“เสี่ยวหยู ขอยืมเงินของเธอก่อน รอพี่พลิกเอาทุนกลับคืนมาแล้วจะคืนให้เธอทันที!” ฉีหมิงซานมองฉีเยว่หยูด้วยสีหน้าร้อนใจ
ฉีเยว่หยูส่ายศีรษะด้วยสีหน้ากังวล “พี่ ฟังคำเตือนของฉันเถอะ อย่าเดิมพันอีกเลย!”
“เธอวางใจเถอะ ถ้าพี่ได้เงินที่เสียไปกลับคืนมาแล้ว พวกเราจะไปทันที!” ฉีหมิงซานสาบานด้วยความจริงใจ
“พี่.......” ฉีเยว่หยูยังอยากจะโน้มน้าว แต่ถูกขัดจังหวะจากเสียงตะโกนด้วยความโมโหของฉีหมิงซาน “เอามา!”
เมื่อเห็นฉีหมิงซานยื่นมือออกมา ฉีเยว่หยูกัดริมฝีปากเบา ๆ แต่ไม่ขยับเขยื้อน
หวางเส้าหยู่กล่าวเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณชายฉี ตอนนี้คุณไม่สามารถควบคุมได้แม้แต่น้องสาว เกรงว่าต่อไปธุรกิจของตระกูล คงจะไม่มีส่วนแบ่งของคุณเลย!”
สีหน้าของฉีหมิงซานเคร่งขรึม สายตาที่มองฉีเยว่หยูมีความโกรธเล็กน้อย และกล่าวเสียงดังว่า “ฉีเยว่หยู เอาบัตรธนาคารของเธอมาให้พี่เดี๋ยวนี้!”
ฉีเยว่หยูรู้สึกโมโหและมองหวางเส้าหยู่ที่แสดงสีหน้ารู้สึกมีความสุขกับความโชคร้ายของคนอื่น แล้วหันไปมองฉีหมิงซานที่บ้าคลั่งไปแล้ว เธอทำได้เพียงแอบถอนหายใจ แล้วยื่นบัตรธนาคารให้พี่ชาย
“พี่ เห็นได้ชัดว่าหวางเส้าหยู่เจตนายั่วยุพี่ พี่ต้องคิดด้วยความรอบคอบ!”
ฉีหมิงซานไม่ยอมรับฟัง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พี่รู้ว่าเขากำลังยั่วยุพี่ แต่พี่รู้อย่างชัดเจนว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่!”
“หวางเส้าหยู่ เดิมพันอีกเกม!”
ฉีหมิงซานไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้อีกต่อไป เพราะการพนันนั้น ยิ่งร้อนอกร้อนใจที่จะพลิกเอาทุนคืน ก็ยิ่งมีโอกาสเสียมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าขาดสติ แล้วจะไม่แพ้ได้อย่างไร?
เขาเสียเงินที่ได้รับจากฉีเยว่หยูไปอย่างรวดเร็ว หลังจากคำนวณแล้ว ฉีหมิงซานเสียเงินพนันไปสิบกว่าล้าน
ตัวเลขนี้ แม้แต่พ่อของฉีหมิงซานก็ยังรู้สึกเจ็บปวด
หวางเส้าหยู่หัวเราะด้วยความลำพองใจ “คุณชายฉี จะเดิมพันไหม?”
เธอเหลือบมองเฉินโม่ที่กำลังนั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนอย่างเงียบ ๆ มู่หรงยานเอ๋อร์แนบลำตัวไปอยู่ข้างหูฉีเยว่หยู เตือนเบา ๆ ว่า “ฉันไม่สามารถช่วยพี่ชายของคุณได้ แต่มีบุคคลหนึ่งทำได้ แต่ฉันไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะยอมช่วยพวกคุณไหม?!”
ฉีเยว่หยูรู้สึกดีใจมากแล้วรีบถามว่า “ใครเหรอ?”
มู่หรงยานเอ๋อร์กระซิบว่า “เฉินโม่!”
“เฉินโม่!” ฉีเยว่หยูตกตะลึงชั่วขณะ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย มองมู่หรงยานเอ๋อร์ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เฉินโม่สามารถช่วยพี่ชายของฉันได้จริงหรือ?”
มู่หรงยานเอ๋อร์พยักหน้ายืนยัน “ขอเพียงแค่เขาอยากช่วย ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้!”
สำหรับมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว เฉินโม่เกือบจะเป็นเทพเจ้าแล้ว!
เมื่อเห็นมู่หรงยานเอ๋อร์มั่นใจในตัวเฉินโม่มากขนาดนี้ ทำให้ฉีเยว่หยูเกิดความรู้สึกเชื่อมั่นเล็กน้อย เธอรู้สึกมานานแล้วว่าเฉินโม่มีบางอย่างที่เธอไม่สามารถมองทะลุได้ บางทีเฉินโม่อาจจะมีความสามารถเช่นนั้นจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...