แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 363

"ท่านพ่อ ท่าน....."

ลั่วเสี่ยวจู๋มองลั่วต้าโซ่วที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร ในดวงตามีความตื่นตระหนก แต่ก็สงบลงมาอย่างรวดเร็ว แล้วยิ้มให้ลั่วต้าโซ่วเล็กน้อย "พ่อ ท่านยืนอยู่ตรงนั้นทำไมหรือ? พ่อหิวแล้วใช่ไหม? ข้าเอาของอร่อยมาฝากท่านด้วยนะ"

ลั่วเสี่ยวจู๋พูดพลาง เดินเข้าไปหาลั่วต้าโซ่ว

ลั่วต้าโซ่วมองลั่วเสี่ยวจู๋ เงียบไม่พูดจา แต่ตัวกลับเข้าไปในรั้วลานบ้าน

พอลั่วเสี่ยวจู๋เดินตามเข้ามาแล้ว ลั่วต้าโซ่วก็มองลั่วเสี่ยวจู๋ด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง "เสี่ยวจู๋ ทำไมเจ้าถึงเป็นคนเนรคุณเช่นนี้?"

"ท่านพ่อ ท่านพูดอะไร? เนรคุณเมื่อไรกัน?" ลั่วเสี่ยวจู๋แสร้งโง่ ทำสีหน้าไร้เดียงสา

ลั่วต้าโซ่วเห็นท่าทีเช่นนี้ของลั่วเสี่ยวจู๋แล้ว ก็ยิ่งรู้สึกผิดหวัง

"ในตอนนั้นที่เสี่ยวปิงช่วยชีวิตเจ้า เจ้าไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในบุญคุณ แต่กลับเนรคุณเช่นนี้ วางแผนทำร้ายเสี่ยวปิง ข้า...... ข้าลั่วต้าโซ่วไม่มีลูกสาวที่จิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่าเช่นเจ้า"

ลั่วต้าโซ่วโมโหจริงๆ

หลังจากลูกสาวฟื้นขึ้นมา เขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของลูกสาว และรู้ว่ามีความขัดแย้งระหว่างนางกับเสี่ยวปิง

แต่เขาคิดว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ระหว่างพี่น้อง ขัดแย้งกันเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

แต่เขาไม่คาดคิดว่า เสี่ยวจู๋จะไปวางแผนทำร้ายเสี่ยวปิงโดยตรง

บุญคุณในตอนนั้นที่เสี่ยวปิงขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรกลางดึกเพื่อเสี่ยวจู๋ เขาจำใส่ใจมาโดยตลอด ไม่สามารถตอบแทนได้ เขาก็พยายามไม่อยู่ใกล้ ไม่สร้างเรื่องรบกวนนาง และเวลาก็ผ่านพ้นไปนานขนาดนี้แล้ว

แต่ใครจะรู้ว่า ลูกสาวของตัวเองกลับกลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวายหรืออย่างไร?

อยู่ในตระกูลลั่วถูกกดขี่ข่มเหงมาเนิ่นนาน ความโหดร้ายของคนตระกูลลั่วเขาก็มองออก ชีวิตนี้เขาต้องการเพียงแค่มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ไม่เคยคิดทำร้ายใคร และก็ไม่อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆ ในตระกูลลั่วด้วย

แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า ลูกสาวของตัวเอง จะมีเลือดที่ไม่ดีเหมือนกับพวกเขาเหล่านั้นในตระกูลลั่ว

ลั่วต้าโซ่วไม่มีวัฒนธรรมมากนัก จึงไม่เข้าใจว่าตอนนี้ภายในใจของตนเองรู้สึกอย่างไร รู้เพียงว่าเป็นทุกข์อย่างมาก

เดิมทีลั่วเสี่ยวจู๋ก็รู้สึกหวาดกลัวกับท่าทีของพ่อตนเอง แต่เมื่อได้ยินเขาใช้คำว่าจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่ามาบรรยายตนเอง ยังบอกไม่รู้จักลูกสาวคนนี้ของตัวเองเพื่อลั่วเสี่ยวปิงอีก ลั่วเสี่ยวจู๋ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

"ข้าเนรคุณหรือ? ข้าจิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่าหรือ? ท่านมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้าเช่นนี้?" ลั่วเสี่ยวจู๋ตาแดงก่ำ

ความยากลำบากของนาง ใครเล่าจะรู้?

ในตอนนั้นที่นางต่อสู้ดิ้นรนอย่างทรมาน ใครเลยจะเข้าใจความสิ้นหวังนั้น?

นางต้องการจะมีชีวิตที่ดีขึ้น นางจึงใช้วิธีของตัวเองเพื่อป่ายปีนขึ้นไป แล้วมันผิดตรงไหน?

หรือว่า นางยังจะต้องมีชีวิตอย่างสุกเอาเผากินเช่นนั้นเหมือนชาติที่แล้วอีกหรือ?

"ชีวิตของข้าคือพระเจ้าที่เป็นคนช่วยชีวิตเอาไว้ ไม่ใช่ลั่วเสี่ยวปิงช่วยเอาไว้ ถ้าหากพวกท่านต้องการเป็นสุนัขของลั่วเสี่ยวปิง พวกท่านก็ไปเอง อย่าพาฉันไปด้วย"

ลั่วเสี่ยวจู๋ยิ่งคิดยิ่งโมโห พูดจาก็ไม่มีหนักเบา

และภายในใจของนาง ก็รู้สึกว่าชีวิตของตนเองคือพระเจ้ามอบให้นางจริงๆ

ถ้าหากไม่ใช่เพราะพระเจ้าเห็นอกเห็นใจที่นางมีชีวิตที่ยากลำบากในชาติที่แล้วละก็ จะให้นางกลับมามีชีวิตนี้ได้อย่างไร?

ส่วนลั่วเสี่ยวปิง นางมีความสามารถที่จะเปลี่ยนโชคชะตาได้หรือ?

อย่าล้อเล่นไปหน่อยเลย!

พูดไม่ได้ว่าชาติที่แล้วของลั่วเสี่ยวปิงแตกต่างกับชาตินี้ ที่ไม่อายุสั้นก็เพราะการฟื้นคืนชีพอีกครั้งของนาง ควรที่จะให้ลั่วเสี่ยวปิงขอบคุณนาง ไม่ใช่ให้ตนเองไปขอบคุณลั่วเสี่ยวปิง

ฉะนั้น ชัดเจนว่าลั่วเสี่ยวปิงที่ไม่รู้บุญคุณคน มีสิทธิ์อะไรมาว่านาง?

มีสิทธิ์อะไร?

หวางซื่อได้ยินเช่นนั้น ก็รีบพยักหน้า

ลั่วเสี่ยวจู๋กระตุกมุมปาก ยิ้มเยาะถากถาง หลังจากนั้นก็ชี้นิ้วไปลั่วฝูซิงตรงหน้าประตู

"เขา ข้าส่งเขาไปโรงเรียน ยากลำบากเพียงใด พวกท่านรู้หรือไม่?"

หวางซื่อ : "รู้สิ บ้านเราหากไม่มีเจ้า ก็คงไม่มีวันชื่นคืนสุขในวันนี้หรอก......"

"ไม่จริง ท่านไม่รู้หรอก!" ลั่วเสี่ยวจู๋กล่าวตัดทอนคำพูดของหวางซื่ออย่างรวดเร็ว "ฝูซิงมีพรสวรรค์ในการเล่าเรียน ข้าต้องการให้เขามีฝีมือความสามารถมากยิ่งขึ้น ข้าจึงจัดการอย่างยากลำบาก เพื่อต้องการให้เว่ยต้าหรูรับฝูซิงเป็ลูกศิษย์ แต่ลั่วเสี่ยวปิงนางทำอะไรเล่า?"

"ลั่วเสี่ยวปิง ให้ลูกชายของนางมาแย่งชิงพื้นที่ของฝูซิง เดิมทีแล้วฝูซิงควรจะเป็นลูกศิษย์ของเว่ยต้าหรู ลูกชายของลั่วเสี่ยวปิง จะคู่ควรได้อย่างไรกัน?"

ผู้หญิงคนหนึ่งที่พึ่งพิงผู้ชายมาจนถึงวันนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเพราะการเกิดใหม่ของตนเองจึงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีสิทธิ์อะไรจะมามีโอกาสที่ดีกว่าตนเองได้เล่า?

ลั่วฝูซิงได้ยินเช่นนี้ ก็ไม่สนใจความหวาดกลัวอีกต่อไป เดินเข้ามาแล้วกล่าวว่า "ท่านพี่ ข้าเล่าเรียนสู้อานอานไม่ได้ อานอานถูกเว่ยต้าหรูรับเป็นลูกศิษย์ ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว"

ลั่วฝูซิงพูดตามความเป็นจริง ก่อนหน้านี้อานอานก็เคยแอบสอนเขา เขารู้สึกว่าอานอานเก่งอย่างมาก

อานอานเล่าเรียนอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเลยสักนิด แต่เขากลับเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก แต่เพื่อไม่ให้ความยากลำบากของพี่สาวต้องเสียเปล่า เขาจึงขยันหมั่นเพียรมากยิ่งขึ้น

แต่เขารู้ดีว่า ตนเองไม่สามารถเทียบอานอานได้

สำหรับเว่ยต้าหรูนั้น ในช่วงเวลาที่ลั่วฝูซิงอยู่ที่โรงเรียนก็เคยได้ยินมาแล้ว และได้ยินจากปากพี่สาวว่าอานอานเป็นลูกศิษย์คนใหม่ของเว่ยต้าหรู ลั่วฝูซิงเมินเฉยต่อสีหน้าที่ไม่น่าดูของลั่วเสี่ยวจู๋ และกล่าวอย่างดีใจว่า "ท่านพี่ ท่านบอกว่าอานอานเป็นลูกศิษย์ของเว่ยต้าหรู นี่เป็นเรื่องจริงหรือ? นี่เป็นเรื่องที่ดี ข้าจะไปหาอานอาน......"

"เพียะ——"เสียงดัง คำพูดของลั่วฝูซิงถูกตัดบท

ลั่วฝูซิงกุมใบหน้า ใบหน้ามองพี่สาวตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ไม่เข้าใจว่าตนเองถูกตบตีเพราะอะไรกัน

"ไอ้คนไร้ค่า!" ลั่วเสี่ยวจู๋ด่าทอออกมาอย่างโมโห "ส่งเสริมให้ผู้อื่นมีอำนาจแต่กลับดูถูกความสามารถของตนเอง ช่วงเวลาที่จ้าส่งเจ้าเล่าเรียนนี้หรือว่าจะเปล่าประโยชน์เสียแล้ว? เจ้าแยกถูกผิดไม่ได้ เช่นนั้นก็อย่าเรียนเลย"

หลังจากที่ลั่วฝูซิงถูกตบก็กุมใบหน้าตนเองด้วยความตกตะลึง มองเห็นพี่สาวตนเองด่าทอตนเองอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ ทันใดนั้น ลั่วฝูซิงก็วางมือลง ใช้แววตาที่เงียบสงบอย่างยิ่งมองไปยังลั่วเสี่ยวจู๋ "ท่านพี่......"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง