คือชินจังนั่นเอง!
ใครๆก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าเขาจะออกมาในเวลานี้
ลักษณะท่าทางในสถานการณ์ที่ตึงเครียดของเส้นหมี่อ่อนลงมาในทันที เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเด็กคนนี้ รอยยิ้มปรากฏขึ้นอย่างเซอร์ไพรส์
“ชินชิน ลูกออกมาทำไม? เสียงดังไปถึงเราใช่ไหม?”
“คิดว่ายังไงล่ะครับ?”
ชินจังไม่ปฏิเสธ ใบหน้าเล็กที่ดูเท่ห์ ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่รู้สึกรำคาญหลังจากที่ถูกรบกวน
เส้นหมี่เห็นแล้ว ยังจะมีความคิดที่จะไปทะเลาะกับผู้ชายหมาๆคนนี้อีกเสียที่ไหนกัน เธอรีบเดินมาตรงหน้าของเด็กคนนี้ : “ขอโทษด้วยนะครับชินชิน ดึกขนาดนี้แล้วยังรบกวนหนูอีก หนูวางใจได้เลย เราจะไม่เสียงดังกันอีกแล้ว หนูรีบกลับไปนอนเถอะครับ ไม่ได้ใส่เสื้อคลุมมาด้วย จะหนาวเอาได้ รีบกลับไปเถอะ”
พูดเป็นน้ำไหลไฟดับ คือแม่แท้ๆอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แต่ชินจังกลับไม่ได้อยากจะคุยกับเธอเลยเสียด้วยซ้ำ
เขายืนอยู่บนชั้นนี้ มองมายังแด๊ดดี้ของเขาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม : “แด๊ดดี้ ไม่สบายก็ห้ามเลี่ยงหมอ นี่แด๊ดดี้พูดกับผมเองนะ ตอนนี้หมอมาถึงบ้านแล้ว ทำไมแด๊ดดี้ไม่ให้ดูครับ?”
“อะไรนะ?”
แสนรักรู้สึกอึ้งไป คาดว่าคงคิดไม่ถึง ว่าจู่ๆลูกชายจะมาเปิดฉากรบกับตัวเอง
“ถ้าแด๊ดดี้ไม่หา ต่อไปก็อย่าหวังว่าผมจะไปหาเหมือนกัน!”
ประโยคเย็นชาขนาดนี้ เด็กน้อยจ้องมองพิจารณาแด๊ดดี้ของเขาแล้วก็หันหลังเดินกลับไป!
เส้นหมี่ตกตะลึงตาค้างจนพูดไม่ออก!
ลูกชาย ทำไมหนูเก่งขนาดนี้?!
แสนรักที่อยู่ทางนี้ใบหน้าหล่อเหลาก็ดำเป็นก้นหม้อเลยด้วยเช่นกัน ลูกชายของเขาคนนี้มักจะไม่ไว้หน้าเขาอยู่บ่อยๆ มองไปแล้วทั้งหิรัญชากรุ๊ป แม้แต่กรรมการบริษัทก็ล้วนต้องพากันเคารพเวลาอยู่ต่อหน้าเขา
แต่เจ้าเด็กคนนี้กลับมักจะไม่ไว้หน้าเขาเลย
ข้อนิ้วของเขาบีบกันจนส่งเสียงขึ้น ดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปยังเส้นหมี่ แดงฉาดยิ่งเหมือนกับต้องการจะกลืนกินเธอไปอย่างไรอย่างนั้น
“โอเคค่ะ คุณไม่ให้ฉันดู ฉันไม่ดูแล้วก็ได้โอเคไหม? ฉันไปละค่ะ ไปตอนนี้เลย!”
เส้นหมี่เห็นสายตาแบบนี้ของเขาแล้วก็รู้สึกปวดหัวแล้ว ไม่อยากจะทะเลาะกับเขา เธอถือกระเป๋าเข็มในมือ เตรียมจะเดินออกไป
แต่ในเวลานี้ ผู้ชายหมาๆคนนี้กลับยอมปล่อย : “เส้นหมี่ ผมจะบอกคุณว่า เห็นแก่ลูกชายของผมนะ ผมถึงได้ให้คุณลงมือได้ ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว ผมรับประกันได้เลยว่าจะทำให้พวกคุณป้าของคุณได้มาฝังศพคุณแน่!”
เส้นหมี่ : “……..”
เกี่ยวกับอาการป่วยของผู้ชายชั่วๆคนนี้ ความจริงแล้วตอนที่เส้นหมี่เห็นประวัติอาการป่วยของเขาที่โรงพยาบาลเคลียร์ เธอก็รู้แล้วว่าจะรักษาอย่างไร
อาการนอนไม่หลับ ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ถูกเรียกว่าเป็นอาการที่เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับ วิธีการรักษาไม่มีอะไรมากไปกว่าการให้ยานอนหลับ และการชี้แนะทางด้านจิตใจ แต่แบบนี้จะมีข้อเสียมากก็คือจะกลายเป็นการที่จะต้องคอยพึ่งพากันอยู่ตลอด ถ้าหากจะต้องพึ่งยานอนหลับ และไม่ได้ทาน ก็จะยิ่งทำให้นอนไม่หลับ
ดังนั้นหลังจากที่เธอเห็นประวัติอาการป่วยนี้ สิ่งที่คิดได้ขึ้นมาในตอนนั้นก็คือใช้เข็มเงินของเธอปิดกั้นจุดลมปราณที่ก่อให้เกิดความตื่นเต้นของเส้นประสาทเอาไว้ เป็นการปิดกั้นจุดลมปราณเท่านั้น ไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น
หลังจากนั้นก็เสริมด้วยยาต้ม รอให้ยาค่อยเข้าไปในร่างกายของเขา บำรุงรักษาแขนขากระดูก จุดเส้นลมปราณแล้ว เขาก็จะฟื้นฟูสภาพเป็นปกติ
“อือ--”
เพิ่งจะลงไปหนึ่งเข็ม เส้นหมี่ก็ได้ยินเสียงออกมาทางจมูกของผู้ชายคนนี้เสียแล้ว
เธอรีบมองเขาทันที : “เป็นอะไรไปคะ? รู้สึกเจ็บในหูใช่ไหม? ตาก็มัวๆขึ้นมาด้วยหรือเปล่า?”
มือที่วางอยู่ข้างลำตัวทั้งสองข้างของแสนรักบีบเข้าหากัน.....
เส้นหมี่เห็นว่าเขาไม่ได้ตอบ จึงหยิบเข็มเงินเข็มที่สองขึ้นมาต่อ : “คุณผ่อนคลายลงหน่อยนะคะ นี่เป็นสภาพปกติค่ะ รอให้ฝังเข็มนี้ลงไปแล้วคุณก็จะรู้สึกสบายขึ้นมา”
ตัดเรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัวออกไป เธอก็เป็นหมอที่มีคุณสมบัติมากคนหนึ่งจริงๆ
แสนรักที่นอนอยู่ทางด้านล่างเธอนั้น หลังจากที่รู้สึกเพียงความเจ็บปวดที่เข็มทิ่มลงไปบนศีรษะนั้น เวลาถัดมา ศีรษะที่ปวดมาเป็นเวลานาน ก็เหมือนกับมีอะไรมาระงับเอาไว้ แล้วความรู้สึกโล่งก็เกิดขึ้นมา เปลือกตาของขาก็ประคับประคองไว้ไม่ได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก