“ทำเป็นสิ ทำกับข้าวจะยากอะไร”คิดไม่ถึงว่า ผู้ชายคนนี้จะแสดงออกต่อเรื่องนี้ว่า ไม่ได้มีความกดดันอะไรเลย
ในที่สุดแสงดาวก็มองไปที่เขาอีกครั้งแล้ว
เธอรู้จักผู้ชายมาไม่น้อย ถ้าไม่ลูกหลานตระกูลร่ำรวย ก็เป็นลูกท่านขุนมูลนาย แต่พวกเขาแค่ยื่นมือมาตักเข้าปาก รวมทั้งน้องชายของเธอคนนั้นแสนรัก
ก็เป็นคนแบบนี้
แต่ตอนนี้ คุณชายใหญ่ตระกูลเทวเทพคนนี้ หลานชายคนโตของไชยันต์ เขากลับทำอาหารเป็นด้วย?
แสงดาวดีใจขึ้นมาแล้ว เธอตอบตกลงแล้ว
จากนั้นม็อกโกก็ออกจากโรงพยาบาล ไปซื้อผักที่ซูเปอร์มาร์เก็ต แสงดาวด้านนี้หลังจากเขาออกไป ตามเดิม ไม่นาน ชายชุดดำที่ใส่แว่นตาดำก็มายืนอยู่ที่ประตูหน้าห้องของเธอแล้ว
แสงดาว:“……”
ต่างเป็นประสาท!
เธอทำได้เพียงอยู่ในห้องอย่างว่าง่าย ดูทีวีอย่างเบื่อหน่ายไปด้วย รอชายหนุ่มกลับมาจากการไปซื้อผักไปด้วย
ในโรงพยาบาล ความจริงแล้วไม่ได้มีห้องเดี่ยวแบบนี้ แต่เพราะว่าคณาธิปอยู่ที่นี่ ห้องพักผู้ป่วยของพวกเขา จึงไม่ต่างอะไรเลยบ้านพักของพวกเขาทั้งสองคนเลย
ไม่เพียงมีห้องครัวที่ครบชุด
แม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ควรมีในชีวิตประจำวัน ต่างก็มีครบ ถึงจะพูดว่านอนโรงพยาบาล มันคงจะดีกว่าถ้าพูดว่าทั้งสองอยู่ที่นี่เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์
วันนี้ตอนบ่ายแสงดาวก็ได้ทานอาหารฝีมือคุณชายใหญ่ของตระกูลเทวเทพจนได้ เธอถึงกับต้องร้องว้าวออกมา ฝีมือของเขา ยังดีกว่าเส้นหมี่ผู้หญิงคนนั้นเสียอีก
ไม่สิ เส้นหมี่จะเทียบอะไรได้
ฝีมือของเธออันนั้น ก็มีเพียงน้องชายโง่เง่าของเธอเท่านั้นที่ยินยอมโอบอุ้มเธอเอาไว้
“ทำอาหารเยอะขนาดนี้ ผมไปเรียกน้องชายคุณมาทานด้วยดีกว่า?”
“หา?”
แสงดาวที่อยู่ในห้องพักผู้ป่วยพึ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมา ได้ยินคำพูดนี้ มือเธอแข็งทื่อไปแล้ว
ยังจะเรียกไอ้คนไร้ประโยชน์คนนั้นมา?
ช่างเถอะ เรียกก็เรียก เยอะขนาดนี้ ยังไงก็ทานไม่หมด
ผู้หญิงคนนี้สุดท้ายแล้วก็ตอบตกลงอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
ม็อกโกได้เห็นแล้ว จึงยิ้มไปล้างมือไปด้วย หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องพักผู้ป่วยไปแล้ว ไม่นาน ก็เข็นชายหนุ่มที่สวมชุดผู้ป่วยเหมือนกันเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทาง ต่างดีขึ้นมามากแล้ว
“แสงดาว น้องชายคุณมาแล้ว ช่วยเขาหยิบถ้วยกับตะเกียบหน่อย”
“……”
ไม่มีคำพูดใด
แต่ว่าผู้หญิงท้องโตคนนี้ หลังจากมองมาที่พวกเขาแวบหนึ่ง ก็ยังลุกขึ้นไปหยิบถ้วยกับตะเกียบที่สะอาดมาชุดหนึ่ง
ทั้งสามมาครบแล้ว อาหารเที่ยงมื้อนี้ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ม็อกโกเดิมทีอยากจะดื่มเหล้าสักหน่อย คุณลุงคนนี้ ในตอนนั้นช่วยเหลือพวกเขาตั้งมากมาย แต่เมื่อถามคณาธิป เขากลับปฏิเสธ
“อืม ดังนั้นนั่งวีลแชร์ค่อนข้างสะดวก ถ้าเดินไปไหนแล้ว เกิดอ่อนแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน งั้นก็คงจะยุ่งยากใช่ไหมล่ะ?”
หลังจากคณาธิปพูดถึงตรงนี้ ยังใช้น้ำเสียงของการพูดหยอกล้อพูดออกมาหนึ่งประโยค
ม็อกโกมองดูสีหน้าของเขาที่ดูสดใสอันนี้ ทันใดนั้น เขาก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา
เขากลายเป็นแบบนี้ ความจริงแล้ว เขาม็อกโกก็มีส่วนรับผิดชอบ
เพราะว่าตอนนั้นที่อยู่ที่ประเทศT ถ้าไม่ใช่เพราะว่าต้องการให้เขาได้สติขึ้นมา คนคนนี้คงไม่แบกร่างกายที่ป่วยหนักเดินทางจากเมืองเคลียร์มาเป็นพันกิโล เป็นไปได้ว่า เขาก็คงจะไม่เป็นแบบนี้อย่างในตอนนี้
อย่างน้อย เส้นหมี่ก็จะไปที่เมืองเคลียร์
หลังจากนั้น คิดหาวิธีรักษาเขา ทีละก้าว เขาก็คงไม่ต้องเจ็บปวดขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลมาเป็นครึ่งปี
“ใช่แล้ว วันนี้ผมเห็นว่าตอนเช้าคุณคุยโทรศัพท์อยู่ที่ด้านนอกตั้งนาน สีหน้ายังไม่ค่อยดี ที่บ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วเหรอ?”
ในตอนที่ม็อกโกกำลังรู้สึกผิดอยู่นั้น
ทันใดนั้น ผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้ ดวงตาของเขาขยับเบาๆภายใต้แว่นบางอันานอะไร?ผมจะไปซื้อกนี้ เขามองมาที่เขา ถามออกมาหนึ่งประโยค
สีหน้าของม็อกโกเปลี่ยนไปทันที
“คุณมองเห็นแล้ว?”
“ตอนที่ไปเข้ายาก็แค่เดินผ่าน คือเกิดเรื่องขึ้นแล้วเหรอ?”
คณาธิปยังคงถามคำถามนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก