อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 1070

กู้ชูหน่วนแปลงโฉมเป็นหญิงชราผมขาวผู้หนึ่ง ลงมาจากภูเขาได้สำเร็จจากการช่วยเหลือของเจี่ยงเสวีย

ทุกหนทุกแห่งในพระนครอันกว้างใหญ่ล้วนเต็มไปด้วยภาพประกาศจับของนาง

พรรคใหญ่ทุกพรรคส่งลูกศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดออกมา ตามหานางทั่วทั้งท้องถนน แต่ละคนประกาศว่าต้องการจะกำจัดนาง

กู้ชูหน่วนบุ้ยปาก

ก่อนหน้านี้ไม่นานนางยังเป็นราชาแห่งการควบคุมสัตว์ที่ทุกคนล้วนปรารถนาจะแย่งชิงกันอยู่เลย

แต่ตอนนี้นางกลับเป็นนังปีศาจที่มีวิชามนต์ดำที่ทุกคนร่ำร้องจะโจมตี

ชะตากรรมเช่นนี้ มันช่างทิ่มแทงใจมากซะจริงๆ

ไม่มีร่องรอยของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเจ้าเสือน้อย

แม้แต่เซียวหยู่เซวียนก็หาไม่พบ

ในใจของกู้ชูหน่วนมีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก

ในยามดึก นางคลำทางไปทางตระกูลมู่

หน้าประตูของตระกูลมู่มีคนซุ่มโจมตีอยู่หลายกลุ่ม

นางตีลูกศิษย์หนึ่งในนั้นที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกศิษย์ของพรรคไหนสลบไป ปลอมตัวแปลงโฉมเป็นเขา ปะปนเข้าไปในฝูงชนที่ซุ่มโจมตี

“ทุกคนกระปรี้กระเปร่าหน่อย นังปีศาจนั่นเจ้าเล่ห์เพทุบาย บางทีอาจจะลงเขากลับมาที่จวนมู่นานแล้วก็ได้ หากจับนางได้ นั้นก็เป็นความสำเร็จชิ้นใหญ่” คนที่เป็นผู้นำกล่าว

ศิษย์คนหนึ่งที่อยู่ถัดจากกู้ชูหน่วนพูดพึมพำ “หัวหน้า ท่านพูดแบบนี้ทุกวัน แต่นี่ผ่านไปสิบเอ็ดวันแล้ว พวกเราก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา จากที่ข้าดู นางยังอยู่บนเขาเป็นแน่”

“ใช่ พรรคใหญ่ทุกพรรคทั่วโลกและเหล่าขุนนางกำลังประกาศจับนางอยู่ นางก็ไม่ได้โง่สักหน่อย จะกล้าออกมาได้อย่างไร แล้วจะกลับมาที่ตระกูลมู่ได้อย่างไรกัน”

“ถึงแม้ว่านางจะออกมา ลูกศิษย์มากมายขนาดนั้นของพรรคต่างๆที่ซุ่มโจมตีอยู่ที่ตีนเขาจะไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิดได้อย่างไร พวกเราซุ่มตัวอยู่ที่นี่ ก็คือการเปลืองแรงเปล่า”

“ข้าว่าทำไมพวกเจ้าถึงได้เพ้อเจ้อได้มากมายขนาดนี้ แม้ว่าจะเปลืองแรงเปล่าก็ต้องเฝ้า ใครบอกประมุขพรรคของพวกเราสั่งให้พวกเราเฝ้าไว้ไม่ให้คลาดไปแม้แต่นิดเดียวล่ะ”

“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว สิบเอ็ดวันมานี่ข้าไม่ได้หลับดีสักตื่นเดียว”

“ข้าก็กลัดกลุ้มใจ สิบเอ็ดวันก่อนภรรยาข้าเพิ่งจะคลอดลูก จนถึงตอนนี้แม้แต่เงาของลูกข้าก็ยังไม่ได้เห็น ก็ไม่รู้ว่าเขาจะหน้าตาเหมือนข้าหรือว่าแม่ของเขา อยากรีบกลับบ้านซะจริงๆ”

“เห้อ เฝ้าไปเถอะ รอให้จับนางได้ พวกเราก็สบายแล้ว”

กู้ชูหน่วนฟังคำพูดทุกอย่างของพวกเขา นางกระทุ้งคนข้างๆ กุมท้องขมวดคิ้ว “ข้าปวดท้องจะตายอยู่แล้ว ไปหาที่ปลดทุกข์ก่อน เจ้าช่วยข้าดูไว้ก่อน”

“เจ้าเพิ่งไปปลดทุกข์มาไม่ใช่เหรอ? ทำไปถึงไปอีกแล้วล่ะ?”

“ท้องเสียกลั้นไม่ได้นี่ อาจเป็นเพราะตอนกลางวันกินอะไรผิดไปน่ะ”

“รีบไปรีบไป”

“ได้เลย”

กู้ชูหน่วนคลำทางจากไปในความมืด

เพราะสถานที่ที่พวกเขาซุ่มโจมตีอยู่ชั้นในสุด เพียงแค่ปีนกำแพงก็สามารถเข้าไปที่จวนมู่ได้แล้ว

นางไม่รู้ว่าในจวนมู่มีคนซุ่มอยู่หรือไม่

แต่นางก็อดเป็นห่วงพ่อของตัวเองไม่ได้

แม้ว่าจะเป็นอันตรายเพียงใด นางก็ต้องเข้าไปดู

นอกกำแพง

กู้ชูหน่วนได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ

ร่างกายของนางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ลางสังหรณ์ไม่ดีหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

ลมกลางคืนพัดโชย กลิ่นคาวเลือดก็รุนแรงขึ้น

นางพลิกตัวเข้าไปในกำแพง วิ่งไปในทิศทางที่คุ้นเคย ร่างกายเบาราวกับลมสายหนึ่ง

แม้ว่าจวนมู่จะไม่ใหญ่ แต่ก็ยังมีคนรับใช้

แต่วันนี้จวนมู่กลับไม่มีคนรับใช้สักคนเดียว

ในนี้ไม่มีคนซุ่มอยู่

เดินไปทางห้องโถงหลัก กลิ่นคาวเลือดหนาแน่นจนทำให้นางอยากอ้วกออกมา

เลี้ยวผ่านตรงหัวมุมทางหนึ่ง

ในที่สุดนางก็เห็นผู้คนแล้ว

แต่ตรงนั้นทุกคนล้วนเป็นคนที่ตายแล้ว

คนที่ตายล้วนเป็นคนรับใช้ของจวนมู่ เกลื่อนกลาดไร้ระเบียบ ทุกคนล้วนถูกปาดคอ ตายอย่างน่าอนาถตรงนั้น เลือดไหลนองเต็มทางเดิน

ร่างกายของกู้ชูหน่วนโซเซเล็กน้อย แทบจะล้มลง เหมือนจะคิดอะไรได้ สีหน้าของนางซีดขาวทันที ถอนเท้าแล้ววิ่งไปทางมู่ซิน

ตลอดทางที่ผ่าน มีซากศพมากขึ้นเรื่อยๆ

ศพเหล่านั้นมีทั้งที่นางรู้จัก และที่นางไม่รู้จัก

เส้นเอ็นถูกตัดขาด กระดูกถูกตีจนแตก ก่อนที่พ่อของนางจะพบกับความตายได้เผชิญกับความทุกข์ทรมานอันโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด

สุดท้ายก็เสียเลือดมากเกินไปจนตาย ตายไปทั้งเป็น

เป็นวิธีการที่โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก กู้ชูหน่วนดูด้วยความโกรธจนเบ้าตาแทบจะถลน

ข้างมู่ซิน ยังมีรอยประทับฝ่ามือเลือดอีกผ่ามือหนึ่ง

รอยประทับฝ่ามือเลือดนั้น น่าจะเป็นหลังจากที่เขาตาย ฆาตกรจงใจจับฝ่ามือของเขาไปประทับไว้บนพื้น

“ท่านพ่อ........”

กู้ชูหน่วนกอดร่างของเขาแล้วตะโกนร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่ได้ยินมู่ซินเรียกนางว่ามู่เอ๋อร์ด้วยความรักความเมตตาอีกแล้ว

“ท่านพ่อ.....ท่านฟื้นสิ ท่านจะทิ้งข้าไปไม่ได้ ไม่ง่ายกว่าข้าจะยอมรับท่านเป็นพ่อได้ เป็นใคร.....เป็นใครกันที่โหดเหี้ยมได้เพียงนี้”

ปวดใจ

โกรธเคือง

โศกเศร้า

เกลียดแค้น

รสชาติทุกอย่างพรั่งพรูขึ้นมาในจิตใจ

นางเกลียดแค้นจนแทบอยากจะเชือดเฉือนคนที่สังหารตระกูลมู่ร้อยกว่าชีวิตนี้นับพันหมื่นครั้ง

แต่นางรู้ เบาะแสของเจ้าบ้านมู่ยังไม่กระจ่าง และเบื้องหน้าก็มีเลือดอยู่เต็มพื้น

กู้ชูหน่วนอดกลั้นความเจ็บปวดวางมู่ซินลง พยายามสุดกำลังตามรอยเลือดไปด้านหน้า

แต่ทว่า ภาพเหตุการณ์เบื้องหน้า ก็ทำให้นางเดือดดาลมากขึ้นแล้ว

เจ้าบ้านมู่ถูกสังหารแล้ว

ไม่เพียงแค่ถูกสังหาร แม้แต่ศีรษะก็ถูกตัดแล้ว

บนร่างของเจ้าบ้านมู่มีรอยมีดนับไม่ถ้วน เลือดเนื้อถูกเฉือนออกมาเป็นชิ้นๆ ตกกระจัดกระจายเต็มพื้น

บนตัวของเขาถูกฟันจนแทบจะเหลือแต่กระดูก

หากเป็นคนขี้ขลาดตาขาวมาเห็นเข้า เกรงว่าคงจะเป็นลมไปตรงนั้นแล้ว

แม้ว่าจิตใจของกู้ชูหน่วนจะค่อนข้างแข็งแกร่ง สีหน้าก็ยังซีดเผือดอย่างอดไม่ได้ รูม่านตาขยายใหญ่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม