พอกัวหงหยางได้ฟังที่ท่านซุนพูด ปฏิกิริยาแรกแน่นอนว่าไม่เชื่อ
อยู่ดีๆใครจะไปเชื่อว่าจะเกิดเรื่องโรคระบาดขึ้นมาได้?
“ท่านซุน เรื่องแบบนี้ไม่สามารถล้อเล่นได้นะท่าน” กัวหงหยางสีหน้าจริงจัง
ท่านซุนก็ไม่ได้โกรธ เพราะว่าความจริงตอนที่เขารู้เขาก็ไม่ค่อยเชื่อ ชีพจรของเว่ยเจ๋อฉี ความจริงแล้วเขาก็ดูอะไรออกไม่มาก แค่รู้สึกว่าชีพจรอ่อนแรงมาก มีความรู้สึกเหมือนจะสิ้นใจแล้ว
แต่ว่า อาการของบ่าวรับใช้ของเว่ยเจ๋อฉี กลับทำให้เขาไม่เชื่อไม่ได้
โดยเฉพาะยังมีลูกศิษย์ที่ฝีมือทางการรักษาเยี่ยมกว่าเขาและลั่วเสี่ยวปิงรับรองจากการจับชีพจรแล้ว นี่ทำให้เขาจำเป็นต้องเชื่อว่าครั้งนี้เป็นโรคระบาดที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน
ความอันตรายของมัน เขาไม่อาจรู้ได้ รู้แค่ว่าสามารถทำให้คนถึงแก่ชีวิตได้
โรคระบาด ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเป็นเรื่องเล็กเลย
โดยเฉพาะโรคระบาดที่สามารถทำให้คนเสียชีวิตได้ เพราะว่ามีการแพร่ระบาด เพราะฉะนั้นโรคระบาดที่ทำให้คนตาย นั่นก็หมายความว่าจะมีคนจำนวนมากเสียชีวิต
เรื่องแบบนี้ต้องพบตั้งแต่เริ่มต้น ทำการป้องกันก่อน มิเช่นนั้นผลลัพธ์ไม่อาจคาดคิดได้
ท่านซุน “ข้าทำการรักษามานานปี ไม่ล้อเล่นแน่นอน”
กัวหงหยาง “ถ้าตามที่ท่านเห็น โรคระบาดครั้งนี้คืออะไร?”
ท่านซุนส่ายหน้า “ไม่ทราบ”
กัวหงหยางขมวดคิ้ว ท่านซุนรีบพูด “โรคระบาดครั้งนี้ ข้าไม่รู้จริงๆว่าคืออะไร เพราะว่าครั้งนี้เป็นโรคระบาดเชื้อตัวใหม่”
ก็เพราะว่าเป็นเช่นนี้ เรื่องถึงยิ่งจัดการยาก
ฟังถึงตรงนี้ กัวหงหยางก็ยังไม่เชื่อ
แม้กระทั่งท่านซุนยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ถ้าเช่นนั้นเขาจะเชื่อได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าท่านซุนจะเป็นหมอชื่อดังที่ได้รับการเคารพอย่างสูงในเขตนี้ แต่ผู้เป็นขุนนาง ก็ไม่สามารถเชื่อเขาเพราะว่าเขามีชื่อเสียงโด่งดัง
กัวหงหยางกำลังจะพูด ท่านซุนก็ถามขึ้นมาก่อน “ลั่วเสี่ยวปิง ท่านรู้จักไหม?”
กัวหงหยางในใจบีบแน่น “ข้ารู้จัก”
ท่านซุนถามต่อ “ถ้าเช่นนั้นท่านเชื่อนางหรือไม่?”
กัวหงหยางได้ยินแล้วไม่ได้ตอบคำถามท่านซุนทันที เพียงแค่รักษาความสงบ ดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองท่านซุนอย่างเคร่งขรึม มีความเฉียบแหลมอยู่บ้าง
ท่านซุนถามต่อ “ถ้าเช่นนั้นท่านรู้จักหมอเทวดามู่หยางหรือไม่”
กัวหงหยางขมวดคิ้ว “ท่านอยากพูดอะไร”
วินาทีนี้ ในใจกัวหงหยางมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี สองมือของขุนนางที่อยู่ภายใต้แขนเสื้อนั้นกำหมัดไว้แน่เพราะความรู้สึกของเขา
ท่านซุนสูดลมหายใจเข้าครั้งหนึ่ง พูดว่า “เรื่องนี้ถูกลั่วเสี่ยวปิงและหลานของข้าซุนมูหยางก็คือหมอเทวดามู่หยางยืนยันแล้ว”
“ปัง——”
ถ้วยน้ำชาข้างมือกัวหงหยางตกพื้น แตกแล้ว
“คำพูดนี้จริงหรือ?”
ขณะนี้วินาทีนี้ กัวหงหยางไม่ทันตะลึงที่หมอเทวดามู่หยางกลับเป็นหลานของท่านซุน ทั้งใจเต็มไปด้วยลั่วเสี่ยวปิงและหมอเทวดามู่หยางยืนยันแล้วว่าเมืองหลินอานมีโรคระบาด
โรคระบาดทุกครั้งล้วนต้องมีคนมากมายเสียชีวิต ขุนนางไม่ก็คือตาย หรือไม่ก็คือถามหาความรับผิดชอบหลังเหตุการณ์ ไม่มีอื่นใด
แต่ว่ากัวหงหยางในเวลานี้ห่วงอะไรมากมายไม่ได้ ทิ้งไม่ทิ้งตำแหน่งจะถูกถามหาความรับผิดชอบกับเขาหรือไม่ ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
วินาทีนี้ สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือชาวบ้านในเมืองทุกคน
“คือความจริง!”
เมื่อคำนี้ของท่านซุนพูดออกไปแล้ว กัวหงหยางรู้สึกว่าในสมองดังอื้อ มีอยู่ชั่ววินาทีนั้นสมองของเขาหยุดหมุน
ในเวลาสามวันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงไม่ได้สบายเลย
น้ำแร่วิญญาณสามารถรั้งชีวิตของเว่ยเจ๋อฉีได้เท่านั้น แต่รักษาเว่ยเจ๋อฉีให้หายไม่ได้
สามวันนี้ ลั่วเสี่ยวปิงทั้งวงล้อมเข็ม ทั้งน้ำแร่วิญญาณ ทั้งยาชนิดต่างๆ ถึงแม้อาการของเว่ยเจ๋อฉีคงที่แล้ว ไม่มีอันตรายต่อชีวิตแล้ว
แต่ว่า โรคระบาดไม่มีวิธีอะไรเลยแม้แต่น้อย
เพราะว่าเว่ยเจ๋อฉีร่างกายอ่อนเพลีย บางทียาบางอย่างลั่วเสี่ยวปิงไม่กล้าใช้ในตัวเว่ยเจ๋อฉี ดีที่ร่างกายของบ่าวรับใช้ข้างกายเว่ยเจ๋อฉีเว่ยหู่ดีกว่าเว่ยเจ๋อฉีมาก อาการก็เบากว่า เพราะฉะนั้นขนาดยาบางตัว ลั่วเสี่ยวปิงล้วนทดลองในตัวเว่ยหู่
หลังจากเว่ยหู่รู้ว่าตัวเองได้รับโรคระบาด ตอนแรกก็รู้สึกหวาดผวาหมดหนทาง หวาดกลัวทำอะไรไม่ถูก
แต่ว่ารับใช้เจ้านายอยู่ในตระกูลเว่ย คุณภาพทางจิตใจแน่นอนว่าแข็งแกร่งมากพอ ทุกครั้งที่เห็นลั่วเสี่ยวปิงรักษาตัวเองและคุณชายของบ้านตัวเองอย่างใจเย็นและตั้งใจ เว่ยหู่ก็เหมือนถูกโน้มน้าวไปด้วย ในใจก็สงบลงทันที
แน่นอน เป็นไปไม่ได้ทีลั่วเสี่ยวปิงจะหยิบของในช่องว่างอวกาศต่อหน้าเว่ยหู่ เพราะฉะนั้นยาและอาหารอะไรพวกนี้ โดยหลักแล้วล้วนส่งเข้ามาจากข้างนอก แล้วจากนั้นเธอก็เปิดประตูรับ
วันนี้ ยาก็ใช้หมดแล้ว
เพราะว่าเว่ยหู่กำลังเช็ดตัวให้เว่ยเจ๋อฉี เพราะฉะนั้นก็เป็นลั่วเสี่ยวปิงที่ไปเปิดประตูเอายาด้วยตัวเอง
เพราะคำสั่งของลั่วเสี่ยวปิง เขตห้องของเว่ยเจ๋อฉีถูกปิดกั้น ใครก็เข้ามาง่ายๆไม่ได้ คนส่งยาต่างก็วางไว้หน้าห้อง จากนั้นก็ออกไปแล้ว
เพราะฉะนั้นตอนที่ลั่วเสี่ยวปิงเปิดประตู ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย และไม่ได้มองไปในสวนบ้าน แค่เปิดประตูห้อง ก้มหัวแล้วหยิบของถุงใหญ่บนพื้น
ของเหล่านี้ล้วนเป็นของในรายการที่เธอจด วางอยู่บนถาดอาหารที่เธอใช้หมดและฆ่าเชื้อแล้ว ให้คนจัดเตรียมตามรายการของเธอ
แต่ทว่า หยิบของแล้วจะลุกขึ้นมา ลั่วเสี่ยวปิงก็ได้ยินเสียงสูดอากาศ แล้วก็ เสียงร้องไห้
ลั่วเสี่ยวปิงมือแน่น เหมือนเดาอะไรออกแล้ว ลั่วเสี่ยวปิงจับของในมือแน่น กดทับอารมณ์เหล่านั้นที่จะพุ่งออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นอย่างเรียบเฉย
แต่ว่า ตอนที่เห็นคนของตระกูลเว่ยที่อยู่กันเต็มหลังเส้นกั้นที่ถูกไป๋เสากั้นไว้ มือของลั่วเสี่ยวปิงของอดสั่นไม่ได้
คาดไม่ถึง มากันหมดเลย.......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง
สนุกแต่ทำไมคุยกับคนอายุเยอะกว่า เรียกเจ้า ๆ ข้า กับเจ้า ทำไม่ใช่ ท่าน เหมือนอันอัน อานอาน คุยกับพ่อ กับผู้ใหญ่ เรียกเจ้าอยู่เลย...
เนื่องนี้สนุกดี..ถึงแม้จะมีบางตอนที่เขียนเนือยไปหน่อย แต่ก็ตบกลับมาได้ 👍👍👍 คือ โอเคดีเลย...
ตอนที่ 19 - 20 หาย...
เรื่องนี้เคยลงจนจบแล้วหายไปไหนหมด เคยลงในreaderaz...