“ถ้างั้นเธอไสหัวไปได้เลย!”
ในที่สุดแสนรักก็มองผู้หญิงออกอย่างชัดเจน ทันใดนั้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ปรากฏความเย็นชาที่น่าสะพรึงกลัว แล้วตะคอกด้วยความโกรธ!
เส้นหมี่พยักหน้า “ใช่ ฉันก็กำลังเตรียมจะไสหัวไป รอคุณฟื้นมา ก็แค่อยากจะบอกกับคุณว่า แสนรัก หวังว่าครั้งต่อไปที่ฉันมาที่นี่ จะเห็นว่าคุณยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้นะ”
เส้นหมี่พูดประโยคนี้ออกไปอย่างเย็นชา จากนั้น ก็หันหลังเดินออกไป
ทำให้ชายที่อยู่ในห้องผู้ป่วยโกรธ จนชูมือโต๊ะข้างเตียงล้มลงกับพื้น!
“คิตตี้ ถ้าแน่จริงก็อย่ากลับมาอีก!!”
“......”
เส้นหมี่ที่ออกไปแล้ว แม้ว่าจะเดินมาตั้งไกลก็ยังได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากห้องผู้ป่วย เธอขยับมุมปาก ใบหน้าเล็กๆที่ขาวซีดปรากฏรอยยิ้มที่เศร้าโศกออกมาบางๆ
ใช่แล้ว ในระยะนี้เธอจะไม่กลับมาแล้ว
เส้นหมี่ออกมาจากโรงพยาบาล ก็มองเห็นดลธีที่เปิดประตูรถรออยู่ด้านนอกทันที
“คุณนาย แจ้งเรียบร้อยแล้วหรือ?”
“เรียบร้อยแล้ว”
เส้นหมี่ตอบกลับด้วยความสลด แล้วเธอก็ขึ้นรถ
เมื่อดลธีเห็นดังนั้น ก็ไม่กล้าถามอีก สตาร์ทรถแล้วจากไปทันที จนกระทั่งทั้งสองคนกลับมาถึงคอนโดที่ดลธีเช่าใหม่ เส้นหมี่ลากสัมภาระออกมา
“คุณนาย แล้วครั้งนี้จะไปนานแค่ไหนหรือ?”
“อาจจะสามเดือนมั้ง ฉันต้องไปเอาเหล็กที่อยู่ในร่างกายออก แล้วก็ใบหน้าฉันด้วย กว่าจะเสร็จ คิดว่าต้องใช้เวลาสักระยะเหมือนกัน”
เส้นหมี่ตอบไป แล้วก็อุ้มหนูรินจังที่เก็บของเสร็จแล้วที่อยู่ข้างๆขึ้นมา
เมื่อหนูรินจังได้ยินว่าในที่สุดหม่ามี๊ก็จะไปรักษาใบหน้าของเธอ ก็ปรบมือดังในอ้อมกอดของหม่ามี๊ทันที
“เยี่ยมไปเลย ในที่สุดก็จะได้เห็นหม่ามี๊ที่สวยงามแล้ว หม่ามี๊ จะต้องสวยกว่าเมื่อก่อนนะ” เด็กน้อยมองใบหน้าของหม่ามี๊อย่างจริงจัง แล้วก็พูดย้ำด้วยน้ำเสียงเล็กๆ
เส้นหมี่ยิ้มออกมา แล้วหยิกจมูกของเธอเบาๆ
ดลธีก็รู้สึกดีใจมากเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไร การที่นายหญิงของเขาจะได้กลับมามีรูปลักษณ์เดิมอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องที่ดี
แต่ว่า ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่แล้ว แล้วทางฝั่งของท่านประธานจะทำอย่างไร? แม้ว่าในตอนนี้ครอบครัวของประพันธ์ หลังจากถูกท่านประธานเล่นงานไปแบบนั้น จะตัดกำลังหลักที่จะสร้างปัญหาให้ไปได้ไม่น้อย
แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีภัยอันตรายอย่างอื่นอีกล่ะ?
ดลธีลังเลไปพักหนึ่ง สุดท้าย ก่อนที่คุณนายคนนี้จะออกไป ก็ถามขึ้นมา “แล้ว......ในช่วงที่คุณไม่อยู่ ทางฝั่งของท่านประธานมีแผนอย่างไรหรือ?”
“แผนอะไรล่ะ? สภาพจิตใจของเขาในตอนนี้ ต้องเลิกสนใจเขาไปก่อน ให้เขาได้ตระหนักถึงความผิดของตัวเอง มีคนตั้งมากมายยอมเสียสละอะไรตั้งมากมาย เพื่อปกป้องชีวิตของเขาไว้ บางคนถึงขั้นทิ้งชีวิตตัวเองอย่างไม่เสียดาย เขามีสิทธิ์อะไรมาเหยียบย่ำมัน?”
เมื่อเส้นหมี่พูดถึงประเด็นนี้ จนถึงตอนนี้ ความโกรธมากมายก็ยังไม่ลดลง
ใช่แล้ว นี่คือเหตุผลที่เธอคิดจะจากที่นี่ไปอย่างกะทันหัน!
ดลธี “......”
หลายวินาทีผ่านไป เขาตกใจยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออกอยู่ตรงนั้น
“หรือไม่ เขาไม่ได้มีบุคลิกแยกมาตั้งแต่แรก เขาแสร้งทำมาตลอด ด้านนอกนั้นยังมีคนของเขาอยู่ เช่นกาวินที่ยังตัวไม่พบจนตอนนี้ หรือไม่ บุลคิกนี้ของเขามีแผนการแก้แค้นทั้งหมด และในแผนการนั้น รวมถึงการสนับสนุนด้านทรัพย์สินและข้อมูลทั้งหมดจากตัวตนจริง เช่นบัญชีทางการเงินของเขา”
เส้นหมี่วิเคราะห์อีกครั้ง
และในตอนที่เธอพูดถึงความเป็นไปได้อย่างที่หนึ่ง เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ก็กำกระเป๋าสัมภาระแน่นจนข้อต่อบนนิ้วมือเริ่มค่อยๆขาวขึ้น
เมื่อดลธีเห็นดังนั้น ก็รีบปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ทันที
“อย่างที่หนึ่งไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ถ้าหากเป็นการแสร้งทำ ด้วยความเข้าใจที่ท่านประธานมีต่อคุณ จะต้องจับได้ตั้งแต่แรกแล้ว และเขาไม่มีทางปล่อยให้คุณอยู่ที่เดอะซีวิวต่อแน่ ที่ที่อันตรายขนาดนั้น”
“หมายความว่าอย่างไร?”
คำพูดนี้ เส้นหมี่กลับฟังแล้วไม่เข้าใจ
ดลธีจึงต้องอธิบายอย่างละเอียดอีกครั้ง “เพราะว่าท่านประธานไม่มีทางให้คุณตกอยู่ในอันตราย คุณลืมเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาทำทุกวิถีทางเพื่อต้องการหย่ากับคุณไปแล้วหรือ?”
เส้นหมี่ “......”
ในที่สุด เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
นั่นสิ ตอนนั้น เพื่อไม่ให้เธอเข้ามาพัวพันในสงครามตระกูลเทวเทพ เขาก็คิดหาทุกวิถีทางเพื่อให้เธออยู่ห่างจากเขาทันทีเลยไม่ใช่หรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก