แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 34

“ท่านแม่ เอาของกลับมาแล้วหรือ?” ดวงตาโตๆของเล่อเล่อกะพริบ มองดูลั่วเสี่ยวปิงอย่างตั้งหน้าตั้งตารอ

อานอานก็มองดูลั่วเสี่ยวปิง บนใบหน้าเล็กๆมีความเฝ้ารออย่างเปี่ยมล้นเช่นกัน

ลั่วเสี่ยวปิงพยักหน้า “เอากลับมาแล้ว เพียงแต่ของน้อยไปเล็กน้อยเท่านั้น แม่เอาไก่มาชดเชยตัวหนึ่งแล้ว”

ได้ยินว่ามีไก่ เล่อเล่อดีใจมากเชียว พูดตลอดว่าต้องการดูตะกร้าสะพายหลังของลั่วเสี่ยวปิง

ลั่วเสี่ยวปิงทำได้เพียงวางตะกร้าสะพายหลังลง เล่อเล่อมองดูแม่ไก่ในตะกร้าสะพายหลัง ใบหน้าตื่นเต้นยิ่งขึ้นแล้ว

“ท่านแม่ หลังจากนี้พวกเราก็จะมีไก่กินแล้วใช่หรือไม่?” เล่อเล่อถาม

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินก็ตะลึงทันที เดิมทีนางคิดว่าจะตุ๋นซุปไก่ให้เด็กทั้งสองกิน

ไม่ว่าอย่างไรเด็กทั้งสองก็ผอมเกินไปแล้ว นางอยากบำรุงให้ดีๆ

สำหรับอะไรอ่อนแอได้รับการบำรุงไม่ได้ จุดนี้นางไม่ได้รีบร้อน นางเป็นถึงเภสัชกรอัจฉริยะเชียวนะ จะให้เรื่องที่อ่อนแอจนบำรุงไม่ได้เกิดขึ้นได้อย่างไรล่ะ?

ยิ่งไปกว่านั้น นางยังมีน้ำแร่วิญญาณ

เห็นได้ว่าบนใบหน้าน้อยๆของเล่อเล่อและอานอานล้วนมีการตั้งหน้าตั้งตารอ ลั่วเสี่ยวปิงคิดว่าเลี้ยงไก่ตัวหนึ่งก็ไม่ได้ยุ่งยากลำบาก ทำใจเห็นพวกเขาเสียใจไม่ลง จึงพยักหน้าแล้ว

เวลานี้จางเฉินซื่อได้ถามลูกชายทั้งสองแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น อดที่จะเดินเข้ามาด้วยความกังวลใจเล็กน้อยไม่ได้

“เสี่ยวปิง ป้าใหญ่ของเจ้ามาหาอันอันและเล่อเล่อก็มาหาถึงบ้านข้าแล้ว คิดว่าไปที่บ้านเจ้ามาก่อนแล้ว นางวางแผนอะไรไว้กันแน่?”

ลั่วเสี่ยวปิงได้ยินดังนั้นสีหน้าท่าทางตกตะลึง

นางก็อยากรู้ว่าฟ่านลี่ฮัวตั้งใจวางแผนอะไรกันแน่ แต่เห็นได้ชัดว่าฟ่านลี่ฮัวจะไม่บอกตัวเอง และนางก็ชี้ขาดว่าฟ่านลี่ฮัวไม่ได้ประสงค์ดีแน่ อีกทั้งยังอาจจะมุ่งมาที่อานอานด้วย

กลัวว่าจางเฉินซื่อจะเป็นห่วง บวกกับไม่มีหลักฐาน ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้พูดสิ่งเหล่านี้กับจางเฉินซื่อ พูดเพียงฟ่านลี่ฮัวทำเช่นนี้เพราะต้องการจะอาเด็กทั้งสองไปบีบให้นางยอมจำนน

เพื่อสิ่งนี้จางเฉินซื่อก็ด่าทอฟ่านลี่ฮัวอีกยกหนึ่ง พูดโดยตรงว่าฟ่านลี่ฮัวหน้าไม่อายจะเอาเด็กไปซ้ำเติมผู้อื่น

เห็นว่าฟ้าจะมืดแล้วลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่ได้อยู่ต่อที่ตระกูลจาง พาเด็กทั้งสองเหยียบความมืดไปทางกลับบ้านแล้ว

เป็นดังคาด ในบ้านมีร่องรอยการถูกเข้ามาอีกแล้ว

ลั่วเสี่ยวปิงเน้นย้ำว่าจะต้องหาเงินให้ได้เร็วหน่อยอีกครั้ง เช่นนี้ก็สามารถสร้างบ้านที่มั่นคงได้หลังหนึ่ง และจะไม่มีผู้ใดเข้าออกบ้านของนางได้ตามอำเภอใจอีก

ในบ้านไม่มีเทียน ดีที่คืนนี้ดวงจันทร์แจ่มแจ้งดวงดาวบางตา หลังจากที่ลั่วเสี่ยวปิงต้มน้ำอาบให้เด็กทั้งสองตรงที่มีแสงจันทร์แล้ว ก็กล่อมเด็กทั้งสองเข้านอน

หลังจากเห็นเด็กสองคนนอนหลับอย่าสงบแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงยังไม่มีความอยากนอน

นึกได้ว่าตัวเองไม่ได้ไปในสเพซสองสามวันแล้ว ทันทีที่ความคิดเคลื่อนไหวก็อดไม่ได้แล้ว

ช่วงเวลาถัดไป ตัวของลั่วเสี่ยวปิงก็ปรากฏอยู่ในสเพซแล้ว

เพียงแค่เมื่อได้มองทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนว่า ลั่วเสี่ยวปิงตะลึงงันแล้ว

น้ำแร่วิญญาณของนางดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้นางตกใจที่สุดคือ สีเขียวชอุ่มทั้งผืนนั่นตรงหน้าของนาง

ในสีเขียวเขียวชอุ่มทั้งผืนนั้น มีกล้วยไม้สกุลหวายและต้นกล้าพริกเป็นพุ่มใหญ่มาก

นึกถึงวันนั้นที่ตัวเองขึ้นเขาไปเด็ดมา โยนเมล็ดกล้วยไม้สกุลหวายและต้นกล้าพริกเข้าไปในสเพซน้ำแร่วิญญาณแล้วก็ไม่ได้สนใจอีก แล้วมองดูสีเขียวทั้งผืนด้านหน้านั่นอีก ยังมีอะไรที่ลั่วเสี่ยวปิงไม่เข้าใจอะไรอีก?

เพียงแต่ เพิ่งจะเป็นเวลาสั้นๆไม่กี่วันสภาพของพืชที่โตขึ้นก็ทำให้คนชื่นชอบเช่นนี้ ต้นกล้าพริกเหล่านั้นถึงขนาดออกดอกออกผลแล้ว หรือว่าสเพซน้ำแร่วิญญาณของนางยังมีประสิทธิภาพในการพัฒนาการเติบโตของพืชได้อีกงั้นหรือ?

เพื่อยืนยันความคิดนี้ ลั่วเสี่ยวปิงเอากล้วยไม้สกุลหวายแบ่งเป็นสองสามต้น แล้วเอาต้นกล้าพริกที่เติบโตอย่างหนาแน่นเคลื่อนออกไปเล็กน้อย

หลังจากทุกอย่างของเมื่อคืนนี้ ลั่วเสี่ยวปิงก็ไม่รู้ว่าเป็นเวลาอะไรแล้ว

เพราะว่าเหนื่อยเกินไป นอกจากสเพซลั่วเสี่ยวปิงก็ปิดตาลงแล้วหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น ลั่วเสี่ยวปิงตื่นขึ้นมา หลังจากที่ช่วยอานอานและเล่อเล่อสวมเสื้อผ้าแล้ว ก็ถือโอกาสระหว่างช่วงที่เข้าห้องน้ำไปในสเพซ

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ซุปไก่ใส่เห็ดที่หอมหวนก็ทำเสร็จ และทำบะหมี่เตาเชียเมี่ยนต้มสุกอีกเล็กน้อย ราดซุปไก่ตุ๋นหอมหวนลงไป รสชาติอร่อยอย่างแท้จริง

สามแม่ลูกกินจนอิ่มมาก ลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าในหม้อยังมีซุปไก่อีกถ้วยหนึ่ง จึงตักใส่ถ้วยใหญ่หนึ่งถ้วย จากนั้นก็พาเด็กทั้งสองเดินเส้นทางเล็กไปที่ตระกูลจาง

คนของตระกูลจางได้จัดเตรียมไว้นานแล้ว เวลานี้กำลังเงยหน้าตั้งตารอลั่วเสี่ยวปิง ชำเลืองมองอยู่อย่างทนรอไม่ไหว

เห็นลั่วเสี่ยวปิงมาแล้ว ในที่สุดคนของตระกูลจางจึงได้วางใจ

“มาก็มาแล้ว ทำไมถึงยังได้เอาซุปไก่มาอีก?” จางเฉินซื่อมองดูซุปไก่ในมือของลั่วเสี่ยวปิง อดขมวดคิ้วไม่ได้

ลั่วเสี่ยวปิงกลับดึงดันยัดซุปไก่ใส่มือของจางเฉินซื่อ “ป้า มีเรื่องเมื่อวานนั้น เด็กสองคนนี้เอาไว้ที่บ้านข้าไม่วางใจ พาขึ้นไปบนเขาก็ยิ่งไม่สะดวก ข้าอยากไหว้วานป้าช่วยดูแลสักหน่อย”

นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมก่อนที่นางจะจากไปเมื่อคืนจึงได้ขอให้คนของตระกูลจางรอนางที่บ้าน

เมื่อจางเฉินซื่อได้ฟัง ก็ไม่มีอะไรให้ไม่ตอบรับ ซุปไก่ก็ให้รับไว้แล้วยกไปที่ห้องครัวแล้ว

รอจางเฉินซื่อเดินออกมาจากห้องครัว มองไปที่ลูกสะใภ้ของตัวเองเมี่ยวชุ่ยหลานโดยตรง “ชุ่ยหลาน เจ้าอยู่ที่บ้านดูแลเสี่ยวเหม่ยพอดี ถือโอกาสช่วยเสี่ยวปิงดูแลอานอานและเล่อเล่อด้วย”

ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเมี่ยวชุ่ยหลานแข็งทื่อแล้ว

นางอยากพาเสี่ยวเหม่ยขึ้นเขาไปด้วยกัน จำเห็ดทุกอย่างหาเงินใช้เองง่ายๆส่งไปให้บ้านของตัวเอง

เมี่ยวชุ่ยหลานอยากโต้แย้งคำพูดของแม่สามี แต่ภายใต้สายตาตักเตือนของแม่สามีตัวเองก็ทำได้เพียงพยักหน้าด้วยความไม่พอใจ

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้จางเฉินซื่ออยู่ในสายตาของลั่วเสี่ยวปิงเป็นธรรมดา แต่กลับไม่ได้เปล่งเสียงอะไร

เด็กทั้งสองที่อยู่ซ้ายขวานางก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้ตระกูลจางช่วยดูแลตลอดไป วันนี้ก็เพียงแค่แผนการชั่วคราวเท่านั้นเอง

นอกจากสอนตระกูลจางให้รู้จักเห็ดแล้ว นางยังอยากไปหายาสมุนไพรหรือเมล็ดพันธุ์ในภูเขาอีกเล็กน้อยไปปลูกไว้ในสเพซของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่สามารถพาเด็กทั้งสองไปได้

จัดการที่อยู่ให้เด็กทั้งสอง คนกลุ่มหนึ่งก็เดินในเส้นทางเล็กอย่างเอิกเกริก เข้าไปที่ภูเขาทางนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง