หลังจากนั้นยี่สิบกว่านาที ในที่สุดพ่อลูกทั้งสามคนที่อยู่ชั้นล่างก็ดูทีวีเสร็จแล้ว แสนรักกดปิดทีวี
“เอาล่ะ ตอนนี้ไปนอนกันได้หรือยัง”
“ครับ แด๊ดดี้”
อิคคิวที่ค่อนข้างงอแง หลังจากนั้นจึงตอบรับอย่างรวดเร็ว เขาที่รู้สึกว่าง่วงขึ้นมาแล้ว เหมือนปลาหมึกยักษ์ยังไงยังงั้น หันมาแล้วปืนขึ้นไปบนร่างกายของเขา
แสนรักไม่รู้จะทำยังไง ทำได้เพียงอุ้มเขาขึ้นมา
แล้วอีกมือหนึ่ง ก็จับมือซ้ายของลูกชายคนโตเอาไว้
เมื่อตกดึกบ้านหลังนี้ ก็เงียบสงัดเป็นอย่างมาก บวกกับฤดูหนาวที่อากาศด้านนอกนั้นเหน็บหนาว แม้แต่เสียงของแมลงต่างๆก็ไม่มีแล้ว หลังจากที่สามพ่อลูกขึ้นมา นอกจากเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงานพ่นลมอุ่นๆออกมาแล้ว ชั้นสองนี้ เงียบมากเหมือนกับว่าแม้แต่เข็มเล่มหนึ่งหล่นลงพื้นก็คงจะได้ยินเสียง
“เอ๋ ทำไมไฟห้องหม่ามี๊สว่างอยู่ล่ะ”
ดวงตาของอิคคิว แป๊บเดียวเขาก็สังเกตเห็นห้องที่อยู่ตรงหัวมุมของทางเดิน เวลานี้ มีไฟแสงสีส้มลอดออกมา
อย่างครุมเครือ ยังได้ยินเสียงน้ำไหล
ชินจังเข้าใจขึ้นมาแล้ว
ทันใดนั้น หลังจากนั้นก็ดึงมือน้อยออกมาจากมือของแด๊ดดี้ที่จับอยู่ ใบหน้าน้อยขุ่นเคืองขึ้นมาแล้ววิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเอง
“ปัง——”
ปิดประตูลงอย่างแรง
อิคคิว:“……”
แสนรัก:“……”
กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ห้องหัวมุมนั้น ทันใดหญิงสาวที่พันผ้าขนหนูเอาไว้ บนศีรษะยังเต็มไปด้วยฟอง วิ่งออกมาจากด้านในแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ ทำไมมีเสียงดังขนาดนั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน”เธอมองไปที่สองพ่อลูกทั้งสองคนที่อยู่ยืนอยู่นิ่งๆด้านนอก เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังตกใจ
ดังนั้น ที่อยู่ด้านใน คือเธอจริงๆด้วย?
เธอทำไมคิดเองเออเองขนาดนั้น เธอเอาสิ่งของทั้งหมดจากชั้นบนย้ายลงมาข้างล่างแล้ว?
ดีมาก!
แววตาของชายหนุ่มเย็นชา เหมือนอยากจะหัวเราะเยาะออกมา:“คุณถามผม?”
หลังจากนั้นเขาก็เอาลูกชายที่อุ้มอยู่วางลง หันหลังแล้วเดินออกไป
เหลือเพียงเส้นหมี่ที่ยืนงงอยู่ที่หน้าประตู:“……”
ไม่ใช่สิ เธอทำอะไรผิดอีกแล้วเหรอ?
ทำให้เขาโกรธขนาดนั้น!
ไม่ใช่ว่าเธอเอาสิ่งของต่างๆย้ายลงมาอย่างรู้ความแล้วเหรอ?
ไม่ไปรบกวนเขา ไม่อยู่ให้ขวางหูขวางตาเขา ให้เขารังเกียจ เธอรู้ความขนาดนี้ เขายังไม่พอใจอีกเหรอ?
เส้นหมี่เหนื่อยใจ
ไม่รู้จะทำยังไง ทำได้เพียงเรียกลูกชายที่ถูกทิ้งไว้ตรงทางเดินมา:“มา อิคคิว หม่ามี้ไปอาบน้ำก่อน หลังจากนั้นค่อยอาบให้หนูดีไหม”
อิคคิว:“……”
ถอนหายใจออกมา สุดท้ายเขาทำได้เพียงพาตัวเอง เดินงัวเงียเข้าไปในห้องของหม่ามี๊
เธอเดินมาด้านหน้าของเขา เชิญเขาทานอาหารเช้าอย่างระมัดระวัง
แต่ว่า ชายหนุ่มที่เย็นเหมือนน้ำแข็งคนนี้ ทำเหมือนว่ามองไม่เห็นเธอยังไงอย่างงั้น เธอพูดไป เขาก็เดินไป
สุดท้าย ทั้งสองมาถึงบริเวณทางเข้า
“เส้นหมี่ ผมจะพูดกับคุณอีกครั้งหนึ่งนะ ต่อไปนี้ อย่าเรียกผมด้วยสองคำนั้นอีก แล้วก็คุณไม่ต้องทำเป็นเล่นละครตบตา คุณทำแบบนี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าคุณมันน่ารังเกียจ!”
“……”
เช้าขนาดนี้ ยังจะให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม?
เส้นหมี่ถูกทิ่มแทงจนหายใจไม่ทั่วท้อง ในที่สุด เธอก็โมโหแล้ว
“ฉันตั้งใจเล่นละครตบตาอะไรล่ะ ฉันทำอาหารเช้า ให้คุณทาน เรียกว่าเล่นละคร คุณไม่อยู่ ฉันกับลูกๆไม่ต้องทานหรือไง แสนรัก ก็แค่หย่าร้างกัน คุณจำเป็นต้องพูดคำพูดที่ไม่น่าฟังขนาดนี้เลยเหรอ”
“แล้วก็ฉันก็บอกกับคุณไปแล้วว่า ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมอย่า ฉันแค่หวังว่าทุกคนจะอยู่ฉลองตรุษจีนด้วยกันก่อน ถ้าแม้แต่สิ่งนี้คุณไม่ยินยอมล่ะก็ งั้นตอนนี้พวกเราก็เรียกลูกๆลงมา ให้พวกเขาเลือก ว่าจะเลือกคุณหรือฉัน พวกเขายินยอมจะไปอยู่กับใครกันแน่”
หลังจากนั้นหญิงสาวจึงตัดสินใจ แม้แต่ผ้ากันเปื้อนก็ไม่ถอดออก หันหลังกลับเดินขึ้นไปชั้นบน ไปเรียกลูกๆทั้งสามคน
ทันใดแสนรักหรี่ตาลง!
เงื่อนไขแปรเปลี่ยนไปแล้ว เขาจับหญิงสาวคนนี้เอาไว้ หลังจากนั้นก็กดเธอเอาไว้ตรงตู้บริเวณทางเข้าอย่างแรง:“เส้นหมี่ คุณอยากตายหรือไง?!!”
เส้นหมี่รู้สึกว่าในเมื่อเรื่องราวมาขนาดนี้แล้วก็ไม่สนใจอะไรแล้ว:“ใช่น่ะสิ ฉันอยากตาย ถ้าคุณมีความสามารถพอก็ฆ่าฉันสิ เพราะยังไงซะฉันก็เป็นคนที่ทำให้แม่ของคุณต้องตาย จะหย่าร้างทำไมล่ะ เป็นหม้ายซะก็สิ้นเรื่อง ได้แก้แค้นให้แม่ของคุณด้วย”
“ปัง——”
เสียงที่ดังออกมาอย่างมาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก