ตอนที่81 ตีกันจนเข้าคุก
เสร็จจากเลือกของขวัญวันเกิด นัชชากับจินต์นัดกันไปทานข้าวที่ร้านอาหารถัดจากห้างสรรพสินค้า ณ เวลานี้ เวลาพอดีสำหรับมื้อเย็น พอเดินเข้าห้องโถงในร้านอาหาร ก็ได้ยินเสียงเอะอะของผู้คนในร้านมากมาย พวกเธอทั้งสองคนเลยเลือกที่จะนั่งแถวๆมุมห้อง ซึ่งมันจะดีกว่าและไม่ค่อยวุ่นวายนัก
ความบังเอิญเกิดขึ้น เมื่อดวิษกับปณิตาก็มาทานข้าวด้วยกันที่ร้านนี้ พวกเขานั่งถัดไปจากพวกเธอทั้งสองไป ประมาณ 2 โต้ะ ซึ่งอยู่ในระยะห่างเพียงแค่หันหน้าไปก็จะสังเกตเห็นพวกเขาได้
นัชชาลุกขึ้นทันทีทันใด ถือกระเป๋าขึ้นแล้วถามบริกรที่ค่อยยืนบริการอยู่ข้างๆพวกเธอ "ยังมีที่นั่งตรงจุดอื่นอีกไหมคะ?"
"มีครับ แต่ไม่ใช่ที่มุมแบบนี้นะครับ มันก็จะวุ่นวายกว่านี้นิดหน่อยนะครับ "
"ไม่เป็นไรค่ะ " ถึงจะวุ่นวายไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าการได้เห็นคู่นั่นอยู่ด้วยกัน
เมื่อบริกรกำลังช่วยมองหาที่นั่งที่ว่างให้ ปณิตาก็เห็นนัชชา เธออึ้งไปหนึ่งวิ และหันมาเยาะเย้ยด้วยการเอนลงไปตรงตัวของดวิษ ทำตัวออดอ้อนอย่างเขินอาย
จินต์ดูการกระทำนี้ด้วยความหัวร้อน อดไม่ได้ที่จะอุทานคำหยาบ “ XX แกดูยัยนั่นทำสิ! ออดอ้อนป่านจะกลิ่นกินไงอย่างงั้น? ทำไมไม่ไปเปิดห้องสะเลยละ!”
นัชชาไม่อยากก่อเรื่อง เธอเลยดึงแขนเสื้อจินต์เบาๆ "ช่างมันเถอะ ปล่อยเขาไป"
จินต์พยายามระงับอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง แต่ปณิตาจงใจทำให้จินต์เห็นรูปปากของเธอ กับสิ่งที่เธอจะสื่อถึง คำดูถูกดูหมิ่น ยั่วโมโหและพูดว่าพูด 'ไสหัวไปสะ'
“บอกเราไสหัวหรอ?!” จินต์หัวเราะ“ ยัยนั่นคิดว่าตัวเองเป็นมือที่สามแล้วมันน่าภูมิใจมากนักใช่ไหม?ฉันจะสั่งสอนยัยนั่นแทนพ่อแม่มันเอง!”
นัชชาพยายามดึงแบะห้ามอีกครั้ง แต่มันก็สายเกินไป
จินต์เดินไปถึงที่หน้าโต๊ะของปณิตาโดยไม่กี่ก้าวและชี้ไปที่หน้าของเธอโดยไม่เกรงใจ "นี่เมื่อกี้แกหมายความว่าอะไร"
ทันใดที่ดวิษได้ยินเสียงนั่น เขาก็ละสายตาไปจากเมนูอาหารที่เขากำลังจะเลือกและหันไปตามเสียง "คุณจินต์"
เธอคือเพื่อนรักของนัชชาไม่ใช่หรอ?
ถ้างั้น
ดวิษมองไปด้านหลังและแล้วก็เห็นว่านัชชากำลังเดินมายังพวกเขาเช่นกันตัวเขาเองไม่ได้เจอกับนัชชามาพักหนึ่งแล้ว
ในขณะนี้เธอสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำสไตล์เสื้อคลุม และกางเกงขาสั้นสีดำ สวมใส่รองเท้าบูททรงยางเลยเข่า เผยให้เห็นส่วนเล็กๆของต้นขาขาว หุ่นดีเรียวผอม
เมื่อตอนแต่งงาน ผมไม่เห็นความงามของเธอเลย แต่ตอนนี้ดูแล้วรุ้สึกว่า แค่เธอยืนอยู่กับตรงนั้น เธอก็ดูเด่นกว่าใครๆ แต่มันก็น่าเสียดายที่เสน่ห์เหล่านี้ได้เป็นของผู้ชายอีกคนไปแล้ว
ปณิตาสังเกตถึงดวงตาของดวิษกำลังจ้องมองนัชชาเป็นตามัน กัดฟันเบาๆ และดึงแขนของเขาเข้ามาใลก้ตัวเอง พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ดวิษคะ~ ดูนังสิ ฉันกลัว~"
"ห้ะ!" จินต์ยิ้มเยาะเย้ย "ตอนที่คุณเป็นเมียน้อยของเขาเธอก็ไม่กลัว ตอนนี้คุณกลัวแล้วหรอ?อย่ามาตอแหลเลย ยัยผู้หญิงไร้ยางอายแบบเธอ อย่ามาแสสร้างทำตัวเหมือนกระต่ายน้อยเลย"
คำพูดของจินต์พูดแทงใจดำ การแสดงออกที่อ่อนโยนบนใบหน้าของปณิตากำลังจะพัง "ดวิษคุณพูดอะไรบ้างสิคะ"
ดวิษรู้สึกลำบากใจ แต่ก็ได้แค่ "นี่เป็นเขตพื้นที่สาธารณะ ทำอะไรพอประมาณก็พอ"
“ เจ้อะๆๆ ฉันชื่นชมสิ่งที่คุณพูดมากนะทำไมคุณไม่เกิดมาในยุคที่เป็นขันทีนะ
นี้คุณยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?”
"นี่คุณ!"
นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะสามารถอยู่ร่วมกับนัชชาอย่างสงบสุข
รอเกือบๆยี่สิบนาทีได้ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาเลย จินต์เริ่มนั่งไม่ติดที่แล้ว เธอเดินไปถามตำรวจประจำหน้าที่ "พวกเราต้องรอจนถึงเมื่อไรกันคะ คืนนี้ฉันยังมีธุระด้วยนะคะ" "
"เดี๋ยวก็มาแล้ว รอไปก่อน รู้ว่าจะมีปัญหาแล้วยังจะทะเลาะกันทำไม!"
"ฉัน "
“ จินต์ ” นัชชาดึงมือของเธอแล้วส่ายหัวให้เธอ“ อย่าเลย”
จินต์ก็ไม่โง่พอที่จะทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอเลยไม่ได้พูดอะไรต่อและกลับมานั่งที่เดิม
อีกด้านนึง ปณิตาแอบมองไปที่ชุดของเธออย่างเงียบ ๆ เสื้อโค้ตรุ่นล่าสุดของร้านD รองเท้าของร้านJ และ กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด ด้วยรวมๆแล้วได้ตัวเลขประมาณเจ็ดตัวหลัก เลขจำนวนนี้พอได้รถขนาดกลางของเธอเลย อยากรู้ว่าเธอเอาเงินมาจากไหนกัน
ปณิตารู้สึกไม่พอใจมาก เธอย้อนมองดูรองเท้าของเธอ มันยังคงเป็นรุ่นของปีที่แล้วอยู่ เธอหดตัวลงและเริ่มที่จะพูดดูถูกเหยียดหยาม "ว่าให้แต่คนอื่น ตัวเองโดนเสี่ยที่ไหนเลี้ยงมาละ"
เสียงเธอเบามาก ได้ยินไม่ชัดเจน ได้ยินแต่เสียงในลำคอเธอ นัชชาเหลียวมองเธอชั่วครู่ แต่เพราะไม่อยากหาเรื่องอะไรเลยไม่สนใจเธอ
หลังจากนั้นอีกสิบนาที ตำรวจที่ทำการถอดความกลับมา พวกเขาทั้งสี่คนเข้าไปในห้องทีละคน จะไม่มีใครได้กลับก่อนทั้งนั้น จนจะเสร็จการสืบสวนสอบสวน หลังเสร็จออกมาท้องฟ้าก็มืดสนิท นัชชาเหนื่อยจนอ่อนล้า ระหว่างที่เธอจะหยิบกระเป๋าแล้วออกไปนั่น เธอเห็นชายร่างสูงคนหนึ่งกำลังผลักประตูเข้ามา
เสียงฝีเท้าของนัชชาหยุดชะงัก สิ่งที่เธอไม่คาดคิดปรากฏขึ้น "คุณมาได้ไง"
เตชิตมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าและจากล่างถึงบนอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร พอแน่ใจแล้วว่าเธอไม่เป็นอะไรจริงๆ เขาดึงเธอเข้ามากอด "เป็นห่วงคุณ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...