ตามแผนที่คนพวกนี้วางไว้ ไปปิกนิกที่เขาเฟยหม่าของชานเมืองอู่โจวก่อน ไปจัดงานฉลองปิ้งย่างด้านนอก จากนั้นค่อยไปร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับหยางเชี่ยนเชี่ยนที่คาราโอเกะ
รู้แผนการวันนี้ของคนพวกนี้ เฉินโม่อยากจะหัวเราะ ตอนนี้กำลังตรงกับกลางฤดูหนาวพอดี แม้ว่าเมืองอู่โจวจะอยู่ชิดกับทางตอนใต้ แต่ก็ยังหนาวพอสมควร คนพวกนี้ว่างขนาดนั้นเชียว ถึงได้ขึ้นเขาไปปิกนิกกันกลางฤดูหนาว
เห็นชัดว่าเป็นพวกวัยรุ่นอวดเก่งที่ไม่รู้จักลำบากกันทั้งนั้น!
อาจจะเป็นเพราะปิดเทอมวันแรก คนพวกนี้ตื่นเต้นกันเกินไป เสียงเพลงบนรถของทั้งสามคันต่างก็เปิดเสียงจนสุด บวกกับคุณภาพเสียงของรถหรูก็ดีด้วย ทางที่รถทั้งสามคันขับผ่าน ก็เหมือนกับเวทีคอนเสิร์ตสามเวทีที่เคลื่อนที่ได้อย่างนั้นแหละ
ดีที่ทางที่พวกเขาขับผ่านเป็นทางชานเมือง ไม่ค่อยมีคน ไม่งั้นต้องเป็นการรบกวนประชาชนแน่!
เฉินโม่นั่งอยู่บนอาวดี้ที่สือหยางเป็นคนขับ เห็นได้ชัดว่าทักษะการขับรถของเจ้าหมอนี้จะดีที่สุดในคนพวกนี้ ไม่นาน ก็ขับแซงพอร์เชอที่จางเสี่ยนกำลังขับอยู่ ชิงอันดับที่หนึ่งไป
ข้างที่นั่งคนขับมีผู้หญิงที่รูปร่างไม่เลว ย้อมผมสีเหลือง ตื่นเต้นจนยกไม้ยกมือขึ้น: "พี่หยางเท่มาก เร็วขึ้นอีก นานแล้วที่ไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนี้!"
ได้รับการกระตุ้นจากผู้หญิง สือหยางสะบัดผมแสกข้างที่พลิ้วไสว เหยียบคันเร่งลงไปจนสุด
และเพื่อที่จะโชว์ทักษะการขับ เอามือออกจากพวงมาลัยรถอยู่บ่อยๆ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นตะโกนตกใจออกมา
เฉินโม่ส่ายหัวในใจ: "วัยรุ่น ไม่รู้จักตายจริงๆ ความเร็วในตอนนี้ คิดว่าคงจะอยู่ที่ร้อยแปดสิบแล้ว ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เกรงว่าคงจะรถพังคนตายแน่นอน! ถึงแม้รถจะหรูแค่ไหน ความเร็วขึ้นไปที่ร้อยแปดสิบ ก็พังเหมือนกระดาษที่ถูกยับเหมือนกันนั่นแหละ"
เฉินโม่ถึงกับแอบใช้พลังทิพย์ เมื่อใดที่อุบัติเหตุเกิดขึ้น จะโดดหนีออกจากรถทันที ในคนพวกนี้ นอกจากอานเข่อเยว่และมู่หรงยานเอ๋อร์แล้ว ความเป็นความตายของคนอื่น เขาไม่สนใจทั้งนั้น
ไม่นานรถก็ขับออกถนนชานเมือง ความเร็วรถของแต่ละคันก็ลดช้าลง เข้าสู่ถนนที่ไม่ค่อยกว้างของเส้นถนนอำเภอ
อาวดี้RS6คันนี้ เขาขอร้องพ่ออย่างยาวนานถึงจะซื้อให้ เสียไปเกือบสองล้าน นี่พึ่งจะขับออกมาโชว์ตัวได้ไม่นาน ก็ชนเข้าซะแล้ว
คนขับรถของรถPassatคันข้างหน้าก็เปิดประตูรถลงรถมา เป็นคนหัวเกรียนที่คิ้วหนาตาโตคนหนึ่ง ดูร่างกายแล้วแข็งแรงกำยำ สือหยางที่ยื่นอยู่ตรงหน้าเขา ก็เหมือนกับเด็กนักเรียนน้อยอย่างนั้นแหละ
แต่ว่า สือหยางกลับไม่สนใจพวกนี้ เปิดปากด่าทันที: "ไอ่เวรมึงขับรถเป็นรึเปล่าเนี่ย? ที่มึงทำเนี่ยเขาเรียกว่าหยุดผิดกฎมึงรู้ไหม? ดูดิว่าชนจนรถกูเป็นยังไง!"
วัยรุ่นหัวเกรียนคนนี้มองไปที่สือหยางด้วยความเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่หน้าประตูหลัง ก้มหัวด้วยความเคารพ
กระจกที่นั่งเบาะหลังค่อยๆลดลง คนที่ไว้ทรงผมปาดหลัง ผมสว่างมันเงา ชายวัยกลางคนที่บนหน้ามีกล้ามเนื้อที่ดูโหดเหี้ยมยื่นหัวออกมา ถามด้วยเสียงต่ำ: "เกิดอะไรขึ้น?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ
แปลต่อหน่อยครับ...
อ่านต่อไม่ได้เลย...
เงียบสนิท...
ตั้งแต่ตอน1299ถึง1420ไม่มีเลยค่ะตอนขาดหายไปเลย ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทให้ถึงตอนจบด้วยนะคะ😭...
ไม่เขียนต่อแล้วหรือครับ...