แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 192

"เข้ามา ไปเชิญหมอจวน" กัวหงหยางไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ให้คนไปพาตัวหมอจวนมาโดยตรงเลย

ลั่วเสี่ยวปิงสังเกตเห็นว่า หลังจากที่กัวหงหยางออกคําสั่งแล้ว สีหน้าของกัวฮูหยินใหญ่ก็ยังคงเหมือนเดิม แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสบายและเยือกเย็น

ลั่วเสี่ยวปิงขมวดคิ้ว หรือว่าหมอจวนได้จากไปหรือเกิดเรื่องแล้ว หรือกล่าวได้ว่ากัวฮูหยินใหญ่มั่นใจว่าหมอจวนจะไม่ทรยศนาง?

ขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังคิดว่าคนของกัวหงหยางคงจับตัวของหมอจวนไม่ได้แน่เลย หมอจวนก็ถือนำตัวเข้ามาพอดี

ลั่วเสี่ยวปิงสังเกตเห็นว่าตอนกัวฮูหยินใหญ่เห็นหมอจวน เดิมทีสีหน้าที่สงบนั้นก็เริ่มตื่นเต้นขึ้น แถมยังมีความตื่นตระหนกที่ไม่อาจซ่อนเอาไว้ได้

เห็นได้ชัดว่า การมาของหมอจวนนั้นเกินความคาดหมายของนาง

แต่ว่าทำไมถึงเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่รู้เหมือนกัน

ต่อมา กัวหงหยางก็ถามคำถามหมอจวน และหมอจวนก็ตอบตามความจริงหมด

รวมทั้งฮูหยินใหญ่แสร้งทําเป็นป่วย วางยาในอาหารบำรุงสุขภาพและวางกลอุบายให้กับของใช้ของหราวชิงหย่า

สารภาพที่ดีๆเช่นนี้ ทําให้ลั่วเสี่ยวปิงนึกถึงจางหยวนว่ายที่อยู่ในศาลก่อนหน้านี้

จางหยวนว่ายในตอนนั้น ไม่รู้ว่าถูกฉีเทียนเห้าทําอะไรไป ดังนั้นทั้งสิ่งที่ควรพูดและไม่ควรพูดก็สารภาพออกมาหมดเลย

หรือว่าหมอจวนตรงหน้านี้ก็เป็นฝีมือของฉีเทียนเห้าเช่นกัน?

เมื่อคิดเช่นนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็รีบตัดความคิดนี้ของตัวเองทิ้ง

ฉีเทียนเห้าจากไปแล้ว จะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?

เมื่อหมอจวนสารภาพออกมาหมด สีหน้าของกัวหงหยางก็ดูแย่ยิ่งนัก อารมณ์ที่ถูกยับยั้งเอาไว้จะทนไม่ไหวอีกแล้ว

สีหน้าของกัวฮูหยินใหญ่ในขณะนี้นั้นก็ดูแย่มากเช่นกัน

ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกว่า เดี๋ยวคงต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่เลย จึงไม่คิดที่จะอยู่ต่อไป

เพราะมีเรื่องบางเรื่อง ฟังเยอะเกินไปก็ไม่ได้มีข้อดีอะไรเลย

เพียงแต่ว่าเมื่อลั่วเสี่ยวปิงกำลังจะออกไป ก็ได้ยินกัวหงหยางถามกัวฮูหยินใหญ่ด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยว่า "เป็นเพราะเหตุใด?"

ในขณะนี้ เขาเสียใจแล้วจริงๆ

แม่ของตัวเองทําร้ายภรรยาของตัวเอง และเขาก็เป็นเหมือนผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย

ลั่วเสี่ยวปิง:“……” ถามเรื่องส่วนตัวเช่นนี้ ควรเรียกคนอื่นออกไปก่อนไม่ใช่หรือ? นางไม่อยากฟังจริงๆ!

แน่นอนว่ากัวหงหยางและกัวฮูหยินใหญ่ทั้งสองคนไม่ได้ยินความคิดในใจของลั่วเสี่ยวปิงอยู่แล้ว

ในที่สุดเมื่อกัวหงหยางถามขึ้นอีกครั้ง กัวฮูหยินใหญ่ก็หยุดเสแสร้งสักที หลังจากหัวเราะเยาะแปลกๆ สายตาที่มองดูกัวหงหยางนั้นก็เต็มไปด้วยเกลียดแค้น

“ทําไมเหรอ? งั้นข้าจะบอกเจ้าในวันนี้เลยว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะอะไร” ท่าทางของกัวฮูหยินใหญ่ดูน่ากลัวเล็กน้อย

และเมื่อถูกสายตาเช่นนั้นจ้องมอง ในสายตาของกัวหงหยางนั้นก็มีความเจ็บปวดและสับสนเล็กน้อย ราวกับว่าได้คาดเดาอะไรบางอย่าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีเส้นสนกลในของเรื่องราวที่สลับซับซ้อนเลย

ส่วนลั่วเสี่ยวปิงที่เหมือนเป็นเครื่องประดับ สีหน้าของนางในตอนนี้ดูค่องข้างมหัศจรรย์ยิ่งนัก

นางอยากถามว่า ไม่ต้องการให้คนอื่นออกไปก่อนจริงๆเหรอ? นางไม่อยากฟังความลับเยอะแยะไรจริงๆ!

แต่ บรรยากาศในห้องนั้นแปลกประหลาดมาก ลั่วเสี่ยวปิงรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพื้นหลังอยู่เงียบๆดีกว่า ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งเสียง

ส่วนเด็กทั้งสองคน ก็คงจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เพียงแค่จูงมือซ้ายและขวาของแม่ตัวเอง อานอานอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่ได้ส่งเสียงอะไร

"เพราะ เจ้าคือลูกของนังสารเลวนั้นไงละ!" ใบหน้าของกัวฮูหยินใหญ่เต็มไปด้วยความแค้น "ข้าเป็นคนชอบเขาก่อนแท้ๆ แต่นังสารเลวนั้นกลับก้าวเข้ามา กําเนิดเจ้าแล้วยังไม่พอและยังจะพาเขาไปด้วย ในเมื่อพวกเขาทำกับข้าเช่นนี้ งั้นข้าก็จะทำให้พวกเขาไร้ผู้สืบสกุลซะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"

กัวฮูหยินใหญ่พูดเช่นนี้แล้ว คนทั้งคนก็ดูบ้าคลั่งไปหน่อย

ลั่วเสี่ยวปิงมองดูกัวฮูหยินใหญ่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย กัวฮูหยินใหญ่ที่เป็นเช่นนี้ดูแล้วเหมือนจะเป็นฮิสทีเรีย

แต่ต่อมา สายตาที่กัวฮูหยินใหญ่มองดูกัวหงหยางก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นหลงใหลและเต็มไปด้วยความแค้น

ในฐานะผู้ชม ลั่วเสี่ยวปิงสามารถวิเคราะห์ได้อย่างสงบ แต่กัวหงหยางในขณะนี้ ดูจากสีหน้าแล้ว ควรจะเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความจริงเช่นนี้ได้

แม่ที่เรียกมาหลายปี กลับไม่ใช่แม่ผู้ให้กําเนิด แต่เป็นแม่บุญธรรม และแม่บุญธรรมที่เขาคิดว่านางรักตัวเองยิ่งนักนั้น แท้ที่จริงแล้วกลับเกลียดและแค้นตัวเอง……

ใครก็ตามเมื่อได้ยินเรื่องแบบนี้ ก็ไม่สามารถยอมรับได้ในชั่วขณะนั้น

ในห้องกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง

หลังจากผ่านไปนาน กัวหงหยางจึงพูดด้วยความอ่อนเพลียว่า:"มา ส่งฮูหยินใหญ่กลับบ้านเก่า"

เขาไม่สามารถให้อภัยและไม่ลงโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำกับหย่าเอ๋อร์นั้น

แต่ยังไงนางก็ได้เลี้ยงดูเขามาตั้งหลายปี และเขาก็ไม่อาจไม่เห็นบุญคุณของนาง ดังนั้นส่งนางกลับไปที่บ้านเก่า เป็นวิธีการจัดการเดียวที่เขาสามารถคิดออกได้

เดิมทีกัวฮูหยินใหญ่ยังบ้าๆบอๆเล็กน้อย เมื่อได้ยินว่ากัวหงหยางจะส่งนางกลับบ้านเก่า ก็โมโหทันที

“ไอ้ลูกนังสารเลว เจ้าจะทำอย่างนี้กับข้าไม่ได้ ข้าคือแม่ของเจ้า!”

ถูกด่าว่าลูกนังสารเลว ในดวงตาของกัวหงหยางก็ยังคงมีความเจ็บปวดเล็กน้อย!”

เพราะใครก็ตามที่ถูกผู้เป็นแม่มานานหลายนั้นด่าเช่นนี้ ในใจก็จะต้องเศร้าอยู่แล้ว

แต่กัวหงหยางไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ มีมือปราบมาจับตัวของกัวฮูหยินใหญ่แล้วพาออกไปข้างนอก

"เจ้าทําแบบนี้กับข้าไม่ได้ ส่งข้ากลับบ้านเก่าไม่ได้ ข้าจะเป็นขุนนางหญิงระดับหนึ่ง ข้าจะอยู่ที่เน่าๆแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด"

กัวหลิงเคยเป็นเพียงข้าราชการชั้นต่ำ และเสียชีวิตไปตอนอายุยังหนุ่ม

กัวหงหยางเป็นเพียงนายอำเภอเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างไกลจากขุนนางระดับหนึ่งมากนัก ต่อให้กัวหงหยางได้เป็นขุนนางระดับหนึ่ง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะขอแต่งตั้งกัวฮูหยินใหญ่ให้เป็นขุนนางหญิงระดับหนึ่ง

ดังนั้น ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็คิดว่ากัวฮูหยินใหญ่พูดไปมั่วเท่านั้น และไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแต่ให้คนพากัวฮูหยินใหญ่ไปที่ห้องข้างๆเท่านั้น

แต่ในขณะนี้ พ่อบ้านของจวนกัวก็วิ่งมาอย่างรีบร้อน……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง