จุดประสงค์ของลั่วเสี่ยวปิงไม่ใช่การแจ้งศาล
สิ่งที่พวกเขาทำไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาติดคุก
ส่วนภูมิหลัง....ในเมื่อฉีเทียนเห้ากล่าวคำเหล่านั้นก่อนที่จะจากไป เช่นนั้นเขาต้องรู้อะไรอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากตนเองไปแจ้งศาล อาจจะไม่ได้รับข่าวคราวเพิ่มเติมจากพวกเขามากนัก
ดังนั้นสิ่งที่นางต้องการคือทำให้คนเหล่านี้รู้สึกหวาดกลัวในใจ และไม่กล้าออกมาก่อเรื่องต่อหน้านางอีก
เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะเอ่ยปาก
ดังนั้นเมื่อเห็นย่าเถียนขอความเมตตา ลั่วเสี่ยวปิงจึงแสดงท่าทีไม่สะทกสะท้าน
คราวนี้ย่าเถียนจึงยิ่งกังวลมากขึ้นไปอีก
บางครั้งเมื่อคนเราเริ่มกลัวอะไรบางอย่าง ในใจก็จะคิดไปถึงสิ่งที่ตนเองหวาดกลัว และยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว
ในเวลานี้ย่าเถียนก็เป็นเช่นนั้น
หากไม่ใช่เพราะไม่ถูกกาลเทศะ ย่าเถียนคงอยากจะเป็นลมไปแล้ว
“เสี่ยวปิง เจ้า....” ย่าเถียนต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร สุดท้ายย่าเถียนจึงคุกเข่าไปทางลั่วเสี่ยวปิง
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของคนนอก แม้ว่าจะตัดขาดสัมพันธ์กันแล้ว ตนเองกับย่าเถียนก็ยังเป็นยายกับหลาน ดังนั้นลั่วเสี่ยวปิงไม่มีทางให้ย่าเถียนคุกเข่าให้ตนเอง
แน่นอนว่านางต้องการคุกเข่า จึงไม่ยอมให้ช่วยพยุง
ฉะนั้นทันทีที่ย่าเถียนคุกเข่าลง ลั่วเสี่ยวปิงก็หลบหลีกไม่ให้ย่าเถียนคุกเข่ามาทางตนเอง เพื่อไม่ให้คนรอบข้างกล่าวว่านางได้
เมื่อผู้คนเห็นการกระทำของย่าเถียน ก็อดไม่ได้ที่จะมองอย่างตกตะลึง
นี่....นี่คงกลัวว่าจะต้องไปพบศาล ถึงได้ตื่นตระหนกเช่นนี้?
ใช่ ในฐานะสามัญชน ไม่มีใครไม่กลัวที่จะไปพบศาล
แต่ก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครกลัวที่จะไปพบศาลจนทำเช่นนี้
เมื่อมองดูหญิงชราที่สีหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ราวกับว่าจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ หรือว่านางทำเรื่องอะไรที่น่าละอาย?
ในขณะที่ผู้คนกำลังวิพากษ์วิจารณ์
เดิมทีหลี่เสี่ยวฮวาคิดว่าลั่วเสี่ยวปิงเป็นแค่เสือกระดาษ (แสดงท่าทีประหนึ่งว่ามีอำนาจแต่ความจริงไม่มี) จึงไม่กลัวที่ลั่วเสี่ยวปิงข่มขู่ว่าจะไปแจ้งศาล
แต่เมื่อเห็นท่านย่าของพวกเขาตกใจกลัวจนคุกเข่าลง พวกเขาก็หวาดกลัวเล็กน้อย
เมื่อลั่วเสี่ยวปิงเห็นว่าย่าเถียนยังต้องการคุกเข่ามาทางตนเองด้วยท่าทีที่ตกใจกลัวจนแทบจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ จึงกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “หากไม่ต้องการให้ข้าแจ้งศาลก็ได้”
ย่าเถียนมองไปที่ลั่วเสี่ยวปิงอย่างคาดหวัง และรอให้ลั่วเสี่ยวปิงเอ่ยปาก
“ข้าอยากรู้เรื่องในตอนนั้น” ลั่วเสี่ยวปิงจ้องมองไปที่ย่าเถียน
ย่าเถียนโงนเงนจนเกือบล้มลง แต่แววตาเป็นประกายขึ้นมา “ข้า ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไร”
ผู้คนต่างสับสนงุนงง
พวกเขาคิดว่าลั่วเสี่ยวปิงจะพูดถึงเงื่อนไขมากมาย แต่ไม่คิดเลยว่าลั่วเสี่ยวปิงจะพูดถึงเรื่องอะไรในตอนนั้น
วันนี้ย่ายายและหลานมาเชือดเฉือดกันที่นี่ เกี่ยวอะไรกับเรื่องกวนใจในตอนนั้น?
หลี่เสี่ยวฮวายังคงสับสนงุนงง “ท่านย่า เรื่องอะไรกัน ในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น?”
เดิมทีเมื่อได้ยินลั่วเสี่ยวปิงพูดถึงเรื่องในตอนนั้น ย่าเถียนก็หวาดกลัว และเมื่อเห็นหลานสาวเอาน้ำมันมาราดกองไฟ นางก็ยิ่งโกรธจัด “เจ้าคนไร้ประโยชน์ หุบปาก! ”
หลังจากด่าจบ ย่าเถียนก็พบกับแววตายิ้มที่ดูเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้มของลั่วเสี่ยวปิง
เมื่อเห็นท่าทางของลั่วเสี่ยวปิง ย่าเถียนก็รู้สึกว่าตนเองถูกมองอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่มีทางที่จะปกปิดได้
ในเวลานี้ลั่วเสี่ยวปิงเอ่ยปากอีกครั้ง “หากท่านไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เช่นนั้นข้าจะไปแจ้งศาล คิดว่าศาลน่าจะสืบหาความจริงได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่เสี่ยวฮวาก็ยิ่งเป็นกังวล
“ท่านย่า ในตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น? มีอะไรที่ทำให้พวกเราต้องตกอยู่ในมือของนางหรือไม่? พวกเรา.... ”
ลั่วเสี่ยวปิง “ขึ้นอยู่กับว่าย่าเถียนจะยอมพูดอะไร”
ย่าเถียนรู้สึกว่าอึดอัดใจมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าอันที่จริงแล้วลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้พูดหรือทำอะไร แต่ย่าเถียนรู้สึกว่าลั่วเสี่ยวปิงน่ากลัวเป็นพิเศษ
ในขณะนี้นางเริ่มตำหนิหลี่ชุยหวนขึ้นมา
หากไม่ใช่เพราะนาง นางจะไม่เกรงกลัวได้อย่างไร?
ทั้งหมดเป็นเพราะหญิงชั่วผู้นั้น
ในตอนนั้นนางไม่ควรทำเช่นนั้น ถึงแม้ว่าจะทำ ก็ไม่ควรทิ้งความหายนะไว้ หากบีบคอเด็กนั่นให้ตาย คงจะไม่มีเรื่องมากมายเช่นนี้?
ย่าเถียนครุ่นคิดและหวนนึกถึงหมู่บ้านหลี่เจียในปีนั้น....
นับตั้งแต่ขายบุตรสาวทั้งหมดออกไป ย่าเถียนใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านอย่างสบายใจที่สุด บุตรชายก็เลี้ยงดูจนอ้วนท้วมสมบูรณ์
ครอบครัวอื่นล่าเหยื่อมาแต่ไม่กล้ากิน จึงนำไปขายเพื่อแลกอาหาร มีเพียงครอบครัวของนางที่มีเหยื่อแล้วได้กินอย่างอิ่มหมีพีมัน ปกติแล้วยังสามารถเฉือดหมูได้ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแค่ไหน และสามารถเดินได้ด้วยตนเอง
ต่อให้มีคนในหมู่บ้านแอบพูดกันว่านางมีชีวิตที่ดีได้เพราะการขายบุตรสาว แต่ย่าเถียนก็ไม่คิดอะไร แค่คิดว่าคนเหล่านั้นอิจฉาตนเอง
วันหนึ่งย่าเถียนออกไปเดินย่อยข้างนอกและกลับเข้าบ้าน นางได้ยินเสียงร้องของทารกออกมาจากในบ้าน
หลังจากแน่ใจว่าตนเองไม่ได้มาผิดที่ ย่าเถียนก็วิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความประหลาดใจและดีใจ
เพราะย่าเถียนถือว่าบุตรชายคนโตของตนเองมีความสามารถ และพบหญิงสาวที่ให้กำเนิดบุตรได้แล้ว ในตอนนี้หญิงสาวคงจะพาเด็กมาหาถึงหน้าประตู
ย่าเถียนคิดว่าหากเป็นเด็กผู้หญิงจะเลี้ยงดู และขายเป็นเงินในภายหน้า หากเป็นเด็กผู้ชายก็จะเป็นหลานชายคนโตของตนเอง และจะดูแลเป็นอย่างดี
ส่วนแม่ของเด็ก?
เหอะ จะให้มาเป็นอนุภรรยาหรือ ตระกูลหลี่ของนางไม่สามารถเลี้ยงดูอนุภรรยาได้ จึงต้องขับไล่ออกไป
ย่าเถียนคิดไว้อย่างสวยงาม แต่เมื่อเข้ามาในห้องโถง ทันทีที่เห็นหญิงสาวที่คุ้นเคยนั่งอยู่ในห้องก็ตกตะลึง
“เจ้า.... ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...