ตอนที่86 คำว่ากอด
บ่ายสองโมง นัชชานั่งตามรถไปส่งเตชิตที่สนามบิน คนที่ไปพร้อมยังมีปรัณ ไม่รู้ว่าเขาเพื่อจะได้เจอนัชชา ตอนที่เขาทำเรื่องเช็คอินเสร็จแล้วยังรออยู่ที่ห้องโถงสนามบิน
ทั้งสามคนได้เจอกัน นัชชาสวมเสื่อขนสัตย์สีขาวยาวยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าสดใสไม่ได้แต่งหน้ามาด้วย เหมือนเป็นสาวน้อยอายุยังไม่ถึง20ปี
ปรัณรู้สึกด้านหน้าสว่างขึ้น ส่งเสียงเบาๆข้างๆหูของเตชิต “สวยนะ”
ไม่คาดคิดว่าชายคนนี้ป้องการเธออย่างดี ปรายตามองไปอย่างแรง “ใครบอกว่าให้มองละ”
“............”ปรัณสัมผัสจมูก ก็ได้ หาเหาใส่หัว คุยกับนัชชาอาจสนุกกว่า “คุณมาส่งเขา?”
นัชชาพยักหน้าเบาๆด้วยความอาย “ใช่ค่ะ”
“ฮ๊าย อิจฉาจัง ผมไม่มีโชคชะตาแบบนี้เลย เมื่อกี๊เพิ่งเสร็จการผ่าตัดแล้วก็ต้องรีบถูกลากมานั่งเครื่องบิน ใจร้ายมาก”
“คุณปรัณยอดเยี่ยมขนาดนี้ ต้องหาคนที่คุณรักให้เจอแน่เลย”
ปรัณเพียงแค่อยากจะแซวตัว ไม่คิดว่านัชชาปลอบเขาอย่างจริงจังแบบนี้ เวลานั้นเขารู้สึกอึดอัดมาก แล้วยังน่าสงสารด้วย “ผมไม่พูดดีกว่า”
นัชชาคิดว่าตัวเองจะพูดผิดตรงไหน กระพริบตาด้วยไร้ความผิดมองไปยังเตชิต แต่เขาไม่สนใจทั้งที่สีหน้าก็ไม่เปลี่ยน “ไม่ต้องสนใจเขา”
ปรัณคุยกันเล็กน้อยแล้วก็เดินไปห้องผู้โดยสารคนเดียวไม่รบกวนสองคนนั้น ให้เขาสองคนได้คุยกัน
“คุณก็รีบไปสิ”ถึงแม้ว่าภัยในใจนัชชาไม่อยากให้เขาไป แต่ก็บอกให้เขารีบไป
เตชิตยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าด้านข้างเรียบของเธอ หลายปีที่ผ่านมาบินไปบินมาเขาเคยชินแล้ว ตอนที่เขาเพิ่งเปิดบริษัท เขาเคยนอนก็นอนที่เครื่องบิน แต่ตอนนี้เขาถึงกลับไม่อยากไป
ไม่อยากไป?
คำนี้มันเป็นคำศัพท์ใหม่สำหรับเขา
เขาไม่มีคนที่ต้องการห่วงใย หลายปีนี้เขาไปๆมาๆคนเดียว ที่บ้านเขาเงียบเหงาตลอด เรียกว่าเป็นบ้าน หรือไม่ก็เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เขาพักอยู่ระยะเวลานาน สำหรับเขากลับบ้านหรือไม่ก็ไม่มีความหมายอะไร
แต่ว่าตอนนี้เขามีนัชชาแล้ว ทุกอย่างราวกับว่าไม่เหมือนกับไปหมด เขารู้ว่าตอนนี้มีคนรออยู่ที่บ้านเขา มีคนเบื่อแล้วงุนงงอยู่ที่บ้าน เขาอยากจะอยู่ที่บ้านมากกว่า ไม่อยากจะออกจากบ้าน
เช่น ตอนนี้
เตชิตมองเธออย่างนิ่งๆไปสักช่วงเวลา หลายคำที่อยากจะพูดออกปาก แต่พอถึงริมปากก็กลายเป็นประโยคเดียว“รอผมกลับมานะ”
“รู้แล้วค่ะ คุณนี่เป็นห่วงฉันมากหรือ ”นัชชาไม่รู้ว่าวันนี้ทำไมเขาพูดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำหน้าต่อเขา ท่าทางน่ารักด้วย เอาใจคนด้วย
เตชิตดูแล้วรู้สึกหัวใจของเขาอ่อนไปหมด ความอบอุ่นที่ปลายนิ้วทำให้เขาไม่อยากปล่อยมือ ดึงเธอเข้าอ้อมแขนจากด้านหลังของเธอ “ผมจะรีบกลับมานะ ”
นัชชาพยักหน้าอยู่อ้อมแขนของเขา ดวงตาชุ่มชื่นเต็มไปด้วยน้ำตา “ค่ะ ฉันจะรอ”
กอดไปช่วงขณะใหญ่แล้ว คนที่เดินผ่านก็รู้สึกลึกซึ้งด้วยรูปภาพสวยงามของสองคนนี้ แต่ในขณะเดียวกันนี้ไม่รู้ว่าในมุมสนามบินมีกล้องถ่ายรูปภาพลงไว้ กล้องดำๆถ่ายสองตัวที่เท่าเทียมกัน แล้วหายไปตามปริมาณผู้คน
............
เครื่องบินบินขึ้นและจุดลง สุดท้ายจุดที่สนามบินนิวซีแลนด์ ตอนที่เดินลงเครื่องบินเป็นตอนเช้าพอดี ออกจากทางวีไอพี แล้วขึ้นรถตู้สีดำที่จุดไว้ข้างถนน
ได้ยินเขาเอ่ยถาม ทีนาร์ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เงยหน้ามองเขาจากอ้อมแขนของเขา ขนาดใบหน้าเล็กๆเท่ากับฝ่ามือเต็มไปด้วยความซีดขาว ดวงตาใหญ่ๆแต่ไม่ค่อยมีกำแรง เป็นพื้นหลังที่ดีเพียงแต่เสียความอริยะเดิมเพราะว่าสภาพป่วยหนักแบบนี้ “คุณหมอจอร์จบอกว่าไม่ได้ร้ายเท่าไหร่ค่ะ เพียงแค่ตอนเช้านี้ฉันไม่ตั้งใจเลยโดยแสงแดด แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบาย”
“ทำไมไม่ระวังหน่อย”
ทีนาร์กัดริมปาก เธอไม่กล้าจะบอกเขาว่า เธอตั้งใจจะทำแบบนี้ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ เพราะว่าแบบนี้เธอจะได้มีโอกาสเจอเขา มองหน้าตาของเขาด้วยสายตาหลงรัก ไม่ได้เจอกันครึ่งปีแล้ว เขายิ่งโตขึ้นแล้ว การกระทำเต็มไปด้วยนิสัยผู้ชาย
เตชิตรู้สึกถึงสายตาของเธอ ยื่นมือออกมาผลักเธอไปเล็กน้อยอย่างเบาๆ แยกกันอย่างไม่มีความรู้สึก “ทีนาร์?”
ทีนาร์จึงตั้งสติกลับมา “ก็คือตอนที่เดินไม่ระวังเลยหกล้มแล้วเหยียบถึงผ้าม่าน”
เตชิตมองไปแผลใหม่บนแขนของเธอ หัวใจอ่อนลง “เดี๋ยวให้คุณหมอจอร์จทำการตรวจสอบทั้งหมดให้เธอ ผมจะวางใจ”
ทีนาร์รู้ว่าเขามาที่นี่เพราะว่าสภาพอาการของเธอ แต่ว่าพอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ความลึกซึ้งมากกว่าความผิดหวัง เธอป่วยมาหลายปีแล้ว แต่ว่าส่วนใหญ่ก็คือได้ยินเขาพูดถึงอาการป่วยของเธอ นอกจากนี้พวกเขาราวกับว่าไม่มีอะไรที่คุยกันได้
ตอนที่เธออ่านถึงป.ท. แต่ว่าพระเจ้าล้อเล่นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่กับเธอ ให้เธอได้รับโรคเลือดที่ยากได้เห็นในโลกนี้ เธอถูกส่งถึงนิวซีแลนด์รักษาตัว พอมาก็นานห้าปี เธอจากหญิงสวยฉลาดในคณะแพทย์กลายเป็นผู้ป่วยที่รูปร่างซูบผอม
แล้วเขาจากเด็กชายยากจนกลายเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ เขาดีเด่นขนาดนี้ ได้รับความเคารพของทุกคน ทั้งที่ชุมชนทนายความของอเมริกาก็ถือว่าเขาเป็นตัวอย่าง ทีนาร์ดีใจและภูมิใจด้วย แต่ก็เริ่มห่วงใยขึ้น
ตอนที่เผชิญฐานะห่างกันแบบนี้ เธอเสียความมั่นใจไป ตอนที่พวกเขาเจอกันเธอไม่อยากเห็นว่าพวกเขาคุยกันแต่เรื่องอาการของเธอ แต่ว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้
เธอเสียโอกาสที่ได้ติดต่อกับด้านนอกเสียวิถีชีวิตของตัวเองไป นอกจากนี้ เธอไม่สามารถจะคุยอะไรกับเขาได้
ทีนาร์จับมือตัวเองอย่างแน่นๆ แต่สุดท้ายไม่ได้พูดอะไร“ได้ ฉันไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...