“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง งั้นผมก็วางใจแล้ว”
ในที่สุดม็อกโกก็ค่อยโล่งใจ
มองดูนาฬิกาบนข้อมือ เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว เขาจึงถามขึ้นหนึ่งประโยค : “ตอนค่ำคุณยังจะกลับไปไหม? หรือว่าที่นี่ปล่อยให้ผมดูแลเอง คุณพาลูกกลับไปก่อน นี่ก็เย็นมากแล้ว”
“ไม่ต้อง นับจากวันนี้ คุณแสนรักอนุญาตให้ฉันอยู่ที่นี่แล้วค่ะ”
มีความประหลาดใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้บอกว่าไม่กลับไป
ม็อกโกตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
เมื่อได้สติกลับมา เขามองไปยังคนที่ไม่อยากจากไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว ก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นสีหน้าท่าทางแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ก็จริง พวกเขาคือสามีภรรยากัน เธอยากลำบากมากกว่าจะมายืนอยู่ข้างกายเขา ม็อกโกสมองของเขาช่างโง่เง่าเสียจริง ที่คิดจะให้เธอกลับไป
ม็อกโกหันหลังและเดินออกไป
เพิ่งจะลงมาถึงชั้นล่าง เขาก็เห็นเงาร่างเล็กๆตัวกลมๆกำลังเดินมาทางนี้ เธอปีนขึ้นบันได กระโดดยกบั้นท้ายน้อยขึ้นอย่างสุดชีวิตเพื่อกดปุ่มลิฟต์ คิดอยากจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อหาแด๊ดดี้กับหม่ามี๊
แต่ เธอตัวเตี้ยเกินไป เขย่งเท้าเล็กๆแล้วก็ยังกดไม่ถึง
เจ้าเด็กน้อยคนนี้......
พอดีที่ม็อกโกกำลังออกมาจากในลิฟต์ เห็นฉากนี้เข้าก็เลยหัวเราะ
“หนูรินจัง หนูกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
“หา?” หนูน้อยที่กำลังพยายามกดลิฟต์อยู่ ดวงตาใสแป๋วคู่โตมองดูไปยังคุณอาที่กำลังเดินออกมาจากในลิฟต์
“หนูจะขึ้นไปข้างบนหาหม่ามี๊ค่ะ คุณอา คุณอาเห็นหม่ามี๊หนูไหมคะ?”
น้ำเสียงเด็กและสุภาพของเธอ ใบหน้าเล็กๆกลมๆนั้น ภายใต้แสงไฟสีนวลตาในโถงทางเดิน ช่างน่ารักสวยงามราวกับตุ๊กตากระเบื้อง
จู่ ๆ ม็อกโกรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นในหัวใจ
สำหรับเด็กคนนี้ เขาที่รู้ความจริงแล้ว แน่นอนว่ารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอเป็นลูกของใคร
แต่ แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ยังไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เธอเป็นเด็กที่เพิ่งอายุหกขวบ กลับต้องเดินตามหลังหม่ามี๊อยู่ตลอดทั้งวัน เรียกพ่อของตัวเองว่าคุณอา ความรู้เดียงสาแบบนี้ ใครดูแล้วจะไม่รู้สึกปวดใจล่ะ?
ไม่เสียใจ?
ม็อกโกออกมาจากในลิฟต์ ก้มลมอุ้มเธอขึ้นมา
“หม่ามี๊กำลังดูแลคุณอาอยู่ข้างบนจ๊ะ พวกเราอย่าไปรบกวนพวกเขาเลยดีไหม? เดี๋ยวลุงพาหนูไปเที่ยว”
“หา?”
เด็กน้อยมองดูคุณอาที่กำลังอุ้มตัวเองอยู่ ดวงตาคู่โตแวววาวราวลูกปัดแก้ว ก็ปรากฏให้เห็นถึงความสงสัยอยู่บ้างเล็กน้อย
พาเธอไปเที่ยว?
ทำไมเขาถึงดีกับเธอขนาดนี้ล่ะ? อีกอย่าง ทำไมเขาถึงให้เธอเรียกว่าคุณลุงล่ะ? ไม่ใช่คุณอาเหรอ?
สาวน้อยมีความไม่เข้าใจนิดหน่อย
“หนูวางใจ ลุงไม่ใช่คนเลว เป็นพี่ชายของคุณอาคนที่อยู่ด้านบนนะ ไม่พาหนูรินจังไปขายหรอก” ม็อกโกมองดูหนูน้อยคนนี้ที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองและไม่ยอมตกลงเสียที ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเล็กน้อย
เส้นหมี่โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ไม่มีทางเลือก จึงทำได้เพียงแค่ประคองเขาขึ้นมา หลังจากถอดเสื้อผ้าเขาออกแล้ว เธอเตรียมที่จะฝังเข็มสองสามเข็มที่ด้านหลังของเขา
“คุณ....คุณกำลังทำอะไร?”
ในเวลาสำคัญแบบนี้ คนที่ถูกเธอประคองขึ้นมา กลับรู้สึกตัวแล้ว เขาลืมตาทั้งสองข้าง สายตาที่ยังมองไม่ค่อยชัดเจนนักเห็นว่าเธอยืนพิงอยู่ด้านหลังของตัวเอง และหลังจากที่เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกหมดแล้ว เขาจึงถามอย่างอ่อนแรง
เส้นหมี่รีบหันหลบ : “คุณตัวร้อน คุณแสนรัก ตอนนี้ตรงปอดของคุณเจ็บมากใช่ไหม?”
แสนรัก : “.........”
เหงื่อเม็ดโตค่อยๆโผล่ออกมาตรงหน้าผากของเขา แม้แต่จะพูดเขาก็ช่างยากลำบากเหลือเกิน
มันไม่ใช่แค่เจ็บ เขาแม้แต่จะหายใจก็แทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
“ผม....เป็นอะไรกันแน่?”
“คือปอดได้รับบาดเจ็บจากการที่คุณออกกำลังกายหนักจนเกินไป คุณไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรร้ายแรงมาก ตอนนี้ฉันกำลังทำให้อาการคุณบรรเทาลง เดี๋ยวจะให้น้ำเกลืออีกขวดก็โอเคแล้วค่ะ”
เส้นหมี่พูดจบ เข็มที่อยู่ในมือของเธอก็ฝังลงไปในตำแหน่งด้านหลังอย่างแม่นยำ
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ในที่สุด แสนรักก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดในหน้าอกของตัวเองที่แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆเมื่อหายใจค่อยบรรเทาลงแล้ว เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก คนก็โซเซหงายหลังล้มลงไป
“คุณแสนรัก!”
เข็มของเส้นหมี่ยังไม่ทันได้ดึงออกมา เมื่อเห็นเขาจู่ ๆ ล้มลงไป ก็ได้เพียงแค่อ้าแขนทั้งสองข้าง และกอดเขาไว้เต็มอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก