ตอนที่ 639 ออกหน้าเพื่อเธอ
นั่นเป็นความรู้สึกแบบไหนนะ?
เหมือนกับดอกไม้ของตัวเองที่ถูกเด็ด ทุกครั้งที่ทำไปเขาก็ลังเล แต่ในช่วงวิกฤตแบบนี้ ถูกคนอื่นเอาไปต่อหน้าต่อตา
ชนัยจะไม่โกรธได้อย่างไร?
ไม่เพียงแต่โกรธ แต่ยังแค้นมาก อยากจะฉีกร่างผู้ชายคนนั้นออกไปเสีย
สีหน้าเขาทนไม่ไหว คนในห้องถ้าไม่ตาบอดก็ต้องมองออก โดยเฉพาะตอนที่เขาเดินไปหาดราณี และดึงเธอมากอดไว้ด้วยมือตัวเอง
หน้าของผู้ชายสองคนนั้นยิ่งแดง รู้สึกเสียใจสิ่งที่ทำลงไป
“ใครเป็นคนทำ?” โทนเสียงที่เย็นชาเอ่ยปากถามออกมา
ทั้งสองไม่มีใครกล้ายืนขึ้นมา ชนัยเห็นพวกคนที่กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับจนชินชา “ไม่มีใครพูดใช่ไหม? ดี งั้นฉันจะเอาเงินพวกแกไปทั้งหมด แล้วถามทีละคน ถามไม่ชัดเจนก็ไม่จบ”
หลังได้ยินประโยคนี้ คนอื่นที่ตอนแรกยืนยันที่จะช่วยเพื่อนปิดบังความจริง ก็เริ่มสั่น ยังไงนี่ก็ไม่ใช่คนอื่น นี่คือชนัยนะ สิ่งที่เขาพูดไม่ใช่การขู่ร้อยเปอร์เซ็น เขาทำทุกอย่างที่พูด
จะต้องถูกเอาไปแน่ บางทีอาจจะเกิดเรื่องน่ากลัวด้วยก็ได้
ดังนั้น หลังจากพูดชื่อสองคนนั้นอย่างทนไม่ไหว ทันใดนั้นคนแล้วคนเล่าที่อยู่ด้านหลังก็พูดชื่อสองคนนั้นขึ้นมาอย่าง
ความจริงก็ปรากฏขึ้น ชนัยมองหนึ่งในนั้น แขนเรียวที่กอดปกป้องดราณีอยู่ก็ยื่นออกไปถาม “แกหรอ?”
ทั้งๆที่เป็นสองพยางค์เรียบง่าย แต่ทำให้ใจคนฟังดัง ‘ตึกตัก’ ร่างกายก็หมดแรงทันที ยืนก็ยืนไม่นิ่ง “ท่าน ท่านชนัยครับ ผม ผมไม่ทราบว่าเธอเป็นคนของคุณ ถ้าผมทราบ ให้ตายแค่ไหนผมก็ไม่กล้าหรอกครับ......”
ชนัยเพียงกระตุกมุมปาก แล้วหัวเราะเย้ยหยั่นอย่างมาก ข้ออ้างแบบนี้ไม่น่าฟังเลย แล้วหันไปถามผู้จัดการข้างกาย “เดิมทีห้องนี้เป็นงานของใคร?”
“งานของปานตากับผู้จัดการปุลินครับ”
“เรียกพวกเขาทั้งคู่มาด้วยกัน”
“ครับ” ผู้จัดการตอบกลับอย่างเคารพ แล้วออกคำสั่งกับคนนด้านหลังให้ไปเรียกปานตากับผู้จัดการปุลินมาโดยทันที
ไม่นาน สองคนนนั้นก็ปรากฏตัวในห้อง ราวกับเพิ่งรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าขาวซีดไร้เรี่ยวแรงจนดูไม่ได้ ปานตาเห็นชนัยดึงดราณีเข้ามากอด ก็รู้ว่าครั้งนี้ตัวเองได้ไปเตะถูกเหล็กร้อนเข้าแล้ว
“ท่านชนัย คุณมาแล้วหรอคะ......” ปานตาพูดออกไปอย่างหมดแรง อยากจะยิ้มออกมา แต่อารมณ์ก็ตึงเครียดเกินไปอย่างช่วยไม่ได้ ยิ้มออกมาน่าเกลียดกว่าร้องไห้อีก
ชนัยไม่มีอารมณ์มาบังคับเธอ เขาพูดออกไปในทันที “เธอสองคนเปลี่ยนงานกับเธอใช่ไหม?”
ผู้จัดการปุลินที่อยู่ข้างๆปานตาเห็นสถานการณ์แล้วจึงรีบพูดทันที “ปานตาบอกว่าวันนี้มีธุระ จำเป็นต้องให้ดราณีมาทำแทน ตอนนั้นฉันโน้มน้าวแล้วแต่เธอไม่ฟัง เลยไปขอดราณีถึงได้เตรียมการให้......”
ประโยคเดียว โยนความผิดของตัวเองทั้งหมดให้กับปานตา กลัวว่าเรื่องนี้จะกระทบตัวเอง
ภายในรถครอบครัวที่กว้างขวาง ไฟในรถเปิดขึ้น แสงไฟสลัวกระทบบนร่างกายเธอ ศีรษะที่ก้มอยู่นั้นไม่เงยขึ้นตลอดทาง
ชนัยเหลือบเห็นไหล่ขาวที่เผยออกมานิดหน่อยภายใต้ผ้าห่มขนสัตว์ แล้วถอดเสื้อคลุมชุดสูทบนร่างตนวางไว้ข้างๆ “เปลี่ยนซะ เดี๋ยวฉันออกไปสูบบุหรี่”
พูดจบ เขาก็เปิดประตูลงจากรถทันที เหลือเพียงความเงียบให้กับดราณี
ได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูรถ ร่างกายของดราณีก็สั่นเล็กน้อย เธอหันศีรษะไปมองเสื้อสูทที่วางข้างกาย เสื้อผ้าข้างบนของเธอถูกฉีกจนขาดหมดแลว เธอไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงหยิบเสื้อนั้นขึ้นมาสวม แล้วคลุมด้วยผ้าห่มผืนบางอีก
เสื้อคลุมของเขามีกลิ่นเย็นและสดชื่น เมื่อก่อนดราณีก็ได้กลิ่นมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้รู้สึกสบายใจ
เธอนึกว่าชนัยเป็นคนที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมายี่สิบกว่าปี แต่จนถึงทุกวันนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่า มีคนเลวเยอะกว่าที่เธอคิดอยู่มาก
คืนนี้ตอนที่ถูกทับอยู่บนโซฟา ถูกผู้ชายสองคนดูถูกและล่วงละเมิด ดราณคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่ แต่ก็ไม่ เขามาแล้ว ชายคนที่ชอบมวดคิ้วมองเธอด้วยสายตาเย็นชานั้นมาช่วยเธอแล้ว
ดราณีไม่รู้ว่าตัวเองควรเผชิญหน้าด้วยความรู้สึกแบบไหน เธอแค่รู้สึกว่าสบายใจมาก และดีใจมาก เธอมองชนัยด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
ชนัยสูบบุหรี่อยู่นอกรถก่อนจะยืนอยู่สักพักถึงขึ้นรถมา เพื่อให้เวลาเธอเปลี่ยนเสื้อผ้า และผ่อนคลายอารมณ์ตัวเอง
ขณะที่รอเขาเข้ามาในรถอีกครั้ง หญิงสาวก็กอดตัวเองแน่น
เห็นร่างละเอียดอ่อน ชนัยก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ร่างกายมีอะไรไม่สบายตรงไหนไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...