สำหรับพิมแสงคนคนนี้ ความจริงแล้วคณาธิปรู้สึกว่าเธอไม่มีสมองมาโดยตลอด เธอสวยมาก อีกทั้งยังมีเสน่ห์น่าดึงดูดแบบนั้น แต่ว่าสติปัญญา พูดยากจริงๆ
แต่ว่า เธอมีข้อดีอย่างหนึ่ง ก็คือบริสุทธิ์
คณาธิปอดทนอยู่ตั้งนาน สุดท้าย ถึงได้ดึงมือทั้งสองข้างที่กอดเขาเอาไว้ลงมาแล้ว
“งั้นคุณคิดอยากจะทำยังไง?”
“ฉัน……”
หญิงสาวร้องออกมาอย่างหนักแต่ก็ยังคงงดงาม ปรากฏว่าเข้าสู่ภาวะมึนงงแล้ว
คณาธิปมองไปทางอื่น เขาเกรงว่าตัวเองมองนานแล้ว จะอดใจไม่ไหวสลัดมือแล้วเดินหนีไป
“ถ้าคุณคิดอยากจะอยู่กับเขาจริงๆ ผมสามารถช่วยคุณได้ บริษัทภาพยนตร์ของมาร์ตินอันนั้น หิรัญชากรุ๊ปก็เป็นหุ้นส่วนอยู่ ถ้าคุณอยากจะเข้าใกล้เขา ผมสามารถจัดการส่งคุณเข้าไปทำงานที่นั่นได้”
“จริงเหรอ?”
ผู้หญิงคนนี้ได้ฟังแล้ว ทันใดนั้นดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมา
เธอยืนขึ้นมาอย่างดีใจ ในดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้นยังมีหยดน้ำตาติดอยู่ เธอดีอกดีใจจนเข้ามากอดแขนของคณาธิปอีกครั้งแล้ว
“ดีจัง ดีจังเลย พี่ใหญ่คณาธิป ฉันรู้ว่าคุณมีวิธีที่ดีที่สุด งั้นคุณรีบไปจัดการให้ฉันเถอะ”
“……”
มองเธออย่างเงียบๆอยู่หลายวินาที
คณาธิปถึงได้ขยับแขนของตัวเอง เตรียมที่จะดึงกลับมา
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับยังไม่ปล่อย เธอเบิกตากว้างเปล่งประกายความสุกใสออกมา มองมาที่เขาอย่างดีใจอยู่ตลอด ไม่ยอมปล่อยมือ
คณาธิป:“……”
สุดท้าย จึงทำได้เพียงแล้วแต่เธอจะกอด ทั้งสองจึงกลับไปด้วยกันแล้ว
หลังจากกลับไป เขาจึงได้นำเรื่องนี้บอกกับเส้นหมี่อย่างง่ายๆสักหน่อย เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ เส้นหมี่ได้ฟังแล้ว ก็ยากที่จะพูดกับความดื้อรั้นของผู้หญิงคนนี้
“เธอต้องการอดทนอย่างนี้ก็ดี คุณจัดการแบบนี้ ถึงเวลานั้นเธอจะได้ตาสว่างกับความจริง เธอจะคงจะตัดใจแล้ว”
“อืม ผมเองก็คิดแบบนี้”
คณาธิปพยักหน้า พูดว่าตัวเองจัดการแบบนี้เพราะว่ามีเหตุผล
พูดคุยกันจบแล้ว เตรียมที่จะวางสาย ทันใดนั้น ในสายโทรศัพท์กลับมาเสียงของผู้ชายอีกคนหนึ่งดังแทรกเข้ามา
“คุณกำลังคุยโทรศัพท์กับใคร?”
“หา?”เส้นหมี่ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เกิดความตกใจขึ้นมาจนต้องร้อง “หา” ออกมา
“พี่ชาย คุณตื่นแล้วเหรอ? ฉันกำลังคุยกับพี่ใหญ่คณาธิป พิมแสงกลับมาอีกแล้ว เขาจึงบอกกับฉันสักหน่อย”
เธออธิบายกับเขาสั้นๆ
แสนรักที่อยู่ที่นั่นได้ฟังดังนั้น ก็ขมวดคิ้วเป็นปมแล้ว
แต่ว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องเป็นกังวล ดังนั้น เขาเข้ามาแล้ว ถึงถามชายหนุ่มอีกเรื่องออกไปโดยตรง:“คุณถามเขาดูสักหน่อย เมื่อไหร่สามารถไปที่ญี่ปุ่นได้?”
“หา?”
เส้นหมี่ประหลาดใจอีกครั้งแล้ว
เร็วจัง?
“มาร์ติน!”
ในตอนที่พิมแสงได้เห็นคนคนนี้ ยังคงยิ้มออกมาอย่างดีใจ
เธอถือกระเป๋า บนร่างกายยังสวมเสื้อผ้าชุดนั้นที่รออยู่ที่บ้านของพวกเขาสามวันสามคืน มองเห็นคนคนนี้กำลังสวมชุดโบราณเหมือนออกมาจากภาพวาด
หลังจากคนคนนี้เดินออกมา สิ่งที่ขุ่นเคืองใจทั้งหมด ต่างลืมไปหมดแล้ว
ทว่าหลังจากนั้น มาร์ตินได้เห็นเธอแล้ว ทันใดสีหน้าก็เย็นชาลง
ด้านข้าง ทีมงานของเขาก็เริ่มถกเถียงกัน
“ผู้หญิงคนนี้มายังไงอีก? ครั้งนี้ยังมาถึงทีมงานการถ่ายทำแล้ว เธอยังคงชั่วร้ายเหมือนเดิม”
“นั่นน่ะสิ ก็ไม่ดูว่าตัวเองนั้นอายุเท่าไหร่แล้ว โตกว่ามาร์ตินดาราใหญ่ของพวกเราตั้งสามปี เธอยังมีหน้ามีเดินหน้าต่ออีกเหรอ?”
“คนขี้เหร่ชอบทำอะไรแปลกประหลาด!”
“……”
ทุกคนต่างมองพิมแสงด้วยแววตารังเกียจและดูถูกเหยียดหยาม
แน่นอนว่าพิมแสงก็มองเห็นแล้ว
ทันใดนั้น ใบหน้าเล็กของเธอก็ซีดขาวแล้ว ตามสัญชาตญาณก็มองไปยังคนที่เธอต้องการมาหาแล้ว
กลับพบว่า คนคนนี้ไม่มองเธอตั้งนานแล้ว เขาเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจกันการมาของเธอยังไงอย่างงั้น วิ่งไปถ่ายทำต่อแล้ว
มาร์ติน……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก