แดนนิรมิตเทพ นิยาย บท 1564

ให้แม้แต่พวกกรรมการตัดสินที่อยู่ข้างหลังกู่เยว่เหอ ต่างก็ยังตกตะลึง

ฝีมือของกู่เยว่เหอนั้น เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นที่ยอมรับว่าเป็นที่หนึ่งของวงการปรุงกลั่นยา อีกทั้งสำนักตันจงในหลายปีที่ผ่านมาใช้ทั้งเล่ห์เหลี่ยมและหักยึดด้วยกำลัง รวบรวมทรัพยากรบุคคลจากทั่วทุกทิศ เวลานี้สถานะภาพของสำนักตันจงไม่มีทางที่ใครจะไปเขย่าสะเทือนได้ ให้แม้แต่ทุกสำนักของกลุ่มคณะกรรมการทั้งหมดนี้รวมพลังกัน ก็ไม่มีทางจะไปเทียบบารมีกับสำนักตันจงได้ มาตอนนี้มีเด็กหนุ่มมาจากไหนไม่รู้ ถึงกับกล้ามาเจาะจงท้าประลองกับสำนักตันจง!

นี่เป็นเรื่องสะเทือนขวัญต่อเหล่ากรรมการตัดสินกันทีเดียว

ไม่เพียงแต่คณะกรรมการผู้ตัดสินจะสะเทือนขวัญ แม้แต่ตัวกู่เยว่เหอเองก็ถึงกับอึ้งงง

กู่เยว่เหอมองไปที่เฉินโม่ หัวเราะเสียงหึ ๆ ขึ้นมา เหมือนกลัวว่าเฉินโม่ยังไม่รู้จักฐานะของเขาดี เลยแนะนำตัวเองไปว่า “ไอ้หนู ข้าคือกู่เยว่เหอเเจ้าสำนักสำนักตันจง เจ้าถึงกับคิดจะท้าดวลกับสำนักตันจงเลยหรือ?”

เฉินโม่ตอบอย่างไม่มีลังเล “ใช่เลย”

รอยยิ้มบนใบหน้ากู่เยว่เหอหายเกลี้ยง ถึงแม้เขามีใจชักชวนดึงเฉินโม่ แต่สำหรับคนที่หาญห้าวมาท้าทายกับศักดิ์ศรีของสำนักตันจง กู่เยว่เหอไม่เคยปรานีออมมือให้

“ได้” กู่เยว่เหอหันตัวกลับ มองไปที่กรรมการตัดสินหลายท่านนั้น พูดว่า “ในเมื่อมีคนมาท้าดวลกับสำนักตันจงของข้า ก็ต้องขอเชิญพวกท่านมาเป็นผู้ดำเนินการเป็นการชั่วคราวก่อน”

“ท่านเจ้าสำนักกู่วางใจได้ พวกเราทั้งหลายจะปฏิบัติอย่างเต็มกำลังความสามารถ!” กลุ่มกรรมการพวกนั้นตอบรับอย่างนอบน้อมแข็งขัน

กู่เยว่เหอหันกลับอีกทีมองหน้าเฉินโม่ ผายมือออกในท่าเชื้อเชิญ พูดว่า “เชิญได้!”

ที่ข้างล่างเวที กู่หลานมีสีหน้าอึมครึมอย่างที่สุด “เจ้าบัดซบนี่ถึงกับกล้าท้าทายสำนักตันจง ของข้า ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!”

เย่ซูซูก็พูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ฉันก็ว่าคน ๆ นี้ดูแปลก ๆ ตอนนี้คิดได้เลยว่าที่ฉันสังหรณ์ใจนั้นถูกต้องแล้ว เป้าประสงค์ของเขาไม่ได้อยู่ที่งานแลกเปลี่ยนทักษะ แต่เป็นสำนักตันจง!”

“สำนักยาเซียน จะมาแก้แค้นกับพวกเราแล้ว!” เย่ซูซูพูดด้วยน้ำเสียงหวั่นหวาด

ถึงตอนนี้กู่หลานไม่กล้าชะล่าใจแล้ว มองมาที่เย่ซูซู พูดด้วยความสงสัยว่า “ด้วยกำลังของสำนักยาเซียน สำนักตันจงของพวกเราไม่เห็นต้องไปใส่ใจเลย และฉันก็เชื่อว่าสำนักยาเซียนอย่างพวกเขาก็คงไม่โง่ถึงขนาดนี้ สู้อุตส่าห์แส่มาหาความอัปยศถึงในงานแลกเปลี่ยนทักษะนี้ พวกมันไม่มีทางที่จะแก้แค้นกับพวกเราสำนักตันจงได้เลย!”

มู่เจิ้งเฟิงตอนแรกก็คิดว่าจะรอดูจังหวะอีกสักพัก แต่ไม่คิดว่าเฉินโม่กลับพรวดพราดตรงขึ้นไปหากู่เยว่เหอแล้ว เขาก็เลยจำต้องตามขึ้นไป

พอเห็นมู่เจิ้งเฟิงยืนเข้ามาข้าง ๆ เฉินโม่ กู่เยว่เหอก็เข้าใจได้ทันที สีหน้าอึมครึมลงไปในฉับพลัน

“กู่เยว่เหอ ไม่ได้พบกันนานแล้วนะ!” มู่เจิ้งเฟิงพูดสีหน้าเคร่งขรึม

“ที่แท้เป็นคนของสำนักยาเซียน มิน่าถึงได้เก่งกาจขนาดนี้!” กู่เยว่เหอพูดด้วยยิ้มเยือก 

“ว่ามาเลย พวกแกสำนักยาเซียนมุ่งมั่นตั้งใจมาฝ่าสามด่าน คิดจะทำอะไรหรือ?” กู่เยว่เหอถามไปอย่างเย้ยเยาะด้วยรอยยิ้มเหยียด ๆ

มู่เจิ้งเฟิงสะบัดเสียงฮึออกจมูก “แกนี่มันรู้แล้วแกล้งถามใช่มั้ย?เอาคัมภีร์เซียนยาคืนพวกเรามา!”

กู่เยว่เหอหัวเราะเหยียด ๆ พูดว่า “จะมาเอาคัมภีร์เซียนยาคืน คงต้องใช้ฝีมือมาเอา ถ้าหากแกเอาชนะสำนักตันจงของข้าได้ ข้าก็จะคืนคัมภีร์เซียนยาให้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ