ฟิว....
ตอนนี้ผมกำลังพาใบบัวกับลูกกลับบ้านหลังจากที่ผมทำมึนรั้งใบบัวเอาไว้ที่บ้านพักหัวหินถึงสามวันสามคืนไม่ยอมพาเธอกลับบ้านและสามวันสามคืนที่ผ่านมาไม่มีคืนไหนที่จะปล่อยให้มันสูญเปล่าผมจัดหนักจัดเต็มทุกคืนไม่เว้นแม้แต่ตอนกลางวันอาศัยช่วงที่ลูกนอนผมรีบพาใบบัวเข้าห้องมาทำกิจกรรมเข้าจังหวะทันทีแม้ว่าเธอจะขัดขืนเพราะกลัวลูกจะตื่นมาได้ยินแต่ผมก็มีวิธีทำให้เธอยอมผมจนได้จากท่าทีขัดขืนในตอนแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางในที่สุด ไม่ต้องถามว่าผมมีความสุขมากแค่ไหนบอกเลยว่าผมโคตรมีความสุข ยิ่งเวลาที่ได้เห็นลูกหัวเราะชอบใจเวลาที่ผมพาแกลงไปเล่นน้ำทะเล ตื่นเช้ามาแกจะต้องมาเคาะห้องปลุกผมให้พาลงเล่นน้ำจนผมโดนใบบัวบ่นเพราะเธอกลัวฟ้าครามจะไม่สบายผมก็เข้าใจนะว่าเธอเป็นห่วงลูกซึ่งผมเองก็ห่วงลูกเหมือนกันผมก็เลยบอกว่าจะให้แกเล่นแค่แป๊บเดียวพอเริ่มมีแดดผมจะพาลูกขึ้นมาทันทีใบบัวก็เลยยอม ในตอนแรกฟ้าครามไม่กล้าที่จะลงไปกับผมแกเล่นอยู่แค่ตรงชายหาดตรงน้ำตื้นๆพอคลื่นมาแกก็จะวิ่งหนีทันทีผมเพิ่งรู้ว่าแกว่ายน้ำไม่เป็นผมก็เลยคิดที่จะสอนลูกให้ว่ายน้ำเป็นผมถามลูกว่าอยากว่ายน้ำเป็นไหมลูกก็พยักหน้าตกลงทันที แต่ยังไม่ทันไรแกก็ร้องไห้จ้ากอดคอผมแน่นเพราะกลัวจมน้ำผมกอดลูกที่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อแกรู้ว่าตอนนี้ผมได้พาแกออกมาไกลจากฝั่ง ผมปลอบลูกว่าไม่ต้องกลัวลุงจะปกป้องดูแลหนูเองแกก็มองหน้าผมทั้งน้ำตาผมยิ้มให้ลูกพร้อมกับหอมแก้มตุ้ยนุ้ยนั้นอย่างแสนรัก
" ฮึก ฮึก ผมกลัวจังเลยค๊าบ ฮึก ฮึก คุณลุงจะไม่ปล่อยให้ผมจมใช่ไหมค๊าบ ฮึก ฮึก" แกถามผมเสียงสั่นสะอื้นอย่างน่าสงสาร
"ลุงจะปกป้องดูแลฟ้าครามด้วยชีวิตของลุงไม่ต้องกลัวนะครับลูก"
หลังจากนั้นแกก็เริ่มที่จะหัดว่ายน้ำตามที่ผมสอนไม่นานแกก็เริ่มที่จะลอยตัวในน้ำได้ แกหัวไวมากสอนแป๊บๆก็พอจะเข้าใจแม้จะยังไม่คล่องแต่ก็เป็นที่น่าพอใจ
"เรากำลังจะไปไหนกันเหรอค๊าบคุณลุง" ฟ้าครามถามผมขณะที่ผมอุ้มแกขึ้นมานั่งที่คาร์ซีทด้านหลังที่ผมสั่งให้คนของผมไปซื้อมาให้เพราะผมสงสารใบบัวที่ต้องเอาลูกนั่งตักตลอดทางผมกลัวเธอจะปวดขาเพราะฟ้าครามตัวโตมากแม้จะอายุแค่สามขวบกว่าซึ่งอีกไม่กี่วันเดือนก็จะสี่ขวบแล้ว
"กลับบ้านเรากันไงครับ" พอผมตอบออกไปแบบนั้นทั้งแม่ทั้งลูกก็ต่างมองผมด้วยสายที่แตกต่างกัน ใบบัวแม้ว่าเธอจะยอมมีอะไรกับผมแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอให้อภัยผม พออยู่ในเวลาปกติเธอก็จะมึนตึงเฉยชากับผมเหมือนเดิมไม่เหมือนกับตอนที่เรามีอะไรกันบนเตียงในตอนนั้นเธอเป็นใบบัวคนเดิมของผมใบบัวที่ห้วอ่อนว่านอนสอนง่ายไม่ดื้อแบบในตอนนี้ เธอตอนนั้นกับเธอตอนนี้ต่างกันราวกับคนละคน
"บ้านของเราเหรอค๊าบ บ้านของผมกับแม่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์นะค๊าบคุณลุงจะขับรถไปเหรอไม่ขึ้นเครื่องบินไปเหรอค๊าบ" ฟ้าครามถ้าอย่างพาซื่อผมรู้ว่าแกคงไม่เข้าใจคำว่าบ้านของเราเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาแกจะอยู่กับใบบัวแค่สองคนบ้านของเราที่แกเข้าใจก็คงจะหมายถึงบ้านที่แกเคยอยู่กับแม่มาตั้งแต่เกิด
"เอ่อออ ลุงหมายถึงบ้านของลุงครับ"
หลังจากนั้นผมก็ขับรถพาทั้งสองคนแม่ลูกกลับมาถึงที่บ้านอย่างปลอดภัย ผมคงจะขับรถนิ่มมากจนทำให้สองคนแม่ลูกหลับสนิทมาตลอดทางขนาดผมจอดรถนานแล้วทั้งสองคนก็ยังไม่ยอมตื่นบอกเลยว่าผมไม่เคยขับรถช้าและระมัดระวังขนาดนี้มาก่อนแต่ครั้งนี้ผมต้องขับอย่างมีสมาธิเพราะคนที่ผมรักทั้งสองคนนั่งอยู่บนรถด้วยผมห่วงถึงความปลอดภัยของคนที่ผมรักทั้งสองคนทั้งลูกทั้งเมีย ผมจอดรถแต่ยังไม่ได้ปลุกทั้งสองคนผมยิ้มให้กับภาพตรงหน้าอย่างมีความสุข ลูกกับเมียของผมที่ต่อไปนี้ผมจะต้องดูแลพวกเขาตลอดชีวิต ผมอุ้มฟ้าครามขึ้นไปนอนที่ห้องนอนของข้าวปั้นข้าวฟ่างที่ตอนนี้ทั้งคู่ไม่อยู่เพราะไอ้เตอร์ส่งลูกมันไปเรียนต่อต่างประเทศทั้งคู่รวมถึงสองแสบด้วยตอนแรกฟ่างไม่ยอมเพราะเธอเป็นห่วงลูกแต่ไอ้เตอร์มันบอกว่ามันอยากหัดให้ลูกมันช่วยเหลือตัวเองเป็นไม่ใช่ทำอะไรก็ไม่เป็นเรียกหาแต่พี่เลี้ยง ซึ่งผมก็เข้าใจนะที่มันอยากให้ลูกขอมันโตเป็นผู้ใหญ่และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่หรือคนอื่นตลอดเวลา ส่วนฟ้าครามผมก็ไม่รู้ว่าถ้าถึงวันนั้นผมจะใจแข็งยอมให้แกไปอยู่ไกลหูไกลตาได้หรือเปล่าอาจจะเป็นผมที่ร้องไห้ไม่ยอมให้ลูกไปก็ได้
หลังจากอุ้มฟ้าครามขึ้นมานอนเสร็จผมก็อุ้มใบบัวขึ้นมาแต่ผมไม่ได้ให้เธอไปนอนห้องเดียวกับลูกหรอกนะผมพาเธอเข้ามานอนที่ห้องของผมที่ต่อไปนี้มันจะเป็นห้องนอนของเราแทนเพราะตอนนี้ข้าวของๆเธอก็อยู่ในห้องของผมหมดแล้วผมสั่งให้แม่บ้านเอาข้างของของใบบัวขึ้นมาไว้บนห้องของผมก่อนที่ผมจะกลับมา ผมวางใบบัวลงบนเตียงอย่างช้าๆเพราะกลัวเธอจะตื่นแล้วโวยวายไม่ยอมนอนที่นี่ หลังจากนั้นผมก็จัดการห่มผ้าเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่พอเหมาะก่อนจะปิดไฟแล้วพาตัวเองเดินออกมาเพื่อไม้ให้รบกวนการนอนของเธอ
"ง้อเมียสำเร็จไหมลูก" คำถามแรกของพ่อที่ถามผมเมื่อผมเดินเข้ามาหาท่านในห้อง
"ก็...ยังเลยครับใบบัวใจแข็งมาก" ผมตอบพ่ออย่างอ่อนใจ
"แต่พ่อเชื่อว่าความรักที่ฟิวมีให้กับบัวจะทำให้บัวใจอ่อนในสักวัน"
"ครับผมก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นครับพ่อ เอ่อพ่อครับถ้าบัวเข้ามาหาพ่อพ่อจะบอกกับเธอว่ายังไงเรื่องที่พ่อไม่ได้ป่วยจริงๆ"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงพ่อจัดการเองเรามีหน้าที่ง้อเมียก็พอ"
"อื้ม"
"คุณปล่อยให้ลูกเข้าไปเล่นในนั้นได้ยังไงคะคุณท่านป่วยอยู่นะคะถ้าเกิดฟ้าครามไปเล่นซนไปส่งเสียงดัง" ฉันดุคุณฟิวทันทีเพราะกลัวว่าฟ้าครามจะไปรบกวนเวลาการพักผ่อนของคุณปกรณ์เพราะอาการของท่านไม่ค่อยสู้ดี
"พ่อเป็นคนเรียกหลานเข้าไปเล่นเองพี่ไม่ได้พาเข้าไปซะหน่อยและตอนนี้ท่านก็คงกำลังเล่านิทานให้ฟ้าครามฟังอยู่" ฉันยิ่งงงไปกันใหญ่ไหนคนของเขาบอกกับฉันว่าคุณปกรณ์อาการแย่มากพูดไม่ได้ขยับตังไม่ได้แล้วท่านจะมาอ่านนิทานให้ฟ้าครามฟังได้ยังไงกัน
"บัวอยากไปเยี่ยมคุณท่านค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นเพราะตั้งแต่ฉันกลับมาถึงไทยฉันยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการท่านเลย แต่พอฉันจะลุกก็โดนคุณฟิวรั้งตัวเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันลุกไปง่ายๆ เขาขยับตัวขึ้นมาเกยก่ายฉันไว้แล้วก้มลงมาจูบที่แก้มของฉันอย่างถือวิสาสะ
"เดี๋ยวค่อยไปก็ได้น่า ตอนนี้ฉันหิวอีกแล้ว" เขาพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาเว้าวอนสุดๆซึ่งฉันก็พอจะรู้ว่าหิวของเขาในที่นี่หมายถึงอะไรแต่ฉันทำเป็นไม่เข้าใจ
"ถ้าคุณฟิวหิวข้าวก็ลงไปหาอะไรทานสิคะ"
"ไม่ได้หิวข้าวแต่หิว..เมีย" จากนั้นก็ไม่ต้องเดาว่าฉันเจอกับอะไร เขาจับฉันลอกคราบอย่างรวดเร็วแม้ฉันจะปัดป้องแต่ก็สู้แรงของเขาไม่ไหวสุดท้ายฉันก็ต้องยอมเขาเหมือนทุกครั้ง ประโยคที่เขามักจะพูดกับฉันทุกครั้งเวลาที่ฉันขัดขืนก็คือ "ไม่คิดถึงนางฟ้าน้อยเหรอครับ" ประโยคนี้ประโยคเดียวที่ทำให้ฉันยอมใจอ่อนกับเขา
กว่าฉันจะได้ออกมาจากห้องนอนของคุณฟิวก็ค่ำมากแล้ว ฉันเดินมาถึงหน้าห้องของคุณท่านเสียงหัวเราะสดใสของฟ้าครามกับคุณท่านก็ดังลอดออกมา เสียงของคุณท่านที่ฟังดูสดใสไม่เหมือนคนป่วยที่อาการโคม่าเลยสักนิด ฉันเคาะประตูสามครั้งเบาๆไม่นานพยาบาลประจำตัวของคุณท่านก็เป็นคนเปิดประตูให้ฉันเข้าไป พอฉันเดินเข้าไปก็เห็นคุณท่านที่ร่างกายของท่านแข็งแรงดีไม่มีอาการของคนป่วยเลยสักนิดแถมตอนนี้ฟ้าครามก็ยังนั่งอยุ่บนตักของท่านฟังท่านเล่านิทานอย่างตั้งใจพอท่านเห็นว่าฉันเข้ามาท่านก็สิ่งยิ้มที่อบอุ่นมาให้ฉันรอยยิ้มของท่านทีไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ฉันรีบเดินไปนั่งแล้วก้มกราบท่านด้วยความคิดถึง จากนั้นท่านก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟังว่าที่จริงแล้วท่านไม่ได้ป่วยแต่เป็นแผนของคุณฮันเตอร์ที่อยากให้ฉันกลับมาก็เลยโกหกว่าคุณท่านป่วยโดยที่คุณฟิวเองก็ไม่รู้ว่าฉันจะมา คุณท่านเล่าให้ฉันฟังอีกว่าตั้งแต่ฉันไปคุณฟิวก็เอาแต่ร้องไห้ออกตามหาฉันไปทุกที่แต่ก็หาไม่เจอเขาเอาแต่โทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ท่านไม่เคยเห็นคุณฟิวเสียใจมากขนาดนี้มาก่อน ทำให้ท่านมั่นใจว่าคุณฟิวรักฉันแต่ปากแข็งไม่ยอมรับความจริงท่านอยากให้ฉันลองให้อภัยคุณฟิวสักครั้งแต่เรื่องนี้ท่านก็ไม่ได้บังคับท่านอยากให้ฉันตัดสินใจด้วยตัวเองว่าพร้อมที่จะอภัยให้โอกาสคุณฟิวหรือเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค่เมียคนใช้