จ้าวซื่อพูดยังไม่จบ ลั่วเสี่ยวปิงก็โยนฝาหม้อที่เป็นไม้หนาและหนักในมือไปทางนางโดยตรง จ้าวซื่อตกใจจนร้องเสียงแหลมติดต่อกัน
คนที่มาดูละครก็คิดไม่ถึงว่าลั่วเสี่ยวปิงจะมาไม้นี้ แต่ละคนล้วนตะลึงงันแล้ว
นี่เสี่ยวปิงไม่ได้มาให้ผู้อาวุโสตระกูลลั่วออกความคิดเห็นหรือ? ทำไมดูแล้วไม่เหมือนล่ะ?
เห็นสถานการณ์ไม่ถูก มีคนที่มีความคิดปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์เข้าใจความอ้อมค้อมในนั้นอย่างฉับพลัน จึงเอ่ยเตือนคนด้านข้างเบาๆ
“เมื่อครู่เสี่ยวปิงบอกว่า ในบ้านนี่ถูกขโมยอะไรไป พวกเจ้ายังจำได้หรือไม่?”
เมื่อคนผู้นี้เตือน คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็เข้าใจแล้ว
ยังมีเรื่องดีถือโอกาสหมุดเข้าไปในห้องครัวตอนที่จ้าวซื่อไม่ระวังตัว วิ่งไปด้านหน้าหม้อใบใหญ่นั่น
มองดูของในหม้อนั่น คนผู้นั้นก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
เนื้อเอย เกี๊ยวเอย พวกเขาล้วนไม่ได้กินมาเป็นเวลานานแล้ว
“เจ้าทำอะไร?” หลังจากที่จ้าวซื่อตกตะลึงแล้ว เห็นสวีต้าหนีที่ตะกละเป็นที่สุดผู้นั้นคิดต้องการจะหยิบจวักขึ้นมาขโมยอาหาร โมโหยกใหญ่ขึ้นมาทันที
ในบ้านนี้คนมากมาย แบ่งเข้าปากเดิมทีก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ นี่หากถูกคนขโมยไปคำหนึ่งเช่นนั้นนางก็น้อยไปคำหนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ?
เมื่อสวีต้าหนีเห็นว่าตัวเองถูกจับได้ ใบหน้าเหยเก “ข้า ข้าแค่นับเกี๊ยว”
พูดพลาง สวีต้าหนีก็เหลือบมองในหม้ออย่างรวดเร็ว และไม่ได้นับอย่างละเอียดว่ามีเท่าไหร่ ก็กล่าวเสียงดัง “มีเกี๊ยวยี่สิบตัวจริงๆ ยังมีเนื้ออีก”
สิ้นคำพูด สวีต้าหนีก็หมุดออกไปจากห้องครัวด้วยความรวดเร็วภายใต้สายตาที่เหมือนดั่งมีดอาบยาพิษเช่นนั้นของจ้าวซื่อ
คนอื่นๆที่มาดูความคึกคักหลังจากที่ได้ยินคำพูดของสวีต้าหนี แววตาก็เปลี่ยนไปทั้งหมดทันที
ทั้งเมล็ดแตงโม ทั้งไขมันทอด จำนวนเกี๊ยวยังมีเนื้อล้วนสอดคล้องกันหมด นี่จะต้องไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน
ว่าตามนี้เรื่องที่บ้านของลั่วเสี่ยวปิงถูกขโมยเข้าจะต้องเป็นบ้านเก่าตระกูลลั่วทำเป็นแน่แล้ว
“เมื่อครู่ตอนที่ข้ากินอาหารเย็นก็เห็นจ้าวชุนฮวาแบกตะกร้าสะพายหลังกลับมาจากปากทางหมู่บ้าน ข้ากลับยังแปลกใจอยู่เลยว่าค่ำขนาดนี้แล้วจ้าวชุนฮวายังจะออกจากหมู่บ้านทำไม แต่ที่แท้ก็กลับไปเป็นขโมยนี่เอง”
ฉับพลันนั้น หยินเสี่ยวหงภรรยาของจางต้าหลินที่อยู่ปากทางของหมู่บ้านที่สุดก็เปิดปากขึ้นอย่างฉับพลันในเวลานี้
หยินเสี่ยวหงและจ้าวชุนฮวาขัดหูขัดตามาโดยตลอด เวลาปกติก็มักจะแทรกขึ้นมากสองประโยคเสมอ นี่มาดูความคึกคัก แน่นอนว่าก็อยากเข้าร่วมด้วยเท้าหนึ่ง
เมื่อคำพูดนี้ของหยินเสี่ยวหงโพล่งออกมา สายตาของคนทั้งหมดก็ตกไปอยู่บนร่างของจ้าวซื่อ
จ้าวซื่อถูกสายตาเหล่านี้มองดูจนใบหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ใบหน้าใบหนึ่งแทบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้ว
คิดว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะหยินเสี่ยวหง จ้าวซื่อจึงโกรธมากจากหลายๆอย่าง พุ่งไปทางหยินเสี่ยวหง
“หยินเสี่ยวหงนังตัวดี วิ่งมาบ้านข้าใส่ร้ายป้ายสีข้ามั่วซั่ว ทำลายความบริสุทธิ์ของข้า ดูว่าข้าจะไม่ฉีกลิ้นของเจ้า ทำให้เจ้าไม่กล้าพูดจาเลอะเทอะอีก”
หยินเสี่ยวหงคิดไม่ถึงว่าจ้าวซื่อจะกล้าลงมือกับตัวเองต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้จริงๆ เวลาสั้นๆไม่สามารถดึงสติได้ ใบหน้าถูกจ้าวซื่อข่วนเป็นรอย เส้นผมก็ถูกจ้าวซื่อดึงจนยุ่งแล้ว
หวางต้าอิงและหยินเสี่ยวหงมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องสะใภ้กัน ไม่ว่าในวันธรรมดาความสัมพันธ์ของพี่น้องสะใภ้จะเป็นยังไง แต่ก็จะไม่มองดูพี่น้องสะใภ้ของตัวเองถูกคนรังแก ดังนั้นหวางต้าอิงจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยหยินเสี่ยวหง
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วในหมู่บ้านนี้ล้วนคุ้นเคยกับงานเกษตร มีแรงกำลังนี้แล้ว ทะเลาะวิวาทถลกหนังก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนา
หยินเสี่ยวหงและหวางต้าอิงสองพี่น้องสะใภ้ ใครก็รังแกได้ไม่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยินเสี่ยวหงนั่น ในเมื่อกล้าชี้จ้าวชุนฮวาออกมาต่อหน้าบรรดาผู้คนเช่นนี้ แน่นอนว่าก็ไม่มีความกลัว
“ป้าเฉิน คำพูดนี้ของท่านก็ชั่งกระทบกระทั่งคนอื่นเกินไปแล้ว นี่ข้าก็แค่เห็นว่าลูกๆของเสี่ยวปิงน่าสงสารเห็นแล้วก็พูดความจริงไปก็ถูกสะใภ้บ้านท่านตีแล้ว นี่เมื่อถูกตีแล้วยังจะไม่ยอมให้พวกข้าตีกลับอีก? หรือว่าอนุญาตเพียงคนของตระกูลลั่วของท่านตีคนได้ บ้านคนอื่นล้วนตีคนไม่ได้งั้นหรือ? ก็ไม่รู้ว่านี่เป็นหลักการอะไร”
หยินเสี่ยวหงตอกกลับโดยตรง ไม่มีความกลัวลั่วเฉินซื่อสักน้อย
และคำพูดนี้ของหยินเสี่ยวหง ลั่วเฉินซื่อก็ไม่กล้าต่อโดยสิ้นเชิง
ดูเหมือนว่าความคึกคักโดยส่วนใหญ่ล้วนเป็นของเหล่าสะใภ้ตระกูลจาง นี่หากจะพูดว่ามีเพียงตระกูลลั่วตีคนได้บ้านคนอื่นตีไม่ได้จริงๆ น้ำลายของแต่ละคนในตระกูลจางก็ล้วนทำให้นางจมน้ำตายได้
ชั่วครู่เดียว สีหน้าของลั่วเฉินซื่อก็ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก
ภายใต้ตระกูลลั่วที่มีบารมีอย่างสมบูรณ์ เคยถูกคนไม่เคารพเช่นนี้เมื่อไหร่?
ฟ่านลี่ฮัวตามหลังลั่วเฉินซื่อออกมา เห็นว่าแม่สามีของตัวเองถูกทำให้โกรธจนพูดไม่ออกแล้ว รีบเดินขึ้นหน้าไปทันที ฉีกยิ้มเล็กน้อย “นี่น้องสาวหยินเป็นคนตรงไปตรงมาที่สุด นี่ข้ารู้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้พี่น้องสะใภ้ของข้าไปตัดหญ้าให้หมูที่ข้างภูเขาแล้ว แต่ไม่ใช่ที่น้องสาวบอกว่าไปเป็นขโมย น้องสาวหยินอย่าได้ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด เกี๊ยวและชิ้นเนื้ออะไรนี่ ไม่ใช่ว่าบ้านใครก็จะสามารถกินได้”
จ้าวซื่อได้ยินพี่สะใภ้ใหญ่ของตัวเองพูดเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะสันหลังตรง ความละอายใจในตาสลายไป ท่าทางผ่าเผยไม่ได้ทำอะไรผิด
คิดว่าเมื่อครู่ตัวเองถูกตีก็เสียหน้าแล้ว จ้าวซื่อจึงอยากให้หยินเสี่ยวหงขอโทษแสดงการสำนึกผิด แต่คำพูดที่จะพูดออกจากปากกลับถูกสายตาของฟ่านลี่ฮัวจ้องเขม็งจนหยุดไปแล้ว
ในวันปกติจ้าวซื่อก็หวาดกลัวฟ่านลี่ฮัวพี่น้องสะใภ้ผู้นี้ที่สุด อย่างไรเสียฟ่านลี่ฮัวก็เป็นคนฉลาด ทั้งยังมีลูกชายที่มีความสามารถ ไม่แน่ว่าวันไหนบ้านรองของพวกนางอาจจะต้องพึ่งพาบ้านใหญ่
แต่เรื่องราววันนี้สุดท้ายก็ยังไม่สามารถปล่อยไปเช่นนี้ได้ จะต้องหาเหตุการณ์กลับมาหน่อย
คิดพลาง ดวงตาของจ้าวซื่อกลอกตาสองสามรอบ จึงเปิดปาก “อ้า ข้านึกออกแล้ว ตอนเช้าขณะที่ข้าไปซื้อของเหล่านี้กลับมา ก็ถูกสารเลวนั่น......เสี่ยวปิงนั่นเห็นเข้าแล้ว คงไม่ได้เป็นนางที่เป็นผีหิวโหยกลับชาติมาเกิดอยากกินของดี นี่จึงได้โกหกบอกว่าบ้านของตัวเองถูกขโมยล่ะสินะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...