แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 244

ฉีเทียนเห้าไม่ได้กล่าวอะไร ยังคงมุ่งหน้าต่อไป

ซ่งหลิงหลิงเห็นดังนั้นก็ไม่สนใจอู้เจินอีกต่อไป รีบวิ่งตามขึ้นไป“เสด็จอาจะทิ้งข้าไปจริงๆหรือ? เสด็จอาดีที่สุดแล้ว ไม่ทำเรื่องเช่นนี้หรอกใช่หรือไม่”

ฉีเทียนเห้ารู้สึกเพียงแค่ว่าซ่งหลิงหลิงเสียงดัง เขาหยุดฝีเท้า หันไปมองซ่งหลิงหลิงด้วยสายตาเย็นชา

ซ่งหลิงหลิงถูกฉีเทียนเห้ามองจนคอหดลงไป แต่ยังคงยิ้มระรื่น“เสด็จอา ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนดีที่สุดแล้ว ข้า......”

“เจ้าตรงไปที่เมืองซีเหอเมืองแห่งอาหารก็พอ”

ซ่งหลิงหลิงตะลึง“เสด็จอา ท่านอยากจะทิ้งข้าไว้จริงหรือ?”

“หากเจ้าถูกคนในวังจับตัวกลับไปแต่งงานเพื่อผูกสัมพันธไมตรี ข้าจะไม่สนใจเจ้าอีกต่อไป”ฉีเทียนเห้ากล่าวเสียงเย็น

ซ่งหลิงหลิงเบะปาก“ข้าไม่อยากแต่งงานเพื่อผูกสัมพันธไมตรี หรือเสด็จอาจะขอข้าแต่งงานดี วิธีนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกมา ซ่งหลิงหลิงก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้“เสด็จอา ข้ารู้สึกว่าความคิดนี้ยอดเยี่ยมมาก อย่างไรเสียท่านก็ไม่ใช่เสด็จอาแท้ๆของข้า ท่านเองก็ไม่มีเสด็จอาสะใภ หากท่านแต่งงานกับข้า เสด็จพ่อก็จะไม่ให้ข้าแต่งงานเพื่อผูกสัมพันธไมตรีอีก”

“เจ้ามีเสด็จอาสะใภ”ฉีเทียนเห้ากล่าวอย่างเย็นชา

“เสด็จอาท่านเองก็รู้สึกว่าความคิดนี้ยอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่......ว่าอย่างไรนะ? ข้ามีเสด็จอาสะใภ?” ซ่งหลิงหลิงเบิกตากว้าง นางมีเสด็จอาสะใภตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เหตุใดนางถึงไม่รู้?

เพียงแต่ฉีเทียนเห้าไม่ได้ตอบคำถามของซ่งหลิงหลิงอีกต่อไป เขย่งเท้าแล้วก้าวขึ้นไปที่ชั้นบน

เมื่อซ่งหลิงหลิงวิ่งขึ้นไปถึงชั้นบน ก็ไม่มีเงาของเสด็จอาของนางอยู่ที่นั่นแล้ว

ตอนนี้เองซ่งหลิงหลิงถึงได้รู้ว่า ตัวเองถูกเสด็จอาทิ้งจริงๆ นางที่มีจิตใจหดหู่วิ่งไปบ่นกับอู้เจิน

“อู้เจิน เสด็จอาทิ้งข้าไว้จริงๆ”

“อู้เจิน ข้าน่าสงสารมากเลย เจ้าออกไปเที่ยวเล่นกับข้าเถอะ?”

“อู้เจิน เจ้าพูดปลอบใจข้าได้หรือไม่”

“อู้เจิน เสด็จอาให้ข้าไปที่เมืองซีเหอ ข้าเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็กๆหากไปคนเดียวคงอันตรายมาก เจ้าไปเป็นเพื่อนข้าดีหรือไม่?”

ในขณะที่ซ่งหลิงหลิงพูดคุยอยู่ตรงหน้าอู้เจินอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยนางมีความคิดที่ว่าอู้เจินจะไม่ตอบสนองตัวเองเหมือนเมื่อก่อน ทันใดนั้นอู้เจินก็เปิดปาก เอ่ยขึ้นมาว่า‘ตกลง’จนทำให้ซ่งหลิงหลิงลืมสิ่งที่ตัวเองเพิ่งกล่าวไปเมื่อครู่ทันที อู้เจินบอกว่าตกลงอะไรนะ......

วันเวลาล่วงเลยไป ในที่สุดก็ถึงก่อนวันแต่งงานที่ลั่วเสี่ยวปิงและฉีเทียนเห้าประกาศไว้หนึ่งวัน

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โรงงานเครื่องปรุงของลั่วเสี่ยวปิงเองก็ได้เปิดขึ้น แต่เนื่องจากการเตรียมการนั้นรีบร้อน ดังนั้นจึงรับสมัครคนงานมาเพียงห้าคนเป็นเวลาชั่วคราว

ช่วงนี้ในหมู่บ้านเงียบสงัด สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นก็คือสองแม่ลูกเหยียนขวนหายตัวไป

ในวันที่สามหลังจากที่เหยียนขวนเกิดเรื่อง คนที่อาศัยอยู่ข้างเรือนของแม่หม้ายหลี่ไปหานางที่เรือน ถึงได้พบว่าในบ้านตระกูลเหยียนไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น

ท้ายที่สุดแล้วก็ได้รู้จากปากของหัวหน้าหมู่บ้านว่า แม่หม้ายหลี่ขายเรือนพร้อมกับที่ดินออกไปแล้ว

เนื่องจากเป็นการยากที่จะหาผู้ซื้อได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นแม่หม้ายหลี่จึงขายที่ดินพร้อมทั้งเรือนให้กับหมู่บ้านก่อน โดยให้จางเต๋อหวั่งเป็นคนจ่ายเงิน

เมื่อรับเงินไปแล้ว แม่หม้ายหลี่ก็พาเหยียนขวนออกจากหมู่บ้านไปในชั่วข้ามคืน

จางเต๋อหวั่งคิดเพียงว่าการที่แม่หม้ายหลี่พาเหยียนขวนจากไปนั้นก็เพราะต้องการหลบเรื่องฉาวในตอนนี้ จึงได้ไม่คิดอะไรมาก

สำหรับลั่วเสี่ยวปิง หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองมากนัก

หากเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นกับเหยียนขวนแล้วเขายังคงอยู่ในหมู่บ้านต่อไป นางคงจะสงสัยว่าเหยียนขวนหน้าด้านเกินไปหรือเปล่า

ลั่วเสี่ยวปิงสามารถทำเป็นเพิกเฉยต่อเรื่องของผู้อื่นได้ แต่เรื่องของตัวเองกลับทำไม่ได้

เหลือเวลาเพียงหนึ่งวันก็จะแต่งงานแล้ว แต่เจ้าบ่าวฉีเทียนเห้ากลับยังไม่กลับมา และมีผู้คนจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้เข้าไปในเมืองพอดี ดังนั้นจึงมีชาวบ้านจำนวนมากมาถามถึงสถานการณ์ในตอนนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง มาถามลั่วเสี่ยวปิงว่าพรุ่งนี้จะยังจัดงานแต่งอยู่อีกหรือไม่

หัวหน้าหมู่บ้านจางเต๋อหวั่งและจางต้าฉวนก็ยิ่งมีแต่ความกังวล

สำหรับทุกคน ลั่วเสี่ยวปิงพูดตอบเหมือนกันทุกครั้งว่า:“บางทีเขาอาจจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นกับเขาจนต้องรั้งเขาไว้”

เมื่อส่งกลุ่มคนกลุ่มสุดท้ายกลับไป ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย

แม้ว่าฉีเทียนเห้าจะกลับมาทันในวันพรุ่งนี้จริงๆ แต่ที่นี่ยังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย หากเขากลับมาแล้วมันจะทำอะไรได้?

เมื่อคิดจนถึงตรงนี้ ลั่วเสี่ยวปิงจึงกล่าวกับเด็กทั้งสองคนว่า“พวกเจ้ารู้สึกว่าพ่อไม่กลับมาแต่งงานกับแม่ ดังนั้นถึงได้โกรธกันใช่หรือไม่?”

“อืม”เล่อเล่อพยักหน้า น้ำเสียงยังคงอู้อี้อยู่

ตอนนี้เองลั่วเสี่ยวปิงถึงได้มองไปทางอานอาน อานอานก็พยักหน้า

นอกจากเขาจะโกรธแล้ว ยังผิดหวังอีกด้วย

ลั่วเสี่ยวปิงเห็นดังนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อแก้ตัวให้กับฉีเทียนเห้า กล่าวเพียงแค่ว่า“ในเมื่อเขาไม่กลับมา เช่นนั้นงานแต่งครั้งนี้ก็ไม่ต้องแต่ง แล้วมันจะมีปัญหาอะไรล่ะ?”

แม้ว่าคำพูดเหล่านี้จะมีไว้ปลอบโยนเด็กทั้งสองคน แต่น้ำเสียง กลับมีความรู้สึกขุ่นเคืองที่แม้แต่ตัวลั่วเสี่ยวปิงเองก็ไม่รู้ มันมีความโกรธอยู่เล็กน้อย

“มีปัญหามาก!”

และในตอนนี้เอง จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

ไม่ทันรอให้ลั่วเสี่ยวปิงได้ตอบสนอง ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกเพียงแค่ว่าร่างกายของตัวเองหมุนวน แล้วตกไปอยู่ในอ้อมกอดที่หนาแน่น

สำหรับเล่อเล่อที่นอนอยู่บนตัวของลั่วเสี่ยวปิงก็ถูกสะบัดออกไป และถูกหนานเฉินรับไว้อย่างมั่นคง

“พาพวกเขาออกไป”ฉีเทียนเห้าไม่ได้มองอานอานและเล่อเล่อ ดวงตาคู่หนึ่งจดจ้องมองลั่วเสี่ยวปิง ในสายตามีแต่ความคิดถึงอันลึกซึ้ง

โชคดีที่เขากลับมาทัน หากเขากลับมาไม่ทัน เกรงว่าภรรยาที่ได้มาอยู่ในมือคงจะบินหนีไปแล้ว

จนกระทั่งวินาทีนี้ ฉีเทียนเห้าถึงได้รู้สึกถึงความกลัว

เล่อเล่อเมื่อได้เห็นฉีเทียนเห้าก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย และมีความประหลาดใจ ไม่ได้สนใจที่เมื่อครู่พ่อของตัวเองสะบัดตัวเองออกจากตัวท่านแม่เลย

สำหรับอานอาน เขายังคงมองฉีเทียนเห้าอย่างเย็นชา แม้ว่าหนานเฉินต้องการจะพาเขาออกไป เขาก็ไม่ยอม

ฉีเทียนเห้าเห็นว่าสองคนยังคงไม่ออกไป ถึงได้หันไปมอง แล้วสบตาเข้ากับดวงตาเย็นชาคู่นั้นของอานอาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง