ตอนที่83 เซอร์ไพรส์ในวันเกิด
........
นัชชายกมุมปากขึ้น คำดีๆและคำร้ายๆ คุณก็พูดไปหมดแล้ว
เมื่อกี๊เขาบอกว่าไม่รับสายหรือ?
“ฉันไม่ได้ไม่รับสายของคุณนะ คุณเคยโทรมาหรือ?”
เตชิตกัดฟัน “โทรไปหลายรอบแล้วก็ไม่มีคนรับสาย”
“......เดี๋ยวก่อน ” นัชชาเปิดกระเป๋า หยิบมือถือออกมา จึงจะรู้ว่าไม่รู้ตอนไหนแบตของมือถือหมดไปแล้ว “ไม่น่าเลยฉันไม่ได้รับสาย แบตหมด”
เตชิตยิ้มเบาๆ ด้วยความหมายเยาะเย้ย“ไม่แปลกใจ”
นัชชารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ถามด้วยความระมัดระวัง “คุณทานข้าวหรือยังคะ”
เตชิตเถียงเธอ “หาคนที่ยังมีชีวิตกระโดดอยู่ก็หาไม่เจอ ผมจะมีอารมณ์กินข้าวหรือ”
นัชชารู้สึกว่าตัวเองไม่มีเหตุผล ก็ไม่เถียงกลับ ยกมือขึ้นชี้ข้ามตัวของเตชิตไปทางห้องครัว “ฉันไปทำอาหารให้พอใจหรือยังคะ”
“เธอหิวไหม”เตชิตถามเธอ
นัชชาส่ายหัว“ไม่ค่อยหิว”
แม้แต่ไม่ได้กินข้าวเย็น แต่ผ่านเรื่องไปหลายอย่าง เธอก็ไม่อยากจะกินอะไรอีกแล้ว มันเหมือนกับหิวเกินไปแล้วจนไม่อยากกินอะไรแล้ว
น้ำเสียงของเธอเพิ่งจบ นัชชารู้สึกว่าดินฟ้ามันโลกหมุนกันไป เธอเรียกร้องด้วยความประหลาดใจ เธอโดนคนอุ้มขึ้น “อ้ะ คุณจะทำอะไร”
“ถ้าเธอไม่หิวแล้วก็ เราไปทำเรื่องอย่างอื่นดีกว่า”
นัชชาอยากร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา บ่นด้วยความงอแง“ฉันเหนื่อยแล้ววันนี้..”
ผู้ชายขมวดคิ้ว “เธอไม่ต้องทำอะไร อยู่นิ่งๆก็พอ”
“............”
นัชชา หมด
.............
หลังจากสองวันผ่านไป นัชชาไปเอาของขวัญที่จงไว้ที่เคาน์เตอร์ของห้างสรรพสินค้า บรรจุของของขวัญมีสองอย่าง สีดำและสีแดง สีดำดูจะไฮเอนด์หน่อย และสีแดงดูจะรื่นเริงหน่อย ถ้าเป็นนิสัยของเตชิต เขาอาจเลือกสีดำ แต่ว่าวันนี้เป็นวันเกิด เธอเลยเลือกสีแดงให้เขา
ตอนที่เวลากินเข้าเที่ยง เตชิตให้ตรัณพานัชชาขึ้นไปออฟฟิศ ช่วงว่างๆตอนที่กินข้าว เตชิตบ่งบอกถึงนัชชาหลายรอบแล้ว แต่ว่าเธอแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ มองไปสีหน้าของเขายิ่งมืดดำขึ้น ในที่สุด สีหน้าของเขาเย็นชาขึ้น
นัชชาอดไหวจะไม่หัวเราะ ตั้งแต่ออกจากห้องทำงาน เธอจึงหัวเราะอย่างเต็มใจ
ตรัณไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องหัวเราะ มองเธออย่างงง “คุณนัชชามีเรื่องที่ดีใจหรือ”
นัชชาเขย่ามือ “เปล่าค่ะ ตลกจังๆ คุณเตชิตน่ารักจัง ฮ่าๆ”
ตรัณเหมือนโดนโดยฟ้าผ่าทันใดนั้น ยกมือไปจับหู กลัวว่าเมื่อกี๊เขาได้ยินผิดแล้ว คุณนัชชาพูดอะไรนะ น่ารัก?
ใช้คำนี้มาบรรยายคุณเตชิต?
ตอนที่สมองได้รับการสัญญาณแล้ว ตรัณรู้สึกขนหัวลุก ความรักมันทำให้คนหลงล้ม ทั้งๆที่คุณนัชชาก็ถูกชมว่าน่ารัก มันเห็นได้ยากจริงๆ
ตอนบ่ายนัชชาเสร็จงานแล้ว ไปขอลากับคุณนวียา แต่ก็เพราะว่าท่าทีของเวทิดาก่อนหน้านี้ เธอรู้สึกกลัวไปหน่อย แต่ว่าเธอไม่ได้คาดหวัง คุณนวียาใจดีมาก คิดแล้วงานที่อยู่ในมือ แล้วก็อนุมัติให้เธอกลับก่อน “งานก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ถ้ามีเรื่องที่สำคัญกลับก่อนได้ ไม่เป็นไรค่ะ ”
นัชชาขอบใจมาก “ขอบคุณมากคุณนวียา”
“ไปเถอะ”
ออกจากเตนัทลอว์เฟิร์มแล้ว นัชชาก็กลับบ้านไปตรง เธอซื้อลูกโป่งออนไลน์มาตั้งเยอะเมื่อวาน วันนี้ส่งมาถึงบริษัทพอดีเลย เธอเอากลับบ้านไปประดับบ้าน
ลูกโป่งร้อยกว่าลูก เธอปั๊มขึ้นจนแขนจะขาดจึงจะเสร็จ สีน้ำเงินอ่อนๆ ปลายลูกโป่งมัดด้วยเส้นสีเงินเล็กๆ บินขึ้นเพดาน ติดกันแน่นๆ ดูแล้วสวยมาก
ตอนที่บนถนนกลับบ้าน เธอจงเค๊กก้อนเล็กเฉพาะสองคน เธอซื้อมาเป็นหกนิ้ว เค๊กสีแดง แม้ว่าขนาดก้อนไม่ค่อยใหญ่ แต่สวยมาก
ดูแล้วยังมีเวลาเยอะอยู่ นัชชาเอาสเต็กเกล็ดหิมะระดับA++ออกจากตู้เย็นมาสองชิ้น ใช้หัวหอมและพริกไทยดำหมักไว้ ผัดให้เรียบร้อยแล้ววางบนจานตามเวลา
เธอจุดเทียนแล้ววางไว้ตอนกลางโต๊ะ ทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยแล้ว แค่รอพระเอกกลับมา
“เตชิตอ่ะ ตอนนี้แกอายุก็โตขึ้นแล้ว ต้องหาแฟนแล้วนะ ยายและตาก็หวังว่าแกมีครอบครัวของตัวเองเร็วๆ มีคนดูแลด้วย”จู่ๆผู้สูงอายุเอ่ยปากพูด และพูดด้วยความหวังดี “เราไม่ต้องการเป็นผู้หญิงที่ดีเด่นมาก แค่ขอเป็นผู้หญิงที่สวยดีและมีมารยาทดีก็พอแล้ว ถ้าบ้านเธอยากจนก็ไม่เป็นไร แบบง่ายๆก็ดีแล้ว พวกเธอไปใช้ชีวิตเข้ากันก็พอแล้ว”
เตชิตอึ้งไปเล็กน้อย หลับตาเล็กน้อยมองข้าวเปล่าที่อยู่ในถ้วย “ครับ ผมจะหาเร็วๆนะครับ”
“ยังมีอีกนะ แกกลับพร้อมแม่แกสิ ปกติแม่แกมาคนเดียว แกก็มาด้วยสิ ทั้งๆที่เป็นลูกแม่กัน แม่แกเลี้ยงแกจนโตก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆหรอก เราเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าห่างไปแล้ว..”พูดถึงที่นี่ ผู้สูงอายุตาแดงขึ้น
ที่จริง หลายปีที่ผ่านมา แม่ของเตชิตหย่ากับพ่อเขาแล้วแต่งงานกับคนอื่นแล้วมีลูกอีกคนหนึ่ง สร้างครอบครัวใหม่แล้วจะเจอกันอีกต้องรู้สึกอึดอัดไป ตาสำหรับเตชิต เขาเหมือนเป็นคนนอก ไปเรียนที่ต่างประเทศสี่ปี กลับมาทำงานที่ประเทศ แต่เขาไม่เคยอยู่ที่บ้านนั้น ห่างกันมันเป็นเรื่องจำเป็น
แต่ว่ามันเป็นความหวังของผู้สูงอายุทั้งสอง เตชิตก็ไม่ได้พูดอะไร เขารับปากด้วยความหวังของพวกเขา
กินข้าวเสร็จแล้วเตชิตรีบกลับไป ดูเวลาแล้วประมาณสองทุ่มกว่าๆ “แกทำไมรีบกลับจัง ที่บ้านนี้ก็ไม่มีใครรออยู่ ไม่งั้นคืนนี้พักที่บ้านดีกว่า”
เตชิตตอบตรงๆโดยไม่คิด“ไม่แล้วครับคุณตา ผมต้องกลับไปจัดการเรื่องงาน ผมจะมาเยี่ยมยายกับตาทีหลังนะคะ”
...............
บนถนนทางกลับ เตชิตได้รับสายที่จริยาโทรมา แค่บอกคำขออวยพรของวันเกิด ทุกๆปีก็เหมือนกัน ที่จริงเขาก็คงชินแล้วจนไม่มีความรู้สึกใด ทั้งๆที่ความผิดหวังก็ไม่มี
หลายปีที่ผ่านมา เขาไปเรียนหนังสือเอง จบเรียนเอง เปิดบริษัทเอง หาเงินเอง ไม่มีเงินใช้ที่บ้าน เขาก็ไม่เคยขอเลย
จริยาก็ดีต่อเขา อย่างน้อยในใจของเธอรู้สึกแบบนี้ แต่ว่าตั้งแต่มีลูกสาวเวธนีมา มีครอบครัวใหม่ มีสามีใหม่ เอไม่มีเวลาสนใจเขามาก เขาก็เข้าใจ
รถยิ่งวิ่งไปยังไวโรจน์วิลล่า บนถนนยิ่งเงียบสงบ ปกติคนร่ำรวยส่วนใหญ่ชอบซื้อบ้านที่เขตชานเมือง เพราะว่าอากาศดี ถนนใหญ่บนภูเขาวนไปวนมา ความมืดห่อรอบตัวรถ ทำให้เกิดความเย็น
เตชิตเหยียบคันเร่งอย่างแรง รถวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ความมืดในกลางคืนถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ราวกับว่าถ้าถูกแช่ความเย็นนิดๆ คืนนี้อาจเป็นคืนที่นอนไม่หลับอีก
รถจอดที่สวน ผู้ชายนี้เงยหน้ามองไปยังวิลล่าที่อยู่ด้านหน้า ด้านในห้องไม่ได้เปิดไฟ สงสัยว่าเธออาจหลับไปแล้ว
ความผิดหวังภัยในหัวใจยิ่งหนักขึ้น เตชิตเอาบุหรี่ออกแล้วจุด เขาสูบเร็วมาก ทั้งเร่งทั้งแรงทุกทีที่เขาสูบ กลิ่นบุหรี่แสบๆเข้าสู่ปอดกระตุ้นเส้นประสาท ความสติกลับสมอง เขาจึงจะตั้งสติหน่อย ตัดบุหรี่แล้วเดินเข้าบ้าน
ด้านในห้อง ตรงที่ประตูไฟเหนี่ยวนำสว่างขึ้นตามความเหนี่ยวนำ ยังไม่ทันจะถอดรองเท้า เขาประหลาดใจมากเวลาได้เห็นสภาพที่ปรากฏในด้านหน้าของเขา
ลูกโป่งสีฟ้าอ่อนเต็มไปด้วยเพดานใดด้วยเส้นสีเงิน ทำให้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาขึ้น มองไปด้านใน มีสเต็กและเค๊กวันเกิดบนโต๊ะที่อยู่ไม่ไกล เทียนบนโต๊ะไม่รู้ว่าจุดขึ้นเมื่อไหร่ ตอนนี้มันเหลือครึ่งหนึ่งแล้ว
ทุกอย่างผสมกันอยู่ด้านหน้า ดวงตามืดดำของเขาสั่นขึ้นอย่างแรง ภัยในหัวใจขอบเขาเต้นอย่างแรง เสียงหัวใจเต้นคลุมไปเสียงอื่นหมด สายตามองไปรอบห้องนั่งเล่น เขาเร่งหาผู้หญิงที่ทำสิ่งทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...