แต่แสนรักที่นั่งอยู่บนรถเข็นเพียงกวาดตามองเธออย่างเย็นชา แล้วเข้าไปอีกครั้ง
“อ้าว คุณแสนรัก รอฉันด้วยค่ะ คุณจะไปไหนหรือ? อย่าไปไหนคนเดียวสิคะ มันอันตรายนะ” เส้นหมี่รีบวิ่งตามไป
โชคดีที่ ประตูลิฟต์ยังไม่ได้ปิดลง เมื่อเธอเห็นดังนั้น ก็รีบตามเข้าไปทันที
“คุณแสนรัก.....”
“......”
เขาไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย
ชายที่มองเธอที่ตามเข้ามาด้วย ไม่รู้ว่าทำไม หว่างคิ้วก็ขมวดแน่นไม่พอใจกว่าเดิม ราวกับว่าติดหนี้เขากี่ล้านกี่พันล้านอย่างงั้น
เฮ้อ ช่างเถอะ ยังไม่พูดอะไรจะดีกว่า
เส้นหมี่ปิดปากอย่างเชื่อฟัง หลังจากนั้น จนลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่ง ทั้งสองคนยังไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว
จนกระทั่ง ประตูลิฟต์เปิดออก
“แสนรัก? นี่มันแสนรักไม่ใช่หรือ? พ่อคะ เขาลงมาแล้วค่ะ”
“ใช่ๆ ในเมื่อลงมาแล้ว ก็ไม่ต้องขึ้นไปเรียกแล้ว”
“......”
มินตรา ไชกุและภรรยาที่จู่ๆก็ปรากฏตัว ทำให้สองคนที่อยู่ในลิฟต์สีหน้าตึงเครียดทันที
พวกเขาเหมือนโคลัมบัสที่ค้นพบทวีปอเมริกา ชี้ไปทางพวกเขาแล้วร้องด้วยความดีใจ และแล้วทันใดนั้น ก็มีคนมากมายมารายล้อม พวกเขาทั้งคู่ไว้
เส้นหมี่ “......”
แสนรัก “......”
ในตอนที่ดวงตาของชายคนนี้ปรากฏความดุร้ายขึ้น เส้นหมี่ก็ออกมาจากลิฟต์ แล้วยืนบังอยู่ด้านหน้าของเขา
“พันโทม็อกกี้ คุณนายมัลล่า บังเอิญจังเลยนะ เจอกันอีกแล้ว”
“บังเอิญอะไรของเธอ? หลบไป!”
เมื่อมินตราเห็นว่าเป็นเธอ ก็แสดงสีหน้าแย่ๆอย่างไม่เกรงใจทันที พูดตรงๆให้เธอไสหัวไป
แต่เส้นหมี่ จะไปได้อย่างไรล่ะ?
เธอยิ้มต่ออยากใจกว้าง “คุณนายมัลล่า ฉันหลบไปไม่ได้หรอกค่ะ คุณแสนรักไม่ชอบถูกคนอื่นโดนตัว เขามีโรคกลัวเชื้อโรค คงต้องรบกวนให้คุณหลีกทางหน่อยค่ะ ฉันจะเข็นเขาออกไป”
จากนั้น เธอก็เดินไปจับรถเข็นของแสนรัก
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ เมื่อมินตราเห็นว่าเธอบังอาจมาบอกให้หลีกทาง ก็พุ่งเข้ามาคว้าแขนของเธอไว้ทันที
“อึก......”
“แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงมาสั่งให้ฉันหลีกทาง!”
เมื่อคว้าได้แล้วก็สะบัดทิ้งทันที!
ทันใดนั้น เส้นหมี่ที่ใส่รองเท้าส้นสูงยืนอยู่ตรงกลางของประตูลิฟต์ ก็เสียหลัก เซไปเซมา แล้วล้มตัวลงไปอีกทาง
“นี่เธอรนหาที่ตายหรือไง!”
ในสถานการณ์ตึงเครียดนี้ เสียงตะคอกที่แสนจะเย็นชาและดุร้ายของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น เส้นหมี่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แขนของเธอก็ถูกมือใหญ่ๆข้างหนึ่งจับไว้แน่น
“คุณแสนรัก......”
และขวัญเมืองที่อยู่ในห้องครัวเมื่อเห็นดังนั้น ก็รีบกลับไปที่เตา แล้วเทข้าวต้มทิ้งอย่างไม่ลังเล!
ในที่สุดก็โบกมือลา ความวุ่นวายเล็กๆไป
แสนรักถูกเข็นมาถึงที่ห้องนั่งเล่น เมื่อผ่านเรื่องราวเมื่อครู่นี้ คนในตระกูลเทวเทพต่างไม่กล้าหาเรื่องเขา ล้วนยืนจ้องเขาเขม็งอยู่ห่างๆด้วยความเกลียดชังและความกลัว
แต่ว่า ยังมีบางคนที่มองสำรวจเขาอย่างประหลาดใจ
“ที่แท้นี่ก็คือคุณชายเล็กของตระกูลเทวเทพของเรา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลามาก เหมือนน้องขุนนายสมัยก่อนเลยล่ะ”
“นั่นสิ ฉันมองแล้วก็คิดว่าเหมือน”
“แต่ว่าเขาดูแล้วเย็นชาจังนะ แล้วยังดุมากด้วย เขาเป็นคนเลวหรือเปล่า?”
จู่ๆก็มีคนได้ยินเสียงเล็กๆเหมือนเด็กถามขึ้นมา
เส้นหมี่ได้ยินดังนั้น ก็หันกลับไปมองทันที กลับพบว่า ในชั่วขณะเดียว เด็กรูปร่างกลางๆคนนั้น ก็ถูกมือข้างหนึ่งปิดปากไว้อย่างแน่นหนา
นี่มันหมายความว่าอย่างไร?
เขาเป็นภัยพิบัติที่ใหญ่หลวงหรือ? หรือเป็นปีศาจจากนรก ทำไมทุกคนต้องหลบเขาอย่างกับสัตว์มีพิษด้วย?
เส้นหมี่รู้สึกหนักอึ้งที่หัวใจอย่างมาก
เทวดาของเธอ ทำไมอยู่ที่นี่ถึงกลายเป็นแบบนั้นในสายตาของพวกเขา? เขาเป็นคนที่เก่งกาจมากขนาดนั้นแท้ๆ จุดเขายืนอยู่ ก็คือแสงสว่างของที่นั่น เป็นเทพของที่นั่น!
ทุกคนล้วนเถิดทูลเขา เคารพเขา สูงส่งราวกับราชา
แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ล่ะ?
เส้นหมี่รู้สึกเสียใจอย่างมาก......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก