเลย”
เตชิตยื่นมือไปทักทายตอบ “ใช่”
“ไหนว่าจะแวะมาตอนกลางคืนไง” Leeยิ้มถาม ในสายตาเต็มปด้วยความดีใจที่ได้เห็นเพื่อนเก่า
“ฉันกลัวกลางคืนจะไม่ค่อยว่าง” เตชิตไม่มีอารมณ์มาพูดคุยเล่น เขาถามด้วยความใจร้อน “เราจะเริ่มตรวจกันตอนไหน”
Leeยกยิ้ม เข้าใจว่าเขาใจร้อน หันหลังส่งสายตาให้พนักงาน เดินออกมาจากโต๊ะทำงาน “ฉันรู้ว่าแกรีบ เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ตอนนี้เราไปกันได้เลย”
เตชิตพยักหน้า หันหลังเดินตามเข้าไปในห้อง ภายในห้องเงียบสนิท แต่เสียงเสียงเครื่องมือต่างๆ ‘ติ๊ดๆ’
เขาเปลี่ยนเป็นเสื้อที่ใส่สำหรับเครื่องตรวจ เตชิตนอนลาบแล้วถูกส่งเข้าไปในเครื่องต่างๆ เขานอนนิ่งให้แสงรังสีฉายตามตัวเขา เครื่องมือที่นี่ทันสมัย ไม่แพ้โรงพยาบาลของปริณ ไม่ถึงชั่วโมงก็ตรวจทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
ผลทุกแสดงออกมาตรงหน้าจอคอม Leeมองเทียบตัวเลขทุกอย่าง สีหน้าเขาค่อยๆเปลี่ยนไป
เตชิตตื่นกลัว เขารู้สึกไม่ดี เดินเข้าไปดูตัวเลขบนจอ เขาไม่เข้าใจตัวเลขที่ปรากฏ “เป็นยังไงบ้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...