“แค่คนบ้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องเสียใจไปหรอกครับ ในโลกนี้ยังมีผู้ชายดีๆอีกเยอะ”
ปาเวซเมื่อเห็นฉากนี้ เพียงพริบตาเดียว หางตาของเขาก็เกิดความเศร้าหมองอย่างโหดเหี้ยมสายหนึ่ง
เพราะเขาเห็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเห็น
แต่ในที่สุด เขาก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม มีความสุขสบายอันอ่อนโยนเฉกเช่นปกติ เขายกกาน้ำชาขึ้น แล้วรินน้ำชาที่กำลังเดือดพล่านแก้วหนึ่งให้แก่หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
เส้นหมี่ยังคงดูคลิปนี้อย่างเซื่องซึม
จนกระทั่งเมื่อถูกพาตัวออกไป จิตใจของเธอยังคงงงงวย ประหนึ่งหุ่นที่ทำจิตวิญญาณหายไป
“คุณชายครับ คุณว่าแสนรักนี้ ไม่สนใจการตายของเธอจริงๆหรือครับ? เช่นนั้นแผนการแรกเริ่มของเรามิกลายเป็นสูญเปล่าหรือครับ? เขาเย็นชาออกปานนี้ จะทำยังไงให้เขากลายเป็นบ้าแล้วฆ่าคนละครับ?”
หลังจากเห็นว่าเธอออกไปแล้ว ผู้ที่นำโทรศัพท์มือถือมาให้ จึงรีบถามเมื่ออยู่ในศาลา
ปาเวซวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะดัง “เปรี้ยง”!
“งั้นก็ปล่อยมันไปก่อน นายโทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลนั่น บอกพวกเขาไปว่า ‘หมอคิตตี้’สามารถตายได้แล้ว”
“หา?”
ผู้ที่ส่งโทรศัพท์มือถือครั้นได้ยิน ก็อ้าปากค้างทันที
ให้หมอคิตตี้ปลอมตาย?
งั้น.....ผู้หญิงคนนี้ละ? คนนี้เป็นถึงหมอคิตตี้ตัวจริง ถ้าหาก”เธอ”ที่อยู่โรงพยาบาลตายไป แล้วภายภาคหน้าเธอจะออกมาได้อย่างไร?
คนผู้นี้คิดว่าตนฟังผิดไป
“คุณชายครับ ความหมายของคุณคือ?”
“จองตั๋วเครื่องบินไปเมืองMให้เธอใบหนึ่ง นี่เป็นตัวตนใหม่ของเธอ”
ไม่คาดคิดมาก่อน คุณนายน้อยของพวกเขา ยื่นบัตรประชาชนชุดใหม่ให้แก่เขาโดยตรง ให้เขาไปช่วยเธอจองตั๋วเครื่องบิน
ดังนั้น ความหมายของเขา คือต้องการให้หญิงสาวผู้นี้แปลงโฉม เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งหรือ?
คนผู้นี้รับสิ่งของเหล่านี้มาอย่างลังเล
“ใช่แล้ว ใส่ยาให้เธอหน่อย ทำให้ตอนเธอไปเชื่อฟังหน่อย อย่าให้ไปก่อเรื่องที่สนามบินได้”
ปาเวซเตือนอีก
คนผู้นี้ : “……”
แม้ว่าจะอยู่กับคุณนายน้อยผู้นี้มาหลายปี เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขายังเย็นวาบไปทั้งหลัง
นี่เขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันจนเขาไม่รู้จักได้อย่างไร?
เมื่อไชยันต์มาถึงไวท์ พาเลซ ภาพพายุฝนฟ้าคะนองในที่สุดก็มาถึง มันช่างเหมือนกับภาพยนตร์แห่งความหายนะ เพียงแค่เวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง ทั่วทั้งไวท์ พาเลซก็วุ่นวายจนกลายเป็นกลุ่มก้อน
“เกิดอะไรขึ้น?”
ไชยันต์เมื่อเข้าไปเห็น จึงสุ่มจับคนผู้หนึ่งพลางถาม
“หือ? ที่แท้คือท่านจอมพลนี่เอง” คนผู้นี้ก็ร้อนรนด้วยเช่นกัน หลังจากเห็นชัดเจนแล้วว่าเป็นไชยันต์ จึงหยุด
“ท่านจอมพลครับ ท่านยังไม่ทราบใช่ไหมครับ พวกผมทั้งหมดต่างถูกควบคุมหมดแล้ว มีคนส่งคนที่ฝังไมโครชิพในสมองของพวกผมมาอยู่ใกล้ๆ เพื่อจับตาดูทุกพฤติกรรมของพวกผม ตอนนี้ทุกคนต่างวุ่นวายไปหมดแล้วครับ”
หัวข้อที่น่าตกตะลึงขึ้นมาทีละอันทีละอัน จนแทบจะพิฆาตทุกหน้าในอินเตอร์เนต
แต่ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคือ เมื่อพวกเขาคลิ๊กไปที่หัวข้อหนึ่งในนั้น เปิดออกดู ก็พบรูปภาพที่น่าตกตะลึงหลายภาพ รูปเหล่านี้นอกจากจะมีรูปไมโครชิพที่มีความคมชัดสูงแล้ว
ยังมีใบหนึ่ง เป็นรูปคนผู้หนึ่งถูกถ่ายที่ห้องผ่าตัด
“นี่มันอะไรกัน? เป็นใครที่โพสต์เรื่องบ้าๆบอๆนี่ในอินเตอร์เนต?” ไชยันต์เมื่อดูจบ ทั้งตกใจทั้งโมโหจนเส้นเลือดที่หน้าผากแทบจะระเบิดออกมา
แม้ว่าเขากับไวท์ พาเลซจะไม่ลงรอยกัน แต่หากเกี่ยวกับผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองแล้ว เขายังคงเลือกที่จะทำให้ประเทศชาติมีเสถียรภาพเป็นอันดับแรก
แต่ว่า ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นฝีมือของใคร
ไม่เพียงเท่านี้ เรื่องนี้ยังไม่ทันสงบลง ในอินเตอร์เนตก็มีข่าวใหม่ขึ้นมาอีกทันที เพียงแต่ครั้งนี้ มีรายชื่อหนึ่งขึ้นมาด้วย
[เน็ตดอทเรน : ศักดา? เขาบอกว่าคนฝังไมโครชิพได้มาจากคนของเขา”]
[หมูบีบี๊ : ศักดาคือใคร? แม่งเอ๊ย คงไม่ใช่ศักดาคนนั้นที่เราคิดนะ?]
[ฮาร์ทบิต] : ฉันคิดว่าใช่นะ!]
เมื่อประโยคหนึ่งโผล่มา ทั้งเว่ยป๋อก็สะเทือน
ศักดาชื่อนี้ ชื่อเดียวกันนั้นมีมากมาย แต่ที่ตรงนี้เอ่ยถึงสองคำว่า “อำนาจทางการเมือง” ก็อดไม่ได้ที่จะไม่คิดโยงไปถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงท่านนั้น
แต่บุคคลผู้นี้ ไม่นานก่อนหน้านี้เพิ่งเสียชีวิตไป
บนอินเตอร์เนตเริ่มหลั่งไหลไปด้วยความตื่นเต้น พวกเขาทางหนึ่งดูข่าวใหญ่ที่น่าตกตะลึงนี้ ทางหนึ่งบางคนที่มีทักษะที่ดีเลิศ ก็เริ่มขุดคุ้ยคนผู้นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก