คนที่สองก็ตายด้วยปากกระบอกปืนของเขาตามที่เขาต้องการจริงๆ ด้วย
และจากการตายของพ่อค้าอาวุธคนที่สอง ในที่สุดบนรถตู้คันนี้ก็ได้สติขึ้นมาแล้ว ทันใดนั้น หลังจากที่เห็นเพียงแค่เสียงร้องไห้ระงมเซ็งแซ่ผ่านในกล้องเล็ง
คนที่เหลืออยู่คนนั้น รวมทั้งคนที่นั่งเป็นเพื่อนเขาทั้งสองข้าง ต่างพากันจับศีรษะของตัวเองไว้แล้วแอบซ่อนตัวทันที
ม็อกโกเห็นแล้ว หรี่ตาลง ไม่นาน กระสุนนัดที่สามก็ยิงออกไปอีกครั้ง
“ปัง--”
ยังคงเจาะทะลุผ่านกระจกกันลมบานนั้นเข้าไป
แต่ว่าครั้งนี้ เพราะว่าเขาได้ฆ่าไปแล้วสองคน และในรถก็มีตำรวจที่รู้เรื่องปืนไรเฟิล
ดังนั้น คนสุดท้ายนั้น ม็อกโกยิงไม่สำเร็จ แต่หลังจากที่ทำให้รถคันนี้เกิดความโกลาหล คนขับก็ขับรถชนเข้ากับรั้วกั้น จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปในป่าที่อยู่ใต้ถนนแล้ว
“บ้าชิบ!”
หลังจากเขาเห็นฉากนี้แล้ว ก็โกรธเป็นอย่างมาก
รีบเก็บปืนทันที เขาลุกขึ้นยืนจากที่ตรงนี้ จากนั้นก็รีบตามไปไล่ฆ่ายังป่าทึบนั้นด้วยความรวดเร็ว
จากสถานการณ์ในตอนนี้ รถเรือนจำคันหน้ายังไม่รู้เรื่อง รถตำรวจด้านหลังก็ยังตามมาไม่ทัน หลังจากที่ ม็อกโกตามลงมาถึงด้านล่างแล้ว คือมีความหวังเป็นอย่างมากที่จะจัดการกับพ่อค้าอาวุธคนสุดท้ายนั้นให้สิ้นซาก
แต่เมื่อเขาไล่ตามลงมาจากด้านบนด้วยความรวดเร็ว
เขามาถึงป่ารกทึบด้านล่าง ถือปืนในมือส่องหารถที่พลิกคว่ำคันนี้ ในเวลานี้ ก็มีเสียงร้องไห้ระงมดังลอยมาจากข้างล่าง
“ไหนบอกว่าเขาไร้น้ำยาไง? ไหนบอกว่าจัดการผู้หญิงของเขาได้ ก็สามารถจัดการเขาได้ตลอดเวลาไง? ทำไมตอนนี้ถึงเป็นแบบนี้ได้? พวกเขาล้วนแต่ตายเพราะน้ำมือเขา?!!”
เป็นเสียงร้องไห้ของพ่อค้าอาวุธคนนั้นที่เพิ่งพลิกลงมาจากด้านบนเมื่อสักครู่
ม็อกโกรู้สึกเบลอเล็กน้อย
จู่ ๆ เขานึกขึ้นได้ถึงคำพูดของคนทรยศ กองทัพที่พูดกับเขาเอาไว้ก่อนตายที่เขาได้เมินเฉยไปเมื่อไม่นานมานี้ เหมือนเขาบอกว่า คุณขวัญออกมาแล้ว และไปที่เจแปน
คุณขวัญ?
ขวัญเมือง? !
รูม่านตาเขาหดตัวแรงมาก
และก็ในวินาทีนี้เอง กระสุนปืนนัดหนึ่งก็ยิงมาจากทางด้านหลังของเขา
“ปัง—”
บนเสื้อผ้าที่เดิมทีก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง มีดอกไม้สีแดงดอกหนึ่งก็เบ่งบานขึ้นมาอีกครั้งบนนั้น คราวนี้ ในที่สุดเขาไม่ได้หลบ หลังจากที่ความเจ็บปวดราวทะลุหัวใจจากบนหลัง เขาก็หมดสติลงไป
“พลตรี! พลตรี!!”
เกือบจะเป็นเวลาขณะเดียวกัน เสียงยิงต่อสู้อย่างดุเดือดจากด้านหลังก็ดังขึ้นมา
หลังจากควันเขม่าพวยพุ่งไปทั่วบริเวณ ร่างสง่างามหลายร่างที่อยู่ในชุดสีเขียวมะกอกก็กระโดดลงมาจากในป่ารกทึบด้านบนเหนือถนน พวกเขาเหล่านี้คำรามและพุ่งจู่โจมเข้าหาคนกลุ่มนี้
ส่วนอีกสองคน ก็รีบพุ่งมาหาม็อกโกทางนี้อย่างรวดเร็ว
“พลตรี! พลตรีคุณฟื้นสิครับ พลตรี—-” นั่นคือเสียงร้องไห้ครวญครางสองเสียง
แววตาของม็อกโกที่พร่าเบลอพยายามโฟกัสดู ครู่หนึ่ง หลังจากที่เขามองเห็นสองคนที่กำลังคุกเข่าและพยุงตัวเองเอาไว้เป็นชุดสีเขียวมะกอกที่คุ้นเคยอย่างชัดเจนแล้ว
เขายื่นมือที่เต็มไปด้วยเลือกออกมา แล้วชี้ไปยังข้างหน้า : “ช่วยฉัน....ฆ่าเขาซะ.....”
สมาชิกทีม : “........”
และคนเหล่านั้นก็ไม่รู้ว่าถูกระเบิดลอยปลิวไปอยู่ที่ไหนแล้ว
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า เสือแก่ก็ยังคงเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ อย่าคิดว่ามันแก่แล้ว ไม่มีฟันแล้ว แล้วจะรังแกกันได้ง่ายๆ
ตอนที่ไชยันต์ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ม็อกโกที่เลือดท่วมตัว ก็ได้ถูกคนหามขึ้นมาจากกลางป่าใต้ถนนนั้นแล้ว เขาเห็นฉากนี้ ในสมองก็ปรากฏภาพที่ขุนนายลูกชายของเขาพลีชีพในตอนนั้นขึ้นมา ชายแก่ที่อายุแปดสิบปีเกือบจะเซ และเกือบจะล้มทรุดลงต่อหน้าหลานชายคนนี้
นี่คือผลกรรมเหรอ?
เพราะว่าความเห็นแก่ตัว และเลือดเย็นของเขาในตอนนั้น
ดังนั้น ตอนนี้จึงให้เขาเห็นโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีก ทำให้หลานชายของเขาเกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้อีกครั้ง
ไชยันต์สั่นเทาไปทั้งตัว ขยับเข้ามาทีละก้าวๆ เขาค่อยๆ คุกเข่านั่งลงตรงหน้าของคนที่เลือดท่วมตัวคนนี้ : “โก........”
ริมฝีปากที่ขาวซีดจนน่าตกใจของม็อกโกขยับ
“ดาว.....ลูก....”
“……”
ไชยันต์น้ำตาร่วงไหลอีกครั้ง
แต่นี่ยังคงไม่ใช่ที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจที่สุด เพราะว่า ถัดมา เขาได้ยินหนึ่งประโยคสุดท้าย : “เหรียญ...รางวัลเอาให้เธอ.....”
ไชยันต์ : “......”
ซึ่งเหมือนกับว่าอะไรบางอย่างตรงหน้าอกที่เดิมทีรักษาหายเรียบร้อยแล้ว กลับจู่ ๆ ถูกควักออกมาอย่างแรงอีกครั้ง เขามองดูหลานชายที่กำลังจะค่อยๆ สิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาเขา
ในที่สุด หลังจากที่เลือดในลำคอก้อนนั้นพุ่งทะลักออกมาจากในลำคอของเขา
เขาก็ล้มลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก