ตอนที่65 ฉันอนุญาตให้เธอชอบฉันได้
นัชชาได้ยินแทบจะหายใจไม่ทัน ตกใจนิ่งจนสำลักน้ำลายตัวเอง ไอจนหน้าแดง “แค่กๆ แค่ก คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า แค่ก...............”
เตชิตเดาได้ว่าเธอจะต้องไม่ยอมรับ เขาไม่ได้รีบ ค่อยๆแกล้งเธอ “อย่าบอกนะว่าที่เธอดักรออยู่หน้าคลับเป็นเรื่องบังเอิญ”
มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ตัวได้ แต่ก็ไม่ควรยอมรับง่ายๆเตชิตจะมองเขายังไง
เธอคิดแล้วคิดอีก “ฉันไปดักรอคุณจริง แต่ฉันมีเรื่องอยากถาม”
“เรื่องอะไร”
นัชชาบอกไปอย่างนั้น “เรื่องงาน”
แต่ที่ไหนได้ เขาตอบกลับ “เรื่องงานฉันไม่ได้เป็นหัวหน้าเธอ เธอข้ามขั้นมาก”
นัชชาพูดไม่ออก รู้สึกเพียงว่าการกระทำการแก้ตัวทุกอย่างไม่พ้นสายตาอันแหลมคมของเธอ
เธอกำลังคิดที่จะแก้ตัว แต่ก็มีเสียงนุ่มดังขัดขึ้น “เธอไม่จะเป็นรีบปฏิเสธไม่ชอบฉัน ถ้าเกิดเป็นตนอื่นที่ช่วยฉัน ฉันก็คงจะช่วยเขาแต่ไม่ใช่ด้วยวิธีนี้”
พูดจบ เตชิตกลัวว่าเธอจะไม่รู้เรื่อง ชี้นิ้วลงไปที่พื้นที่มีเสื้อผ้ากระจัดกระจาย
หมายความว่ายังไง ทุกอย่างชัดเจน
นัชชามองแล้วถามเขาแบบงงๆ “คุณอยากพูดอะไรกันแน่”
“ฉันอยากบอก เธอ ชอบฉันได้”
ชอบเขาได้หรอ
งั้นตอนนี้เขาอนุญาตให้เธอมีรู้ความสึกกับเขาได้แบบนั้นหรอ
เธอชอบเตชิตหรอ
เธอไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อน จุดเริ่มต้นของเขามันไม่ใช่เรื่องดี ความสัมพันธ์ตรงไปตรงมา เธอเลยไม่กล้าที่จะคิดอะไรไปไกลกับผู้ชายตรงหน้า
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ เขากลับเป็นคนแรกที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอและคอยช่วยเหลือเธอ ถึงจะเป็นก้อนหินก้อนใจก็คงจะรู้สึกแล้วนับภาษาอะไรกับเธอ
เธอเป็นเหมือนปลาที่อยู่กลางทะเลทราย ไม่สามารถหายใจได้ ขยับตัวไม่ได้ แรงก็เหลือไม่มากพอ เธอต้องการมือคู่หนึ่งในการขับเคลื่อนเธอ
และเตชิตคือคนคนนั้น
เขาไม่ได้พิเศษ แต่ทางกลับกันเขาสำคัญและพิเศษมากกว่านั้นมาก
พิเสษจนนัชชาห้ามตัวเองไม่ให้ไปสนใจเขาไม่ได้ ใกล้เขา มองดูเขา เข้าใจเขา จนถึงขั้นเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา
นี่เป็นส่วนเล็กน้อยๆที่พวกเขาใช้เวลาด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ แต่เป็นเพราะเธอไม่ยอมรับมันมากกว่า
วันนี้เตชิตพูดถึง เธอต้องพิสูจน์และยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
ชอบเตชิตมั้ยหรอ
นัชชาถามตัวเองอีกรอบ เพราะตอนเวลายี่สิบสี่ปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยชอบใครนอกจากดวิษ ถ้าหากว่าการที่หัวใจเต้นเร็วในตอนนี้เป็นคำตอบเธอก็คงจะชอบเขา
เธอก็บอกไม่ได้ว่ารักมากแค่ไหน อย่างน้อยอยู่ต่อหน้าเขา เธอก็ไม่สามารถห้ามใจไม่เต้นแรงไม่ได้ และไม่รู้แม้กระทั่งว่าเธอเริ่มรู้สึกดีกับเขาตอนไหน
ถ้าคิดดูดีๆ สิ่งมากมายที่เขาทำให้เธอ
คดี งาน ชีวิตประจำวัน รวมถึงช่วยจัดการกับคนบ้านดวิษ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาคอยช่วย
จินต์วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปกดน้ำอุ่น เธอดื่มแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นดู เห็นข้อความที่ตอบกลับมา น้ำที่ยังไม่ทันได้กลืนลงไปก็พุ่งออกมา
จินต์ยกมือเช็ดน้ำที่เลอะปาก แล้วกดพิมพ์อย่างรวดเร็ว: แกแน่ใจหรอว่าเขาพูด คือแกไม่ได้คิดไปเอง
นัชชา: ...............
นัชชาคิดไปคิดมา ก็พิมพ์บทสนทนาเมื่อครู่ไปให้จินต์ ไม่เกินครึ่งนาที จินต์ก็โทรศัพท์กลับมา
นัชชากดรับ ยังไม่ทันที่จะได้ตอบรับ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากปลายสาย
“เห้ยยยย แกไม่ได้อำฉันใช่มั้ย ในที่สุดแกทำให้เขาตกเป็นของแกได้แล้ว”
นัชชาไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดีก็รู้สึกไม่ปลอดภัย บอกด้วยเสียงเบา “แกช่วยเบาๆหน่อยได้มั้ย”
“จะให้ฉันเบายังไง เกิดเรื่องใหญ่เหมือนดาวอังคารชนเข้ากับโลกขนาดนี้ แม่หมูปีนขึ้นต้นไม้ได้เลยนะ” แล้วเธอก็พูดต่อ “คือฉันไม่ได้หมายความว่าแกไม่ดีนะ ฉันแค่คิดไม่ถึงว่าพวกแกสองคนจะคบกันขึ้นมาจริงๆ”
ก็เพราะว่าเตชิตเป็นผู้ชายอย่างว่า อย่าว่าแต่นัชชา นัชชาร้อยคนก็อาจจะไม่สามารถครองใจเขาได้
แต่มันเป็นแบบนี้แหละ คนที่ต่างกันสองคนกลับคบกัน
นัชชาถามด้วยความกลัว “แกว่าเขาหมายถึงแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย”
“ก็อาจจะใช่แหละ ถึงเขาจะไม่ได้พูดออกมา แต่เขาก็หมายความว่ามันเป็นอย่างที่เธอคิด” พูดไปพูดมา จินต์ก็เริ่มตื่นเต้น “ไม่นึกว่า เตชิตเขาก็แอ๊วสาวเก่งขนาดนี้”
ให้นัชชาเป็นคนตัดสินใจเอง ปล่อยให้เธอคิดไปด้วยตกหลุมพรางไปด้วย
นัชชาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ปากค่อยๆฉีกยิ้ม ในใจตื่นเต้นและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“แกรีบเปลี่ยนชื่อในวีแชทเลยๆ ตามด้วยชื่อเตชิต อย่าว่าแต่แบลนนี่เลย เธอก็คือเทพ” จินต์ตื่นเต้นแทนเธอ “เพื่อน ได้ดีแล้วอย่าลืมเพื่อนแกคนนี้นะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...