ตอนที่ 635 เข้าใจความรักของเธอแล้ว
ความรู้สึกในช่วงเวลาหนึ่ง ควรจะเรียบง่ายและคอยอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกของพวกเขาอย่าพูดว่าเรียบง่ายเลย ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมา แต่เส้นทางมาถึงวันนี้ได้ ยิ่งรู้สึกว่ายิ่งน่ายกย่อง
เตชิตรู้ว่าเธอไม่ค่อยสบายใจ ไม่ใช่เกี่ยวกับเขา ไม่ใช่เกี่ยวกับตัวเอง พวกเขาต้องแน่วแน่กันอย่างมาก ความสงสัยที่ไม่จำเป็นเพียงเล็กน้อย เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้เธอเกิดความไม่สบายใจอย่างมากในก้นบึ้งของจิตใจ
ทุกครั้งที่มีความสุข มักจะเกิดความยากลำบากและอุปสรรคทำให้ท้อถอย และความยากลำบากนี้ก็มักจะใช้สติอย่างมาก อยากจะผ่านมันออกไป ก็ต้องใช้เวลา
พวกเขาก็ค่อนข้างกลัว แต่ก็ระมัดระวัง โดยเฉพาะนัชชา กลัวว่าจะเกิดคลื่นยักษ์อีกครั้ง
ประเด็นนี้ เขาไม่กลัวหรอก เขาจะใช้เวลาและความรักทะนุถนอมทำให้มันราบรื่น
“เมื่อก่อนพวกเราเลิกกัน ต่อจากนี้ไปจะไม่เกิดขึ้น”
นัชชาจึงได้วางใจ กกตัวอยู่ในอ้อมกอดอุ่นและกว้างของเขา ในตอนนี้ เธอไม่อยากคิดอะไรแล้ว ไม่อยากพิจารณาอะไรทุกอย่าง แค่หวังว่าอ้อมกอดนี้จะอยู่ตลอดไป
“อย่าทิ้งฉันไปนะ”
เขากอดเธอแน่นขึ้น “ได้สิ”
——
งานแต่งของทั้งสองแม้ว่าไม่มีผู้สื่อข่าวมาทำข่าว แต่ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนพูดถึงกัน ฐานะของเตชิตนั้นมีอิทธิพลมากเกินไป ทำให้ทุกคนสงสัยอย่างแน่นอน เพื่อป้องกันเสียงซุบซิบนินทา เตชิตก็ให้คนของตัวเองปล่อยข่าวออกไป
ถือว่าเป็นการสื่อสารกับพวกคนที่สงสัยและเดาไปเรื่อยพวกนั้นก็แล้วกัน
แม้ว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นอย่างรีบร้อน แต่ทุกคนก็มีความสุขมาก ไม่ว่าจะเป็นนัชชาหรือว่าคุณปู่ หลังจากงานแต่ง บรรยากาศในครอบครัวก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าร่างกายของคุณปู่ดีเหมือนตอนแรกก็จะยิ่งดีเลย
ในส่วนของความน่าเสียดายในงานแต่งก็คือ ชนุดมไม่ได้มาร่วมงานด้วย เหตุผลนั้นนัชชาคิดว่าไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้ปล่อยวาง หรือว่าไม่อยากมา แต่เป็นเพราะชีวภายังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาจึงปลีกตัวออกมาไม่ได้ แม้ว่าจะมาได้ ก็ดื่มดำกับบรรยากาศแห่งความสุขไม่ลง
ความรู้สึกที่ชนุดมมีต่อชีวภามีมากกว่าที่เธอคิดไว้
ดังนั้น เช้าวันหนึ่งของสัปดาห์ที่สองหลังแต่งงาน เธอได้ยินปรัณบอกว่าชนุดมอยู่ที่โรงพยาบาล จึงให้น้ารินต้มโจ๊กเพื่อสุขภาพแล้วนำไปที่ห้องผู้ป่วย
ตอนที่เคาะประตูแล้วเข้าไป เขากำลังนั่งอยู่เก้าอี้ข้างเตียง กำลังมองร่างอ่อนปวกเปียกที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ
เมื่อได้ยินเธอเข้ามา ชนุดมก็เปลี่ยนสีหน้า มองมาทางเธอ “มาแล้วหรอ”
“อืม” นัชชาวางกล่องเก็บความร้อนไว้บนโต๊ะ มองใบหน้าที่อิดโรยของเขาอย่างเห็นได้ชัด “นายก็ยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหม? ฉันให้น้ารินต้มโจ๊กมา รีบทานตอนร้อนๆเถอะ”
“เดี๋ยวค่อยทาน” ชนุดมยกมือขึ้นบอกให้เธอนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม “นั่งสิ”
นัชชาพยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟา สายตามองไปที่ใบหน้าขาวซีดที่อยู่ระหว่างหมอน สาวน้อยดูแล้วยิ่งอ่อนแอ มีสายน้ำเกลือห้อยอยู่ นอนอยู่บนเตียงทั้งวัน แต่น้ำหนักก็ลดฮวบอย่างเห็นได้ชัด
โหนกแก้มเธอยื่นออกมา ลูกตาก็ปูด ราวกับว่าดึงเปลือกตาขึ้นมา
ไม่ต้องพูดถึงชนุดมเลย นัชชาเห็นแบบนี้แล้วก็สงสาร ครั้งแรกที่ได้เจอเธอ ไม่มีส่วนไหนของสาวน้อยคนนี้เป็นแบบนี้เลย สุขภาพดูแข็งแรงมีน้ำมีนวล แต่พริบตาเดียวก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว
ภายในห้องเงียบสงัด ผู้ชายที่นั่งข้างเตียงศีรษะผงกลงเล็กน้อย ราวกับไม่อยากพูดอะไร ทั้งๆที่เขาไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ทั้งร่างมีบรรยากาศที่หดหู่
ประโยคเดียว ทำให้ชนุดมแข็งทื่อไปเลย ใบหน้าที่ไม่ได้มองเธอเลยตั้งแต่ต้นจนจบจึงหันไปมองในท้ายที่สุด
ราวกับว่าสงสัยคิดว่าตัวเองฟังผิด “อะไรนะ?”
สายตามีพลังของเขาเต็มไปด้วยความหวัง ทำให้นัชชารู้สึกว่าถ้าเธอไม่สามารถให้คำสัญญาได้ ดูเหมือนมันจะไม่ถูกต้อง
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นชนุดมมีความรู้สึกเจ็บปวด
เธอยิ้มปลอบประโลม “เธอต้องฟื้นแน่ ถึงตอนนั้น นายห้ามปล่อยมือเธอไปอีกเด็ดขาด”
พูดจบ บรรยากาศรอบตัวก็เหมือนกับหนากับขึ้น ชนุดมจ้องไปที่เธอโดยตรงเหมือนเดิม นานสักพักแล้วพูดออกมา “ขอบคุณครับ”
นัชชาไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร สัมผัสไม่ถึงความนึกคิดในใจขา จึงได้แต่ยิ้มเงียบๆ
จนกระทั่งเขาได้พูดความในใจออกไป “ขอให้มีความสุขกับชีวิตแต่งงานนะครับ”
ในที่สุดเธอก็ได้วางใจเสียที มองคนตรงหน้าอย่างแน่วแน่เหลือเกิน “นายก็ต้องมีความสุขอย่างแน่นอน”
ผู้ชายที่คอยดูแลตน คนที่พาธีมนต์มาบนโลกนี้ จะต้องได้รับความสุขและความยินดีที่เป็นของตัวเองอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพื่อใครอื่น แต่เขาคู่ควร คู่ควรที่จะได้รับความดีงามที่สุดทั้งหมด
ถ้าทำได้ นัชชาหวังจะให้ความโชคดีกับตัวเองแบ่งให้เขาหน่อย ให้ชีวิตของเขาต่อจากนนี้ไปได้เป็นไปอย่างราบรื่น
ห้าปีที่ผ่านมา เขาได้ดูแลตน ทำให้ตนประสบความสำเร็จ ตอนที่เขาเคราะห์รายในตอนนี้ นัชชาแค่คิดว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้ชายคนนี้ผ่านความยากลำบากไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...